ก่อนที่ผมจะพูดถึงข่าวสารผลิตภัณฑ์ของเดือนนี้ ผมอยากจะชี้ให้เห็นทรัพยากรใหม่ๆ ที่สนับสนุนการทำงานนี้ เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เผยแพร่เว็บเพจที่ชื่อว่า ความยืดหยุ่นในที่ทำงาน เพื่อช่วยสาธิตว่าโซลูชัน Microsoft สามารถช่วยให้คุณส่งเสริมความยืดหยุ่นของบุคลากร ทีม และองค์กรที่ขยายใหญ่ขึ้นได้อย่างไร นอกจากนี้ เรายังเผยแพร่ คู่มือการทำงานเป็นทีมจากระยะไกล เพื่อแบ่งปันวิธีการที่คุณสามารถทำให้บุคลากรมีประสิทธิภาพและปลอดภัยได้จากทุกที่ด้วย Microsoft 365 และ Microsoft Teams และในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้เปิดตัว WorkLab ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ดิจิทัลที่มีไว้เพื่ออธิบายอนาคตของการทำงาน โดยนำข้อมูลมาจากการค้นคว้าและบทเรียนจากโรคระบาดในช่วงหนึ่งปี อย่าลืมตรวจสอบทรัพยากรทั้งสามอย่างและบอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร

เอาล่ะ ต่อไปก็เป็นช่วงข่าวสาร!

ห้องประชุมย่อย การเผยแพร่งาน การอนุมัติ และอื่นๆ ใน Microsoft Teams

การประกาศใหม่ใน Microsoft Teams ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการประชุมขนาดใหญ่ ช่วยเชื่อมต่อองค์กร ส่งเสริมเจ้าหน้าที่ค้าปลีกหน้างาน และอื่นๆ ได้ง่าย

ช่วยให้ผู้คนเชื่อมต่อถึงกันอย่างมีความหมายในการประชุมเสมือนขนาดใหญ่—เราตื่นเต้นที่จะได้ประกาศว่าหนึ่งในฟีเจอร์ Microsoft Teams ที่มีการร้องขอมามากที่สุดพร้อมให้ใช้งานทั่วไปแล้ว! ห้องประชุมย่อยทำให้การแบ่งการประชุมเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่ออำนวยความสะดวกในการพูดคุย จัดเซสชันระดมความคิด และกลุ่มการเรียนรู้เป็นเรื่องง่าย ผู้จัดการประชุมสามารถย้ายไปมาระหว่างห้องประชุมย่อย แจ้งประกาศถึงห้องประชุมย่อยทุกห้องพร้อมกัน และนำทุกคนกลับมาที่การประชุมหลักได้ตลอดเวลา แอสเซทการประชุมทั้งหมด รวมถึงไฟล์ ไวท์บอร์ด การบันทึก และสำเนาบทสนทนาของการประชุมนั้นพร้อมให้ผู้จัดการประชุมตรวจทานและใช้งานได้

เชื่อมต่อองค์กรของคุณตั้งแต่สำนักงานของบริษัทไปจนถึงส่วนหน้างานด้วยการเผยแพร่งาน—เมื่อใช้ฟีเจอร์การเผยแพร่ใหม่สำหรับงานใน Teams ลูกค้าจะสามารถดำเนินงานตามขนาดได้อย่างสอดคล้องกันในทุกสถานที่ขององค์กร ผู้นำในบริษัทและภูมิภาคสามารถสร้างและส่งงานไปยังตำแหน่งที่ตั้งที่เกี่ยวข้องและปรับแต่งเองได้ รวมถึงร้านค้าปลีกเฉพาะสาขา พร้อมกับติดตามความคืบหน้าผ่านรายงานอัตโนมัติในเวลาจริง ผู้จัดการมีเครื่องมือในการแนะนำกิจกรรมภายในร้านค้าที่ใช้งานง่าย และเจ้าหน้าที่หน้างานก็มีรายการลำดับความสำคัญง่ายๆ ซึ่งแสดงให้พวกเขาเห็นว่าต้องทำอะไรต่อไป การกำหนดเป้าหมายงาน การเผยแพร่ และการรายงานพร้อมให้ใช้งานทั่วไปแล้ว เมื่อต้องการตั้งค่างานในองค์กรของคุณ ให้ไปที่หน้าเอกสารสำหรับการตั้งค่าลำดับชั้นการกำหนดเป้าหมายทีมของคุณ

รวมการจัดการบุคลากรใน Microsoft Teams ให้เป็นหนึ่งเดียวผ่านความร่วมมือใหม่ของเรา—เราตื่นเต้นที่จะได้ประกาศความสามารถการจัดการบุคลากรใหม่ร่วมกับ Blue Yonder และ Reflexis ที่เป็นคู่ค้าของเรา จากการผสานรวมใหม่นี้ Microsoft Teams สามารถมอบประสบการณ์การจัดการบุคลากรที่สมบูรณ์แบบและครบวงจรมากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานสามารถดูและสลับกะ ตรวจทานกำหนดการของพวกเขา ทำการเปลี่ยนแปลง และอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องออกจาก Teams เลย

ติดตามและจัดการการอนุมัติจากภายใน Microsoft Teams เพื่อให้ได้ผลลัพธ์รวดเร็วยิ่งขึ้น—การอนุมัติช่วยให้คุณสามารถสร้าง จัดการ และแชร์การอนุมัติจากภายใน Teams ได้อย่างง่ายดาย โดยพร้อมใช้งานทั่วไปแล้ว เริ่มต้นโฟลว์การอนุมัติอย่างรวดเร็วจากที่เดียวกับที่คุณส่งแชท ในการสนทนาในแชนแนล หรือจากแอปการอนุมัติโดยตรง เพียงเลือกชนิดการอนุมัติ เพิ่มรายละเอียด แนบไฟล์ และเลือกผู้อนุมัติ เมื่อส่งแล้ว คุณจะสามารถตรวจทานและตอบกลับการอนุมัติตามที่จำเป็นได้ ติดตั้งแอปการอนุมัติวันนี้เพื่อเริ่มต้นใช้งาน

ลดความซับซ้อนของงาน รายการ และฟังก์ชัน

ความสามารถใหม่ๆ ช่วยให้จัดลำดับความสำคัญและจัดระเบียบงาน เข้าถึงรายการขณะเดินทาง และใช้ฟังก์ชันแบบกำหนดเองในเวิร์กบุ๊ก Microsoft Excel ได้ง่ายยิ่งขึ้น

นำรายการของคุณไปด้วยทุกที่ด้วยแอป Lists สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่บน iOS—ตอนนี้ แอป Lists สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่บน iOS จะมอบการเข้าถึงรายการของคุณด้วยฟังก์ชันการทำงานเต็มรูปแบบจาก iPhone ของคุณ ประสบการณ์ใหม่นี้ทำให้สามารถเปิดรายการที่อยู่เพื่อใช้อ้างอิงอย่างรวดเร็ว เพิ่มหรือแก้ไขรายการทันทีที่คุณต้องการ หรือสร้างรายการใหม่ตั้งแต่ต้นหรือจากเทมเพลตสำเร็จรูปได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย ดาวน์โหลดแอปทันทีจาก Apple App Store

จัดการงานของคุณได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วยระบบอัจฉริยะ—พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ To Do ภาษาอังกฤษบนเว็บ Microsoft To Do จะใช้ AI เพื่อช่วยคุณวางแผนวันให้ดียิ่งขึ้นและโฟกัสงานที่สำคัญสำหรับคุณได้ AI ใน To Do จะช่วยระบุงานที่อาจมีความสำคัญตามคำสำคัญและวันครบกำหนด และจะแนะนำงานดังกล่าวใน วันของฉัน เพื่อให้มั่นใจว่าคุณสามารถติดตามงานสำคัญและทำงานให้ลุล่วงได้มากขึ้นได้ในแต่ละวัน เริ่มต้นใช้งาน Microsoft To Do วันนี้ 

เปลี่ยนสูตร Excel เป็นฟังก์ชันแบบกำหนดเอง: ฟังก์ชัน LAMBDA ช่วยให้การแปลงสูตรเป็นฟังก์ชันที่นำไปใช้งานซ้ำได้กลายเป็นเรื่องง่าย เปลี่ยนสูตรเป็นฟังก์ชันแบบกำหนดเองด้วยชื่อเฉพาะที่สามารถนำไปใช้งานซ้ำได้อย่างง่ายดายตลอดสเปรดชีตของคุณ เข้าร่วมโปรแกรม Office Insider และเลือกช่องเบต้าเพื่อลองใช้ LAMBDA ใน Excel ก่อนใคร

สร้างไดอะแกรมที่สวยงาม

ความสามารถ Visio นำไอคอนใหม่ๆ และไอคอนที่คุ้นเคยไปยังไดอะแกรมของคุณ

แทรกไอคอนลงในไฟล์ Visio ของคุณและอื่นๆ—ในเดือนนี้ เราจะประกาศการอัปเดตสองสามอย่างที่คุณร้องขอ! อันดับแรก คุณสามารถเข้าถึงไลบรารีเนื้อหาของไอคอนและรูปที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งคุณสามารถแทรกลงในไดอะแกรม Visio ของคุณโดยตรงได้แล้ว หมุน เปลี่ยนสี และปรับขนาดเนื้อหาที่เลือกโดยไม่ทำให้คุณภาพของรูปลดลง ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานทั้งใน Visio สำหรับเว็บและแอป Visio บนเดสก์ท็อป อันดับที่สอง คุณสามารถปรับขนาดของหน้าให้พอดีที่รูปวาด Visio ของคุณได้แล้ว ฟีเจอร์ปรับให้พอดีกับรูปวาดพร้อมใช้งานใน Visio สำหรับเว็บแล้ว

แสดงไดอะแกรมเชิงสถาปัตยกรรม Azure ของคุณเป็นภาพโดยใช้รูปร่างล่าสุดใน Visio—แสดงการแสดงสถาปัตยกรรมโครงการพื้นฐานของคุณอาจมีคุณค่าอย่างมากต่อทีมของคุณระหว่างการออกแบบใหม่ การนำไปใช้ การทำเอกสาร และอื่นๆ เมื่อสองปีที่แล้ว เราได้เพิ่มรูปร่าง Azure ใน Visio ทำให้ง่ายต่อการสร้างไดอะแกรมสำหรับทอพอโลยีเครือข่าย การกำหนดค่าเครื่องแบบเสมือน การดำเนินการ และอื่นๆ เราตื่นเต้นที่จะได้ประกาศว่าเราเผยแพร่รูปร่าง Azure ล่าสุดมากกว่า 250 รูปร่างแล้ว ไอคอนที่รีเฟรชใหม่เหล่านี้ได้รับการปรับให้เข้ากับการออกแบบ Microsoft Fluent ได้ดียิ่งขึ้น และช่วยให้คุณสามารถสร้างไดอะแกรม IT ที่แสดงบริการ เครื่องมือ และเฟรมเวิร์กบนระบบคลาวด์ที่ทันสมัยจาก Azure ได้อย่างแม่นยำ เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้ไปที่โฮมเพจเว็บแอป Visio แล้วเลือกเทมเพลตไดอะแกรมที่ชอบเพื่อเริ่มต้นแสดงโครงสร้างพื้นฐาน Azure ของคุณอย่างรวดเร็ว ในแอปบนเดสก์ท็อป ให้เลือก ไฟล์ > ใหม่ > เทมเพลต > เครือข่าย > ไดอะแกรม Azure

สิ่งอื่นๆ ที่มาใหม่ในเดือนนี้

Application Guard ซึ่งช่วยปกป้องให้ผู้ใช้เดสก์ท็อปปลอดภัยยิ่งขึ้นและทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยการเปิดไฟล์ Microsoft Word, Excel หรือ PowerPoint ในคอนเทนเนอร์เสมือน พร้อมให้ทุกคนใช้งานแล้วด้วยการสมัครใช้งาน Microsoft E5 หรือ E5 Security

ตั้งแต่การช่วยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการประชุม Teams แบบเสมือนด้วยห้องประชุมย่อย ไปจนถึงการมอบประสบการณ์การจัดการบุคลากรแบบครบวงจรด้วยการร่วมมือใหม่ที่จะช่วยให้คุณมีสมาธิและทำงานต่อได้ด้วย AI ใน To Do ประสบการณ์ทั้งหมดเหล่านี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยส่งเสริมบุคลากรของคุณสำหรับโลกใบใหม่แห่งการทำงาน โปรดติดตาม—เราจะมีการประกาศที่น่าตื่นเต้นแบบนี้อีกในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

The post ตั้งแต่ห้องประชุมย่อยใน Microsoft Teams ไปจนถึง AI ใน To Do—ต่อไปนี้คือสิ่งที่มาใหม่ใน Microsoft 365 ในเดือนมกราคม appeared first on Microsoft 365 Blog.

ในเดือนนี้ เรามีฟีเจอร์และความสามารถใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้ในช่วง COVID-19 และหลังจากนั้น ตัวอย่างเช่น ความสามารถใหม่ใน Microsoft Teams ช่วยให้คุณจัดการการประชุมออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และโฟกัสมากขึ้น รวมทั้งมีโซลูชันเสมือนสำหรับการให้คำปรึกษาแบบตัวต่อตัวด้วย ไซต์การจัดการวิกฤตใน SharePoint จะช่วยให้องค์กรของคุณแชร์ข้อมูลระหว่างภาวะฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว และประสบการณ์การค้นหาที่ปรับปรุงใน Outlook ช่วยให้คุณหาสิ่งที่ต้องการในอีเมลและปฏิทินได้อย่างรวดเร็ว

ด้านล่างนี้ เราจะพาไปดูข่าวสารของ Microsoft 365 ในเดือนนี้ แต่ก่อนอื่น ผมอยากเชิญให้คุณฟังพ็อดแคสต์ Modern Workplace รายเดือนอีกครั้ง ครั้งนี้ พิธีกรคุณ Alex Bradley และผมพูดคุยกันถึงสิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานระยะไกล ทั้งจากประสบการณ์ของเราที่ Microsoft และประสบการณ์ของลูกค้าของเรา ลองฟังเลยครับ

จัดการประชุมออนไลน์ที่ครอบคลุมและโฟกัสมากขึ้น

ในเดือนนี้ เราได้ประกาศความสามารถใหม่ใน Teams มากมายซึ่งแสดงถึงพันธกิจของเราสองประการ: การสร้างประสบการณ์การประชุมแบบออนไลน์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา และการนำโซลูชันเทคโนโลยีมามอบให้กับเจ้าหน้าที่หน้างาน และพนักงานบริการดูแลสุขภาพ

เราทุกคนล้วนเคยอยู่ในการประชุมระยะไกลที่ผู้เข้าร่วมพิมพ์คีย์บอร์ดเสียงดัง หรือมีคนนั่งใกล้เครื่องดูดฝุ่นที่ทำงานอยู่ในพื้นหลัง การตัดเสียงรบกวนแบบเรียลไทม์ช่วยลดเสียงรบกวนในพื้นหลังที่ทำให้เสียสมาธิ ซึ่งช่วยให้คุณได้ยินสิ่งที่กำลังพูดอยู่

ในการประชุมขนาดใหญ่ บางครั้งการที่ผู้เข้าร่วมระยะไกลจะพูดแทรกขึ้นมานั้นเป็นเรื่องยาก ฟีเจอร์ยกมือจะช่วยให้ทุกคนในการประชุมส่งสัญญาณที่มองเห็นได้ว่ามีเรื่องที่ต้องการพูด

พนักงานในอุตสาหกรรมจำเป็นต้องสื่อสารและทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพขณะอยู่ในที่ที่ปลอดภัยไปพร้อมกัน ด้วยการรวมแบบใหม่ระหว่าง Teams และอุปกรณ์สวมศีรษะของ RealWear เจ้าหน้าที่หน้างานจะสามารถเข้าถึงข้อมูลและสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญระยะไกลได้จากไซต์งานของตนแบบแฮนด์ฟรี

การสร้างการประชุมแบบเสมือนเป็นความต้องการพื้นฐานของสถานการณ์ต่างๆ เช่น การให้คำปรึกษาผู้ป่วยในบริการดูแลสุขภาพ การประชุมกับลูกค้า หรือการสัมภาษณ์ผู้สมัครงาน แอป Bookings ใน Teams ซึ่งประกาศไปเมื่อต้นเดือนนี้ ช่วยให้จัดกำหนดการ จัดการ และสร้างการนัดหมายแบบเสมือนได้

Teams จะช่วยให้คุณสามารถเปิดแชทออกมาเป็นหน้าต่างแยกเพื่อช่วยให้เวิร์กโฟลว์ของคุณใช้ง่ายขึ้น และไปยังการสนทนาต่างๆ ที่ดำเนินอยู่ได้อย่างง่ายดายในเร็วๆ นี้

การสนับสนุนแบบออฟไลน์และสภาวะแบนด์วิดท์ต่ำช่วยให้คุณอ่านข้อความแชทและเขียนตอบได้แม้ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยให้คุณทำงานต่อไปได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด

เรายังเพิ่มอุปกรณ์ใหม่ที่ได้รับการรับรองสำหรับ Teams อีกด้วย Yealink VC210 ซึ่งวางจำหน่ายทั่วไปแล้ว สามารถส่งมอบประสบการณ์การประชุมสำหรับห้องประชุมที่มีขนาดเล็กกว่า ซึ่งติดตั้งและจัดการได้ง่าย นอกจากนี้ Bose Noise Cancelling Headphone 700 UC จะวางจำหน่ายช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิอีกด้วย

และสุดท้าย Microsoft 365 Business Voice ใน Teams ก็พร้อมใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกา ซึ่งช่วยให้ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถโทรออกและรับสายได้จากทุกแห่ง เรายังมีรายการแผน Microsoft 365 Enterprise ใหม่ที่มีตัวเลือกการให้สิทธิ์การใช้งานสำหรับเจ้าหน้าที่หน้างานเพิ่มเติม

ลองดูข้อเสนอ Microsoft 365 ใหม่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง

เดือนนี้เราเปิดตัว Microsoft 365 Personal และ Family ซึ่งเป็นนวัตกรรมจาก Office 365 ของเราเพื่อเป็นข้อเสนอสำหรับบุคลากรและครอบครัว เรายังประกาศการเปลี่ยนแปลงชื่อสำหรับข้อเสนอสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง รวมทั้งข้อเสนอ Enterprise หลายรายการด้วย ขณะนี้ Office 365 Business Essentials เปลี่ยนเป็น Microsoft 365 Business Basic, Office 365 Business Premium เปลี่ยนเป็น Microsoft 365 Business Standard และ Microsoft 365 Business เปลี่ยนเป็น Microsoft 365 Business Premium ส่วน Office 365 Business และ Office 365 ProPlus จะเปลี่ยนชื่อเป็น แอป Microsoft 365 แม้ปัจจุบันจะเป็นเพียงการเปลี่ยนชื่อเท่านั้น แต่เราก็รู้สึกตื่นเต้นเกี่ยวกับแอปและบริการใหม่ๆ ที่เราเพิ่มลงในการสมัครใช้งานในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เราจะเพิ่มในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องใน Microsoft 365 ซึ่งก้าวข้ามสิ่งที่ลูกค้าทั่วไปคิดกับ Office

การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉิน

สร้างไซต์การจัดการฉุกเฉินเพื่อเชื่อมต่อผู้คนและข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว—เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่น COVID-19 เน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างและเปิดรับการสื่อสารไว้เสมอ ไซต์การจัดการวิกฤตใหม่ใน SharePoint ช่วยให้องค์กรของคุณรวบรวมข่าวสาร ทรัพยากรที่เกี่ยวข้อง และการถามตอบสำคัญเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินภายในไม่เกินสองชั่วโมง เพียงไปที่เพจเริ่มต้นของ SharePoint ของคุณแล้วเลือก สร้างไซต์ > ไซต์การสื่อสาร เพื่อเริ่มกำหนดค่าข่าวสาร ลิงก์ การนำทางไซต์ บุคคลที่น่าสนใจ และอีกมากมาย

เชื่อมต่อและทำงานร่วมกันด้วยการอัปเดตแอปใหม่

เราขอประกาศการอัปเดตแอปใหม่เพื่อช่วยให้การสนทนาสะดวกสบายขึ้น สร้างเนื้อหาแบบมืออาชีพ และเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด

มีส่วนร่วมด้วยการสนทนา Yammer ภายในกล่องจดหมายโดยตรง—อีเมล Yammer แบบโต้ตอบใหม่ใน Outlook บนเว็บช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับการสนทนา โพล และคำถามของ Yammer และส่งคำชมได้ ขณะนี้คุณสามารถดูเธรดและการตอบกลับ การถูกใจ โหวต ไฟล์แนบ GIF ที่แชร์ของ Yammer อย่างเต็มรูปแบบได้ รวมไปถึงดูวิดีโอได้จากกล่องจดหมายของคุณโดยตรง ฟีเจอร์เหล่านี้พร้อมใช้งานแล้วสำหรับผู้เช่า Enterprise ที่มีการเผยแพร่ใน Outlook สำหรับ Windows, Outlook for Mac, และ Outlook สำหรับ iOS และ Android ซึ่งจะมาถึงในไตรมาสถัดไป

สร้างเนื้อหาแบบมืออาชีพได้ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย Office Mobile—คุณสามารถดูและแก้ไขข้อมูลได้แล้วใน Excel ในรูปแบบการ์ดเรียบง่ายที่จำแนกได้ โดยไม่จำเป็นต้องขยายคอลัมน์ที่ขยายออกเกินขีดจำกัดหน้าจอ และ PowerPoint Designer ที่มาใหม่ใน Office Mobile จะช่วยให้คุณสร้างงานนำเสนอแบบมืออาชีพด้วยไอเดียการออกแบบ การจัดรูปแบบ และการใช้ไอคอนสำหรับเนื้อหาของคุณ ฟีเจอร์เหล่านี้จะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าในแอป Office สำหรับ Android และ iOS

ทำงานร่วมกันบนเอกสารและมอบหมายงาน—ขณะนี้ผู้ใช้สามารถมอบหมายงานให้กับผู้ร่วมงานในเอกสารได้อย่างง่ายดายใน Word และ Excel สำหรับเว็บ เพียง @อ้างถึง เพื่อนร่วมทีมในข้อคิดเห็นของเอกสาร Word หรือ Excel แบบออนไลน์ กาเครื่องหมายในกล่องเพื่อมอบหมาย และเพื่อนร่วมทีมจะได้รับอีเมลแจ้งว่ามีงานมอบหมายให้ พร้อมลิงก์ไปยังเอกสารโดยตรง ฟีเจอร์นี้จะพร้อมใช้งานในเดือนเมษายน พร้อมงานใน PowerPoint บนเว็บที่จะมาถึงในเดือนมิถุนายน

เพลิดเพลินกับประสบการณ์การเชื่อมต่อใหม่ใน Visio สำหรับเว็บ—ฟีเจอร์ใหม่ใน Visio สำหรับเว็บจะช่วยให้ผู้ใช้ย้ายจุดเชื่อมต่อบนรูปร่างเพื่อการจัดแนวที่ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้สามารถเพิ่มลูกศรได้หลายเส้นระหว่างแต่ละรูปร่าง เพื่อแสดงความสัมพันธ์แบบปลายทางและต้นทางได้อย่างชัดเจน และอีกมากมาย ในการเริ่มต้นใช้งาน ให้โฮเวอร์บนขอบรูปร่างจนกว่าวงกลมสีเขียวจะเน้นจุดเชื่อมต่อที่เป็นไปได้ จากนั้นคลิกจุดที่ต้องการและลากตัวเชื่อมต่อไปยังจุดปลายทางที่ต้องการ ฟีเจอร์นี้พร้อมใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้ Visio Plan 1 และ Plan 2 ทั้งหมด

ค้นหาอีเมลและปฏิทินของคุณได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

เราขอประกาศนวัตกรรมใหม่ใน Microsoft Search ซึ่งจดจำภาษาธรรมชาติได้ ซึ่งเป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการค้นหาสิ่งที่คุณต้องการใน Outlook สำหรับ iOS และ Android ค้นหาอีเมล เหตุการณ์ในปฏิทิน ข้อมูลที่ติดต่อ และไฟล์ได้รวดเร็วและง่ายดายขึ้น โดยใช้ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อจำกัดการค้นหาของคุณ คุณสามารถพูดหรือพิมพ์ก็ได้ เรียนรู้เพิ่มเติมในบล็อกนี้

ทำให้งาน IT ทั่วไปง่ายขึ้น

เดือนนี้ เราขอประกาศบริการใหม่สองรายการเพื่อช่วยทำให้ทรัพยากรทั่วไปใช้ง่ายขึ้นสำหรับฝ่าย IT

เพิ่มความทันสมัยให้โครงสร้างพื้นฐานการพิมพ์ของคุณด้วยโซลูชันการพิมพ์ระบบ Cloud—เราขอประกาศตัวอย่างส่วนตัวของการพิมพ์สำหรับทุกอุปกรณ์ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานการพิมพ์ระบบ Cloud ใหม่ ที่สร้างประสบการณ์การพิมพ์ที่ปลอดภัยและเรียบง่าย ขณะนี้ องค์กรไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาเซิร์ฟเวอร์การพิมพ์ภายในองค์กร หรือติดตั้งโปรแกรมควบคุมเครื่องพิมพ์บนอุปกรณ์อีกต่อไป ซึ่งช่วยลดเวลาและการดำเนินการที่ฝ่าย IT ต้องใช้ในการดูแลรักษาสภาพแวดล้อมการพิมพ์ และผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์การพิมพ์ที่ไม่ซับซ้อน ซึ่งทำให้ง่ายต่อการค้นหาและพิมพ์ไปยังเครื่องพิมพ์ที่อยู่ใกล้เคียง ลูกค้าสามารถลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมในตัวอย่างส่วนตัวได้

ย้ายไฟล์ในคลาวด์ไปยัง OneDrive และ SharePoint ได้อย่างราบรื่น—เรารู้สึกยินดีที่จะได้ประกาศว่า Mover ซึ่งเป็นเครื่องมือการย้ายไฟล์จากคลาวด์ไปสู่คลาวด์พร้อมใช้งานแล้วสำหรับลูกค้า Microsoft 365 ทั่วโลก Mover สนับสนุนการโยกย้ายจาก Cloud Service Provider กว่าสิบราย รวมถึง Box, Dropbox, Egnyte และ Google Drive ไปยัง OneDrive และ SharePoint ช่วยให้ทำงานร่วมกันในไฟล์ได้อย่างราบรื่นในแอปและบริการของ Microsoft 365 Mover ช่วยจัดการไฟล์ที่อยู่ภายนอก Microsoft 365 ในข้อเสนอของ Cloud Service Provider อื่นๆ ได้อย่างง่ายดายและไม่แพง (เป็นบริการฟรี!) ในการเริ่มต้นใช้งาน ให้ลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลประจำตัวของ Office 365 และทำตามพร้อมท์

ตั้งแต่ความสามารถในการประชุมใหม่ใน Teams ไปจนถึงการอัปเดตที่ทำให้การจัดเก็บไฟล์ในคลาวด์ง่ายดายขึ้น ประกาศด้านบนแสดงให้เห็นถึงพันธกิจอันต่อเนื่องของเราที่จะปรับปรุงและพัฒนาเครื่องมือที่คุณใช้งานต่อไป เรายังต้องการยืนเคียงข้างคุณในช่วงเวลาอันสำคัญนี้ ในขณะที่องค์กรจำนวนมากกำลังปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานระยะไกลเต็มเวลา นอกเหนือจากการอัปเดตรายเดือนแล้ว เรายังใช้บล็อกนี้เป็นพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนเคล็ดลับ ข้อมูล และเรื่องราวของลูกค้าเกี่ยวกับการทำงานระยะไกล ดังนั้นอย่าลืมกลับมาที่นี่เพื่อดูการอัปเดตเป็นประจำนะครับ

The post ปรับปรุงการประชุมเสมือนและนำการให้คำปรึกษามาสู่ระบบออนไลน์ ต่อไปนี้คือรายการใหม่ใน Microsoft 365 เดือนมีนาคม appeared first on Microsoft 365 Blog.

ข้อควรทราบก่อนที่เราจะสำรวจดูรายละเอียด: เราใช้พื้นที่นี้เพื่อแบ่งปันเคล็ดลับ เรื่องราวของลูกค้า และข้อมูลตลอดช่วงการแพร่ระบาดของ COVID-19 โพสต์นี้คือการติดตามโพสต์ที่เราแชร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับเคล็ดลับสำหรับการเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลด้วย Microsoft Teams นอกจากนี้ เรายังให้คำแนะนำในเปลี่ยนไปใช้เหตุการณ์สดแบบออนไลน์ ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือของ Microsoft และข้อมูลเชิงลึกจากผู้นำกิจกรรมของเราที่ Microsoft และเรายังแบ่งปันคำแนะนำสำหรับแผนก IT และ CISO จากผู้นำในด้านต่างๆ เช่นกัน เราจะยังคงโพสต์เนื้อหาเกี่ยวกับการทำงานจากระยะไกลอีกในเร็วๆ นี้ ดังนั้น โปรดกลับมาตรวจสอบบ่อยๆ เอาล่ะ ต่อไปนี้คือบทเรียนจากสองสัปดาห์ที่ผ่านมาของเรา

1. แชร์คำแนะนำในการทำงานจากที่บ้าน

องค์กรส่วนใหญ่มีคู่มือการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีทำงานในสภาพแวดล้อมสำนักงานให้พนักงาน เมื่อเราเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกล เราจึงทราบได้อย่างรวดเร็วว่าพนักงานต้องการคำแนะนำสำหรับงานประเภทนี้เช่นกัน พวกเราหลายคนเพิ่งจะได้ทำงานจากระยะไกลเป็นครั้งแรก และมีเวลาน้อยมากในการเตรียมตัวสำหรับการเปลี่ยนแปลง ทีมของเรามีคำถาม: คุณจะกำหนดพื้นที่ที่สามารถตั้งใจทำงานได้อย่างไร คุณจะไม่พลาดข่าวสารได้อย่างไรเมื่อไม่ได้พูดคุยกันแบบเห็นหน้า เหตุใดจึงรู้สึกเหมือนไม่มีช่วงเวลาที่เหมาะสมให้หยุดพักเลย นอกจากนี้ ยังมีลูกๆ หรือสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นสภาพจริงที่พวกเราหลายๆ คนต้องพบเจอ การที่พนักงานบางคนจะพบกับอุปสรรคจึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

สัปดาห์ที่แล้วเราได้แจกจ่ายคู่มือการทำงานจากที่บ้านฉบับสมบูรณ์ให้กับพนักงานเพื่อจัดการความต้องการนี้ เราคิดว่าคุณอาจพบว่ามีประโยชน์ เราจึงสร้างเวอร์ชันลูกค้าให้คุณแชร์กับพนักงานของคุณตามที่เห็นสมควร คุณจะได้เรียนรู้เคล็ดลับสำคัญเกี่ยวกับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่การกำหนดพื้นที่ทำงานจริงและแบบเสมือนไปจนถึงแนวทางปฏิบัติสำหรับการแจ้งเวลาว่างให้เพื่อนร่วมทีมทราบ

2. จัดการการประชุมติดกัน

ในสำนักงาน การประชุมติดกันจะมีช่วงหยุดพักอยู่แล้ว เราสามารถเดินออกไปที่โถงทางเดิน มีช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อคุณมาถึงโต๊ะประชุมและรอให้คนอื่นๆ มาถึง และการสนทนาทั่วไปเมื่อเพื่อนร่วมทีมทักทายและพูดคุยกัน บ่อยครั้ง เราแทบไม่ได้สังเกตช่วงพักผ่อนสั้นๆ เหล่านี้เลยตลอดทั้งสัปดาห์ทำงาน จากนั้น เมื่อเราเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลและรับรู้ว่าเราโหยหาช่วงเวลาพักสั้นๆ สำหรับวันที่มีการประชุมอย่างต่อเนื่องมากเพียงใด

คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณและทีมของคุณประชุมกันได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ แต่ก็สามารถเว้นช่วงพักได้ด้วย เราส่งเสริมให้พนักงานจัดกำหนดการประชุมเพื่อสรุปข้อมูลห้านาทีก่อนสิ้นสุดชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมง วิธีนี้จะลดเวลาอยู่ร่วมกันลง แต่ก็ช่วยให้หลีกเลี่ยงอาการเหนื่อยล้าจากการประชุมติดกันโดยไม่มีการหยุดพักได้

3. สร้างพื้นที่ให้ผู้คนได้หยุดพัก

เมื่อเราทำงาน เราจะพบวิธีหยุดพักรายวัน โดยที่บ่อยครั้ง เราไม่ต้องลองค้นหาเลยด้วยซ้ำ การทำอาหารค่ำให้ครอบครัว การพบปะเพื่อนๆ ที่ชั้นเรียนการออกกำลังหลังเลิกงาน หรือการงีบหลับบนรถประจำทางขณะกลับบ้านช่วยให้เราได้พักผ่อนจากเหตุการณ์ในแต่ละวันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันใหม่ได้ แม้อยู่ในสถานการณ์ที่ดีที่สุด การหยุดพักเมื่อคุณทำงานจากระยะไกลก็อาจเป็นเรื่องที่ท้าทาย เราเริ่มเสนอเซสชันการทำสมาธิแบบเสมือนเพื่อช่วยเหลือพนักงานของเรา ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าร่วมได้เมื่อต้องการเวลาหยุดพักจากการทำงาน

ถ้าคุณเลือกที่จะทำแบบเดียวกัน ต่อไปนี้คือเคล็ดลับเชิงปฏิบัติบางอย่างในการแบ่งปันกับพนักงานที่ไม่เคยเข้าร่วมชั้นเรียนการทำสมาธิแบบออนไลน์มาก่อน ก่อนอื่น ให้ค้นหาพื้นที่เงียบสงบที่คุณจะไม่ถูกรบกวน จากนั้น ปิดเสียงไมโครโฟนของคุณเพื่อให้ผู้อื่นสามารถอยู่เงียบๆ ได้ และสุดท้าย ใช้กล้องของคุณเพื่อรับชมการแนะนำจากผู้นำเซสชันเกี่ยวกับเทคนิคการหายใจ เมื่อคุณรู้สึกว่าคุณเข้าใจดีแล้ว คุณสามารถปิดกล้องของคุณเพื่อตั้งใจทำสมาธิ

4. ผลักดันวัฒนธรรมของทีมอย่างต่อเนื่อง

วัฒนธรรมของทีมที่ดีจะขึ้นอยู่กับการนัดพบบ่อยๆ ตั้งแต่การประชุมสำหรับพนักงานทั้งหมดไปจนถึงการฉลองเหตุการณ์สำคัญเล็กๆ เมื่อพวกเราหลายๆ คนเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลอย่างกะทันหัน เราจึงต้องสลับเป็นโหมด “สิ่งจำเป็นเท่านั้น” โดยเลื่อนเหตุการณ์สำคัญและช่วงเวลาสนุกสนานของทีมจนกว่าสถานการณ์จะกลับเป็นปกติ

เราพบว่าทุกครั้งที่เป็นไปได้ เราควรสร้างวัฒนธรรมของทีมอยู่เสมอ แม้ว่าคุณต้องอยู่ห่างกันก็ตาม ต้องการจัดกำหนดการงานเลี้ยงวันเกิดสำหรับเพื่อนร่วมทีมใช่ไหม เข้าสู่การประชุม Teams และเปิด GIF สุขสันต์วันเกิด การประชุมฝ่ายขายนอกสถานที่ครั้งใหญ่กำลังจะมาถึงใช่ไหม เริ่มวางแผนจัดการประชุมแบบเสมือนแทน และถ้าถึงเวลาสังสรรค์ของทีมนอกสถานที่รายไตรมาส ก็จัดการเลย ทีมของคุณยิ่งกว่าพร้อมที่จะแบ่งปันแนวคิดและเชื่อมต่อกัน การพบปะกันที่ช่วยผลักดันวัฒนธรรมของทีมอาจทำได้จากระยะไกลได้ยากในช่วงแรก แต่ก็คุ้มค่าที่จะพยายามเป็นพิเศษเพื่อให้ทุกคนเชื่อมต่อและก้าวหน้าไปด้วยกัน

5. ฝึกฝนทักษะการจัดการที่สำคัญ

พนักงานต้องพึ่งพาผู้จัดการในการสอบถาม การให้คำแนะนำตลอดการเปลี่ยนแปลง และแสดงความสนใจในการช่วยพวกเขาสร้างและแก้ไขปัญหาได้ ขณะที่ทีมของคุณกำลังสำรวจวิธีใหม่ในการทำงาน พร้อมกับติดตามวิกฤติการสุขภาพระดับโลก พวกเขาต้องการการสนับสนุนของคุณในฐานะผู้จัดการมากกว่าที่เคย แต่คุณจะจัดการให้สำเร็จได้อย่างไร เมื่อคุณทำงานอยู่คนละที่

เราแบ่งปันสิ่งที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการจากระยะไกลในคู่มือการทำงานจากที่บ้าน ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียว การสอบถามบ่อยๆ และการให้คำแนะนำเพื่อนร่วมทีมเพื่อช่วยให้พวกเขาค้นหาแนวทางปฏิบัติสำหรับการทำงานจากระยะไกลของตนเองได้ ขณะนี้พนักงานทุกคนประสบปัญหาไม่ซ้ำกัน และพนักงานทุกคนมีวิธีแก้ไขสถานการณ์นี้แตกต่างกัน ในฐานะผู้จัดการ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องพยายามทำความเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของแต่ละบุคคลให้ได้มากที่สุด

บทเรียนเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงข้อสรุปเริ่มต้นบางส่วนของเราหลังจากการเรียนรู้จากระยะไกลสองสัปดาห์ ตั้งแต่การจัดกำหนดการประชุมเพื่อสร้างช่วงพักสั้นๆ ไปจนถึงการจัดการทีมระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพ เราค้นพบสิ่งต่างๆ มากมายเกี่ยวกับวิธีการทำงานใหม่นี้ ผมมั่นใจว่าบทเรียนเหล่านี้จะมีประโยชน์แม้ว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 จะสิ้นสุดลงแล้วก็ตาม เนื่องจากองค์กรต่างๆ ยังคงให้ความสำคัญกับการทำงานจากระยะไกล แต่เราต้องการรับฟังสิ่งที่คุณและทีมของคุณคิดและเรียนรู้ด้วยเช่นกัน โปรดเข้าร่วมการสนทนาในชุมชนใช้งานการทำงานจากระยะไกลของเรา

The post 2 สัปดาห์ที่กักตัว: เราได้เรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับการทำงานจากระยะไกล appeared first on Microsoft 365 Blog.

เราเข้าใจว่าในฐานะ SMB คุณไม่สามารถขาดการติดต่อได้ เราทราบว่าคุณต้องให้บริการลูกค้าที่มีอยู่ต่อไป เสนอขายธุรกิจใหม่ ประชุมกับพนักงาน และทำทุกอย่างเพื่อให้บริษัทของคุณยังคงดำเนินการต่อไปได้ นั่นคือเหตุผลที่เราทำให้ Microsoft Teams พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน แม้แต่องค์กรที่ไม่มี Office 365 ก็ตาม อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Teams และวิธีที่คุณสามารถเริ่มต้นใช้งานได้วันนี้

Microsoft Teams คืออะไร

Microsoft Teams คือโซลูชันซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ SMB สามารถดำเนินงานด้านธุรกิจที่สำคัญต่างๆ จากระยะไกลได้ เมื่อใช้ Teams คุณสามารถแชท ทำงานร่วมกัน และประชุมแบบเสมือนกับพนักงาน ลูกค้า ผู้จัดหา และคู่ค้าได้ แอป Microsoft Office จะอยู่ภายใน Teams คุณจึงสามารถใช้และแชร์ไฟล์ที่คุณสร้างใน Word, Excel, PowerPoint และ Outlook ได้โดยไม่ต้องออกจากเครื่องมือ เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้แบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับวิธีการเริ่มต้นทำงานจากระยะไกลด้วย Teams สำหรับทีมของเรา ถ้าคุณไม่เคยใช้เครื่องมือนี้หรือไม่เคยทำงานจากระยะไกลมาก่อน เคล็ดลับดังกล่าวสามารถช่วยให้คุณปรับตัวได้

ทำให้ Teams พร้อมใช้งานสำหรับทุกคน

Teams เป็นส่วนหนึ่งของ Office 365 ถ้าองค์กรของคุณมีสิทธิการใช้งาน Office 365 คุณจะมี Teams อยู่แล้ว และคุณสามารถเข้าสู่ระบบได้ที่นี่ แม้ว่าคุณจะไม่มี Office 365 เราก็ต้องการช่วยเหลือเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึง Teams ได้ระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ต่อไปนี้คือวิธีง่ายๆ ในการรับ Teams ให้ผู้ใช้ทุกคนในบริษัทของคุณทันที แม้ว่าคุณจะไม่มี Office 365 ก็ตาม

สำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจที่ซื้อโดยตรงจาก Microsoft.com

ถ้าคุณต้องการรับ Teams โดยตรงจาก Microsoft คุณสามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้:

• ลงทะเบียนรับ Office 365 Business Premium รุ่นทดลองใช้ฟรี ซึ่งมี Teams เวอร์ชันที่มีฟีเจอร์เต็มรูปแบบ
• ถ้าคุณใช้ที่อยู่อีเมลผู้บริโภค เช่น Gmail หรือ Outlook คุณสามารถลงทะเบียนรับ Teams เวอร์ชันฟรีได้โดยการไปตามลิงก์นี้

สำหรับธุรกิจที่คู่ค้าเป็นผู้ให้บริการ

ถ้าคุณเป็นลูกค้า Microsoft ใหม่หรือลูกค้าที่เป็นที่ยอมรับซึ่งยังไม่มีสิทธิการใช้งานที่มี Microsoft Teams (เช่น Exchange Online หรือ Office 365 Business) คุณสามารถทำงานกับคู่ค้าเพื่อรับ Teams รุ่นทดลองใช้ฟรีหกเดือนได้ ถ้าคุณยังไม่มีคู่ค้าและต้องการร่วมมือด้วย คุณสามารถค้นหาคู่ค้าที่มีความเชี่ยวชาญได้ใน Microsoft Teams โดยใช้ลิงก์นี้ ข้อเสนอนี้เหมาะสำหรับบริษัทที่มีผู้ใช้สูงสุด 1,000 คน

ในขณะที่พวกเราหลายๆ คนเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกล เราหวังว่า Teams จะสามารถช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ คุณจะพบคำตอบของคำถามที่ถามบ่อยบางส่วนจาก SMB เกี่ยวกับการเริ่มต้นใช้งาน Teams ทางด้านล่าง เมื่อคุณพร้อมที่จะใช้งานแล้ว ให้กลับมาดูเคล็ดลับ เรื่องราวของลูกค้า และบทความอธิบายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณปรับตัวเข้ากับการทำงานจากระยะไกลได้ เราจะร่วมเดินทางไปด้วยกัน และเรามุ่งมั่นช่วยเหลือลูกค้าทั้งหมดของเราในการดำเนินธุรกิจตลอดช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

คำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับ Teams

ถาม จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อบุคคลทั่วไปลงชื่อเข้าใช้ด้วยข้อมูลประจำตัวของที่ทำงาน
ตอบ ถ้าบุคคลทั่วไปมีสิทธิการใช้งาน Teams พวกเขาจะเข้าสู่ระบบผลิตภัณฑ์ ถ้าบุคคลดังกล่าวไม่มีสิทธิการใช้งาน Teams พวกเขาจะเข้าสู่ระบบผลิตภัณฑ์และได้รับสิทธิการใช้งาน Teams ฟรีที่สามารถใช้งานได้จนถึงเดือนมกราคม 2021 โดยอัตโนมัติ ซึ่งรวมถึงการประชุมทางวิดีโอสำหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 250 คน เหตุการณ์สดสำหรับผู้เข้าร่วมสูงสุด 10,000 คน การบันทึกและการแชร์หน้าจอ ตลอดจนการแชทและการทำงานร่วมกัน คุณสามารถดูรายละเอียดสำหรับฝ่าย IT ได้ในเอกสารฉบับนี้

ถาม Teams เวอร์ชัน freemium มีอะไรบ้าง
ตอบ เวอร์ชันนี้มีการแชทไม่จำกัด กลุ่มในตัว การโทรผ่านเสียงและวิดีโอแบบตัวต่อตัว ที่เก็บข้อมูลไฟล์ของทีมขนาด 10 GB และที่เก็บข้อมูลไฟล์ส่วนบุคคลขนาด 2 GB ต่อผู้ใช้หนึ่งราย นอกจากนี้ คุณจะสามารถทำงานร่วมกันในเวลาจริงได้ด้วยแอป Office สำหรับเว็บ รวมถึง Word, Excel, PowerPoint และ OneNote โดยไม่มีวันหมดอายุ ดูรายละเอียดที่นี่

ถาม เวอร์ชัน freemium จำกัดจำนวนผู้ใช้หรือไม่
ตอบ ไม่ ไม่มีขีดจำกัดจำนวนผู้ใช้

ถาม ฉันสามารถจัดกำหนดการประชุมในเวอร์ชัน freemium ได้หรือไม่
ตอบ ในอนาคต เราจะทำให้ผู้ใช้สามารถจัดกำหนดการประชุมได้ ในระหว่างนี้ คุณสามารถดำเนินการประชุมและการสนทนาทางวิดีโอโดยไม่ต้องเตรียมการณ์ล่วงหน้า

ถาม เคล็ดลับสำหรับการทำงานจากที่บ้านของคุณคืออะไร
ตอบ ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ทีมของเราเพิ่งเผยแพร่รายการเคล็ดลับ Teams นอกจากนี้ Lola Jacobson ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเขียนอาวุโสด้านเทคนิคของเราได้โพสต์เคล็ดลับเพิ่มเติมสี่ข้อเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และเราได้อัปเดตหน้าสนับสนุนพนักงานที่ทำงานจากระยะไกลโดยใช้ Microsoft Teams บน docs.Microsoft.com เราจะมีเนื้อหาเพิ่มเติมเรื่อยๆ โปรดติดตามต่อไป

The post การช่วยเหลือธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางให้ทำงานจากระยะไกลด้วย Teams appeared first on Microsoft 365 Blog.

ข้อควรทราบก่อนที่จะอ่านต่อไป คือ: เคล็ดลับเหล่านี้เป็นความพยายามต่อเนื่องของเราเพื่อช่วยให้ทุกคนยังคงเชื่อมต่อกันและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลายากลำบากเช่นนี้ สัปดาห์ที่แล้วผมได้แชร์วิธีสำหรับบุคคลและองค์กรในการรับ Teams ฟรี พร้อมแผนครอบคลุมของเราเพื่อให้บริการดำเนินผ่านวิกฤตินี้ไปได้อย่างราบรื่น เรายังแชร์เรื่องราวน่าทึ่งจากลูกค้าและพนักงานทั่วโลก รวมไปถึงครูและนักเรียนในฮ่องกง ซึ่งใช้เทคโนโลยีสำหรับนวัตกรรมอีเลิร์นนิงอันยอดเยี่ยม และลูกค้าทั้งในและบริเวณรอบจีน ผู้ค้นพบวิธีการอันชาญฉลาดเพื่อให้งานเดินหน้าต่อไปได้อีกด้วย แต่ลูกค้าของเราก็ยังขอคำแนะนำในการเปลี่ยนไปทำงานระยะไกลด้วยเช่นกัน เราจึงจะนำเสนอเคล็ดลับ ข้อมูล และเรื่องราวของลูกค้าที่สร้างแรงบันดาลใจตลอดช่วงการระบาดครั้งนี้ ดังนั้นอย่าลืมกลับมาแวะดูที่นี่นะครับ

การเริ่มต้นใช้งาน

เมื่อเปลี่ยนไปทำงานระยะไกล คุณจะประสบความสำเร็จได้ด้วยนิสัยหลักๆ ต่อไปนี้

สร้างพื้นที่ทำงานของคุณ

ถ้าคุณไม่มีออฟฟิศในบ้าน ก็ไม่เป็นไรครับ คุณยังทำงานจากที่บ้านอย่างมีประสิทธิภาพได้ อันที่จริงแล้ว เราออกแบบ Teams ขึ้นมาเพื่อให้เป็นออฟฟิศเสมือนที่คุณพาไปได้ทุกที่ แม้อาจจะไม่มีเครื่องพิมพ์ แฟ้มจริงๆ หรือโทรศัพท์ประจำโต๊ะที่บ้าน แต่ก็ดึงเอกสารออกมาจาก Teams ได้โดยตรง จัดเก็บไฟล์ไว้อย่างปลอดภัยในตำแหน่งซึ่งให้คนที่เหมาะสมเข้าถึงได้ รวมทั้งโทรและประชุมได้อย่างรวดเร็ว แต่อย่างที่บอก การมีพื้นที่ทำงานในบ้านโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นที่ที่คุณจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและส่งสัญญาณถึงคนอื่นว่าห้ามรบกวนได้นั้น เป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่าจะมุมทานอาหารเช้า มุมเงียบๆ ในห้องนอน โต๊ะเล่นเกมที่ไม่ค่อยได้ใช้ในห้องนั่งเล่น พื้นที่ใดที่ช่วยให้มีสมาธิล้วนใช้เป็นพื้นที่ทำงานได้ทั้งสิ้น และไม่ต้องกังวลหากห้องจะรกสักหน่อยในวันนั้น คุณสามารถใช้การเบลอพื้นหลังระหว่างการประชุมผ่านวิดีโอได้ เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมมองเฉพาะคุณ

สื่อสาร สื่อสาร และสื่อสาร

แม้พวกเราหลายคนจะทำงานจากบ้านอย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่ง แต่ก็ยังคงอาศัยกิจวัตรและช่วงเวลาทำงานหลักซึ่งกำหนดขึ้นตามที่เรามาทำงานจริงที่ออฟฟิศ  เมื่อทำงานจากบ้าน กิจวัตรประจำวันของคุณอาจเปลี่ยนไป ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงโดยเฉพาะกับผู้ที่ต้องรักษาสมดุลระหว่างการทำงานและการเลี้ยงลูก พูดคุยสื่อสารเรื่องเวลาการทำงานของคุณกับสมาชิกทีมและผู้ร่วมงานให้ชัดเจน เพื่อให้ทุกคนทราบว่าต้องติดต่อคุณในเวลาใด คุณยังตั้งข้อความสถานะใน Teams เพื่อแชร์ข้อมูลนี้ล่วงหน้าได้อีกด้วย

และรายงานความคืบหน้ากับสมาชิกทีมเป็นประจำให้เป็นนิสัย บริษัทที่ทำงานระยะไกลเต็มรูปแบบมักจะเน้นย้ำเรื่องการจัดทำเป็นเอกสาร เนื่องจากเป็นวิธีสำคัญที่ให้ทุกคนเชื่อมต่อกันอยู่เสมอเมื่อทำงานแยกกัน เราขอแนะนำให้โพสต์การอัปเดต ข้อมูลเชิงลึก และทรัพยากรที่มีประโยชน์ที่คุณค้นพบในแชนเนลของ Teams เพื่อให้สมาชิกทีมยังคงเชื่อมต่อกับงานที่คุณทำอยู่ได้ แม้จะไม่ดีเท่าการพูดคุยกันตรงโถงทางเดินโดยบังเอิญก็ตาม หลังจากนั้น สมาชิกจะสามารถค้นหาไอเดียหรือเนื้อหาต่างๆ ในแชนเนลได้เมื่อต้องการ

รักษาขอบเขตที่ช่วยให้ดีต่อสุขภาพ

เมื่อไม่มีสัญญาณต่างๆ แบบในวันทำงานตามปกติ เช่น การเดินไปทานมื้อเที่ยงหรือการเดินทางกลับบ้าน การหยุดทำงานอาจกลายเป็นเรื่องท้าทาย บางครั้งพนักงานที่ทำงานระยะไกลก็พบว่าตัวเองทำงานเป็นเวลายาวนานโดยไม่ได้พักออกกำลังกาย สังสรรค์ หรือรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม ซึ่งนำไปสู่สภาวะเครียดและหมดไฟได้อย่างรวดเร็ว จำไว้ว่าสุขภาพคุณต้องมาก่อน กำหนดเวลาสำหรับรับประทานอาหาร ดื่มน้ำมากๆ และเตือนตัวเองให้ “เลิกงาน” จากการทำงานระยะไกลเมื่อหมดวันด้วย พฤติกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะยาวอีกด้วย

การจัดประชุมที่มีประสิทธิภาพ

เตรียมใช้การประชุมแบบออนไลน์

เมื่อไม่มีห้องประชุมจริงๆ การนำทุกคนมาพบกันอาจเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดของการทำงานระยะไกล เมื่อเปลี่ยนไปประชุมใน Teams อย่าลืมว่าการประชุมทุกครั้งต้องมีตัวเลือก “เข้าร่วม” เสมือน เพื่อสร้างห้องประชุมออนไลน์ และเราขอแนะนำให้ผู้เข้าร่วมทุกคนเปิดวิดีโอหากสะดวก การโต้ตอบโดยเห็นหน้ากันจะช่วยให้ทุกคนรู้สึกเข้ากันได้ดีอย่างมาก Teams มีตัวเลือกกล้องที่ได้รับการรับรองมากมาย รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ชุดหูฟังและลำโพง เพื่อให้คุณและเพื่อนร่วมงานติดต่อสื่อสารกันได้อย่างชัดเจนเสมอ

ใส่ใจและให้มีส่วนร่วม

การเปลี่ยนไปประชุมแบบออนไลน์อาจทำให้ท่าทีที่เราเห็นซึ่งบ่งบอกว่าเพื่อนร่วมงานมีเรื่องอยากพูดนั้นหายไป นอกจากนี้การโทรประชุมที่มีคนมากเกินไปอาจทำให้ทุกคนแชร์ความคิดเห็นของตัวเองได้ยาก ผู้จัดการประชุมควรหยุดเพื่อเปิดโอกาสให้ถามบ่อยๆ และย้ำเตือนผู้เข้าร่วมว่าใช้หน้าต่างแชทเพื่อแชร์ความคิดของตัวเองได้เช่นกัน

บันทึกการประชุมของคุณไว้

ในการชดเชยเวลาพบปะที่หายไป พนักงานที่ทำงานระยะไกลบางคนจะกำหนดเวลาประชุมเพิ่มเติมเพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า คู่ค้า และเพื่อนร่วมงานไว้ การนัดซ้อนกันจึงอาจเลี่ยงได้ยาก หากองค์กรของคุณอนุญาต ให้บันทึกการประชุมใน Teams เพื่อให้เพื่อนร่วมงานตามทันในภายหลัง หากคุณเข้าร่วมด้วยตัวเองไม่ได้ ก็แจ้งให้ผู้จัดการประชุมบันทึกไว้ให้คุณเมื่อไม่ได้เข้าร่วม การถอดข้อความเองโดยอัตโนมัติยังมีประโยชน์มากอีกด้วยเมื่อคุณพยายามจดจำข้อมูลที่มีการกล่าวถึงในการประชุมที่เข้าร่วม ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมด้วย Teams ใช่ไหม เรียนรู้เคล็ดลับเพิ่มเติมที่นี่

เชื่อมต่อกันไว้เสมอ

ชดเชยการแวะพูดคุยที่หายไป

พนักงานที่ทำงานระยะไกลจำนวนมากรู้สึกว่าสิ่งที่คิดถึงที่สุดในออฟฟิศคือการพูดคุยแบบเป็นกันเอง การพูดคุยที่ตู้กดน้ำหรือชั้นวางขนมไม่เพียงแต่ช่วยให้เราเข้ากันได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ทราบข้อมูลสำคัญหรือข้อมูลเชิงลึกที่คาดไม่ถึงอีกด้วย ให้ติดต่อและเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานด้วยความใส่ใจ คิดเสียว่าข้อความแชทเป็นตู้กดน้ำเสมือน และเตือนให้ตัวเองพูดคุยกับคนอื่นเป็นประจำ ทั้งอีโมจิ, GIF และสติกเกอร์ ล้วนเป็นวิธีสนุกๆ ที่ช่วยให้ผู้แชทคุยเรื่องเบาๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน

รวมทีมไว้ด้วยกัน

การทำงานระยะไกลอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวได้ ในฐานะผู้นำ การสร้างโอกาสเพื่อให้ทั้งทีมรวมตัวกันแบบเสมือนได้เป็นเรื่องสำคัญ ให้รักษาจังหวะการพบปะของทีมหรือการรับประทานมื้อเที่ยงร่วมกันเอาไว้เป็นปกติ แต่ปฏิบัติให้เป็นแบบออนไลน์ ใช้แชนเนล “ทั่วไป” ใน Teams เพื่อพูดคุยเรื่องที่ทุกคนอาจสนใจ ในส่วนของการระดมสมองขนาดใหญ่นั้น คุณสามารถใช้แอป Microsoft Whiteboard ซึ่งมีพื้นที่ทำงานทางดิจิทัลแบบไม่มีที่สิ้นสุดให้ผู้เข้าร่วมการประชุมสร้างไอเดียและทำงานร่วมกันโดยตรงใน Teams เรายังขอแนะนำให้หัวหน้าทีมดาวน์โหลด Power App การสื่อสารในภาวะวิกฤติด้วย คุณสามารถใช้แอปที่กำหนดเองได้นี้เพื่อให้ตัวเองและทีมของคุณรับทราบเกี่ยวกับเรื่องที่ต้องรู้ตลอดช่วงการระบาดครั้งนี้

สนุกเข้าไว้!

เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งมาพร้อมกับการย้ายไปทำงานระยะไกล การสนับสนุนและรักษากำลังใจของทีมไว้เป็นเรื่องสำคัญ มีหลายอย่างที่คุณทำได้ใน Teams เพื่อให้คนอื่นรู้สึกมีพลังบวกและมีส่วนร่วม แชร์ข่าวสารและเรื่องราวในแชทของทีม หรือจัดประกวดภาพถ่าย อย่างลูกค้าด้านการศึกษาของเรารายหนึ่งในจีนได้จัดการแข่งขันทำอาหารให้กับนักเรียนซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก

ผมเข้าใจว่าแต่ละคนและแต่ละทีมทำงานแตกต่างกัน แต่ก็หวังว่าเคล็ดลับจากทีมของเราจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อมต่อกันได้ในระหว่างที่ปรับวิธีใหม่ๆ ในการทำงาน และอย่าลืมว่าคุณเริ่มใช้ Teams ได้วันนี้เลย ด้วยการลงชื่อเข้าใช้ หรือลงทะเบียนฟรี

เตรียมพร้อมทำงานระยะไกล! ดาวน์โหลดรายการตรวจสอบการทำงานระยะไกลของเรา แล้วแชร์กับสมาชิกทีมของคุณ

รายการตรวจสอบการทำงานระยะไกล:

• สร้างพื้นที่ทำงานของคุณ
• สื่อสารให้บ่อย
• รักษาขอบเขตที่ช่วยให้ดีต่อสุขภาพ
• เตรียมใช้การประชุมแบบออนไลน์
• ใส่ใจและให้มีส่วนร่วม
• บันทึกการประชุมของคุณไว้
• ชดเชยการแวะพูดคุยที่หายไป
• รวมทีมไว้ด้วยกัน
• สนุกเข้าไว้!

The post ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพจากระยะไกลด้วย Microsoft Teams appeared first on Microsoft 365 Blog.

Lily Zheng เป็นเพื่อนและผู้ร่วมงานที่ดี ซึ่งอาศัยอยู่ในเซี่ยงไฮ้ เราเคยพบและทำงานร่วมกันในจีน แต่ส่วนใหญ่เราพบกันใน Microsoft Teams เมื่อไม่นานมานี้ Lily เขียนจดหมายถึงลูกค้าในภูมิภาคเกี่ยวกับสิ่งที่เธอและทีมได้เรียนรู้จากการทำงานจากระยะไกลในขณะที่เผชิญกับการแพร่ระบาด จดหมายของเธอเป็นแรงบันดาลใจให้ทีมของเราทำให้ Microsoft Teams พร้อมใช้งานฟรีสำหรับผู้คนที่ทำงานจากระยะไกลในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ผมอยากแบ่งปันจดหมายฉบับนี้กับผู้คนทั่วโลก ซึ่งอาจได้รับประโยชน์จากประสบการณ์ของทีมเซี่ยงไฮ้ของเรา ผมหวังว่าคุณจะพบว่ามีประโยชน์เช่นเดียวกับผม

มาดูจดหมายของ Lily กันเลย

เรียนลูกค้า

ฉันชื่อ Lily Zheng และฉันเป็นพนักงาน Microsoft ที่อาศัยและทำงานในเซี่ยงไฮ้ เนื่องจากการแพร่ระบาด COVID-19 ยังคงส่งผลกระทบต่อผู้คนหลายล้านคนในจีนอย่างต่อเนื่อง เราจึงมีประสบการณ์ในการทำงานจากระยะไกลเป็นอย่างมาก และดูเหมือนว่าโรงเรียน โรงพยาบาล และธุรกิจทุกแห่งในจีนได้กลายเป็นองค์กรแบบกระจายตัว แม้จะเรื่องชั่วคราวก็ตาม ตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสอย่าง COVID-19 ไปจนถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินจากสภาพอากาศที่ไม่คาดคิด มีหลายสาเหตุที่การทำงานจากระยะไกลอาจกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างกะทันหัน ดังนั้น ฉันจึงอยากแบ่งปันสามบทเรียนที่ฉันได้เรียนรู้ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลอดจนสามบทเรียนที่เราได้รวบรวมจากลูกค้าเมื่อพวกเขาปรับตัวเข้ากับการทำงานจากระยะไกล

เช่นเดียวกับพวกคุณหลายๆ คน ฉันเริ่มได้ยินเรื่องไวรัสในเดือนมกราคม ส่วนใหญ่จากสื่อสังคม แต่ฉันไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงจนกระทั่งก่อนวันตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนจำนวนมากเดินทางในช่วงเทศกาลตรุษจีน ในวันนที่ 23 มกราคม รัฐบาลได้สั่งปิดมณฑลหูเป่ยเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส วันถัดมาซึ่งเป็นวันส่งท้ายปีเก่าของจีน ครอบครัวของฉันได้วางแผนที่จะไปดูภาพยนตร์ เมื่อเราทราบจากสื่อว่าโรงภาพยนตร์ทั่วเมืองปิดทำการ เราจึงตระหนักถึงความรุนแรงของการแพร่ระบาดอย่างแท้จริง สองวันต่อมา รัฐบาลประกาศยกเลิกกิจกรรมเทศกาลตรุษจีนอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ฉันจึงยกเลิกการไปเที่ยววันหยุดกับครอบครัวที่วางแผนมานาน เด็กๆ ต้องผิดหวัง แต่สุขภาพและความปลอดภัยของเราเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ดังนั้นฉันจะตอบว่าอะไรหากมีคนถามว่าการทำงานในจีนในตอนนี้เป็นอย่างไร การทำงานจากระยะไกลช่วยลดเวลาในการเดินทาง และเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเครื่องแต่งกายอีกต่อไป และเนื่องจากร้านอาหารหลายแห่งปิดทำการ เราทุกคนจึงได้ฝึกฝนทักษะการทำอาหารอีกด้วย แต่เมื่อลูกๆ ไม่ได้ไปโรงเรียน และพี่เลี้ยงเด็กต้องติดอยู่ที่บ้านเช่นกัน การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพอาจกลายเป็นเรื่องท้าทาย

สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากการทำงานจากระยะไกล

ในขณะที่ทีมของเราที่นี่คุ้นเคยกับการทำงานจากระยะไกล ช่วงเวลาไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ได้แสดงให้เห็นถึงสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงานจากระยะไกลที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนอย่างแท้จริง ต่อไปนี้คือสามบทเรียนสำคัญของฉัน

ดูแลสุขภาพ

การเปลี่ยนไปทำงานจากระยะไกลเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดูแลป้องกันสุขภาพกายโดยการลดการสัมผัสกับไวรัสให้เหลือน้อยที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าใจดี แต่สิ่งที่เห็นได้ไม่ชัดเจนเท่าก็คือการทำงานในที่อยู่อาศัยอาจก่อให้เกิดความเครียดได้ การสละเวลาออกกำลังกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ และสนุกกับเวลาเลิกงานล้วนเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดูแลรักษาสุขภาพจิตขณะทำงานจากที่บ้าน

ทุ่มหมดตัว

การทำงานจากระยะไกลอาจทำให้ละเลยสิ่งต่างๆ ได้ง่าย แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จในการทำงานจากระยะไกลจะหาวิธีดำเนินการทุกอย่างทางออนไลน์ ถ้าคุณวางแผนพูดคุยตัวต่อตัว เก็บแผนนั้นไว้ ถ้าคุณวางแผนการประชุมครั้งใหญ่ จัดการประชุมเลย ถ้าคุณพร้อมที่จะระดมความคิดสำหรับการนำเสนอที่กำลังจะมาถึง ใช้การสนทนาทางวิดีโอ

สนับสนุนเพื่อนร่วมทีมของคุณ

ฉันยังได้เรียนรู้จากประสบการณ์นี้ว่าการสนับสนุนผู้อื่นเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการสร้างกำลังใจและแรงกระตุ้น เราใช้เครื่องมือออนไลน์เพื่อทำสิ่งต่างๆ นอกเหนือจากการทำงาน เช่น การแชร์รูปถ่ายครอบครัวและสัตว์เลี้ยง และสนทนากันตลอดทั้งวัน การให้กำลังใจกันและกันไม่ได้เป็นเพียงการรักษากำลังใจเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ทีมของเรารวมเป็นหนึ่งเดียวเมื่อทำงานจากระยะไกลอีกด้วย

สิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากลูกค้า

ในช่วงสองสามสัปดาห์มานี้ เราได้เห็นว่าลูกค้าในจีนเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง ต่อไปนี้คือสามสิ่งที่ฉันได้เรียนรู้จากลูกค้าในการเตรียมพร้อมองค์กรของคุณให้ประสบความสำเร็จ

เปิดสายการติดต่อสื่อสารทันที

เมื่อพนักงานของคุณทำงานจากระยะไกล การมั่นใจว่าทุกคนได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับธุรกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญมากกว่าที่เคย บริษัทประกันขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในเอเชียซึ่งเป็นหนึ่งในลูกค้าของเราเริ่มถ่ายทอดสดข้อความวิดีโอถึงพนักงานเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลล่าสุดได้ เมื่อทุกคนต้องสร้างสมดุลการทำงานที่บ้านกับการดูแลลูกและความท้าทายอื่นๆ วิดีโอที่บันทึกไว้จะช่วยให้พวกเขามีโอกาสติดตามข้อมูลเมื่อพวกเขาไม่สามารถเข้าร่วมการประชุมสดหรือการสรุปงานได้

ขับเคลื่อนอยู่เสมอ

แม้ว่าการเลื่อนแผนออกไปจนกว่าทุกคนจะสามารถรวมตัวกันได้จะน่าดึงดูดใจก็ตาม แต่บริษัทที่นี่กำลังค้นหาวิธีการในการขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยการส่งเสริมจากรัฐบาล โรงเรียนหลายแห่งจึงสามารถเริ่มภาคเรียนได้ทันเวลาด้วยการเปลี่ยนทุกอย่างเป็นออนไลน์ พวกเขาสนับสนุนนักเรียนโดยการสร้างตารางเวลาที่ชัดเจน จัดกิจกรรมสร้างกำลังใจ เช่น การแข่งขันทำอาหาร และสื่อสารงานที่มอบหมายและข้อมูลอื่นๆ อย่างรอบคอบ เพื่อให้นักเรียนไม่ต้องมีภาระมากจนเกินไป

การประชุมครั้งใหญ่ก็จัดแบบออนไลน์ได้

พวกเราหลายคนคุ้นเคยกับการโทรด่วนหรือการสนทนาทางวิดีโอกับเพื่อนร่วมทีมไม่กี่คน แต่การประชุมขนาดใหญ่และเป็นทางการสามารถจัดแบบออนไลน์ได้สำเร็จเช่นกัน เมื่อพนักงานจำนวนมากเลือกที่จะทำงานจากระยะไกล โรงพยาบาลจึงรวบรวมเจ้าหน้าที่จากระยะไกล ตัวอย่างเช่น โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในต้าเหลียนจัดการประชุมเจ้าหน้าที่ครั้งใหญ่ผ่าน Teams สิ่งสำคัญในการจัดการประชุมออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จประกอบด้วยการตั้งวาระการประชุมที่ชัดเจน การฝึกฝนสิ่งต่างๆ โดยการแก้ไขปัญหาด้านเสียงเมื่อเริ่มต้นการประชุม และการจดบันทึกอย่างชัดเจนเพื่อแชร์ไว้สำหรับติดตามในภายหลัง โปรดจำไว้ด้วยว่าหากองค์กรอนุญาต คุณสามารถบันทึกกการประชุมไว้สำหรับบุคคลที่ไม่สามารถเข้าร่วมได้

สำหรับฉันและอีกหลายๆ คนทั่วโลก เรื่องนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่เราคาดไว้สำหรับการเริ่มต้นปีใหม่ แต่เราได้เรียนรู้มากมาย และ Teams ก็เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างไม่เชื่อถือในการช่วยให้เราจัดการผ่านอุปสรรค หลายๆ คนอาจยังไม่ทราบ แต่ Teams พร้อมใช้งานฟรีแล้ว คุณสามารถไปที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เครื่องมือใดก็ตาม ฉันหวังว่าเคล็ดลับเหล่านี้จะมีประโยชน์ และขอให้คุณและครอบครัวโชคดี!

Lily Zheng

ผู้อำนวยการ, Microsoft China

The post การทำงานจากระยะไกลในช่วงเวลาที่ยากลำบาก appeared first on Microsoft 365 Blog.

ในเดือนนี้ เราจะเปิดตัวความสามารถที่จะช่วยเหลือให้คุณสามารถทำงานระหว่างเดินทาง ทำงานร่วมกันกับเนื้อหาได้ง่ายขึ้น โต้ตอบกับแอปได้มากขึ้น และปรับปรุงประสบการณ์เพิ่มประสิทธิภาพของคุณ แอป Office ใหม่พร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้วสำหรับ Android และ iOS เราได้เพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันลงในข้อคิดเห็นของ PowerPoint และนำการเขียนร่วมและการผสานรวม Microsoft Teams ไปยัง Visio มาด้วย ตอนนี้ Word มีฟังก์ชันแปลงคำพูดเป็นข้อความที่ผ่านการปรับปรุง ซึ่งรองรับภาษามากขึ้น พร้อมกับฟีเจอร์การใช้หมึกและโหมดสีเข้มที่เพิ่มเข้ามาซึ่งทำให้ง่ายต่อการบันทึกและอ่านบันทึกย่อใน OneNote for Android ในขณะเดียวกัน องค์กรสามารถปรับแต่งประสบการณ์เพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ตั้งแต่หน้าผลลัพธ์การค้นหาและฟีดบริษัททั้งหมดของ Yammerไปจนถึงตัวอย่างส่วนตัวของ Microsoft Fluid Framework ใหม่

อ่านต่อเกี่ยวกับการอัปเดต Microsoft 365 ที่น่าตื่นเต้นทั้งหมดในเดือนนี้ และสำหรับข่าวสารที่เจาะลึกมากยิ่งขึ้น อย่าลืมดูพ็อดแคสต์ Modern Workplace ตอนที่สอง ในเดือนนี้ พิธีกร Alex Bradley และผมจะเจาะลึกเกี่ยวกับการทำงานเป็นทีม Microsoft Fluid Framework ใหม่ และอื่นๆ อีกมากมาย

ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพขณะเดินทาง

ทำงานได้จากทุกที่ด้วยแอป Office ใหม่ แอป Office คือประสบการณ์ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อช่วยให้คุณมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้จากทุกที่ โดยรวม Word, Excel และ PowerPoint ลงในแอปเดียว เพิ่มความสามารถใหม่ๆ ที่ช่วยให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใครบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ และมีการดำเนินการรวมที่ช่วยให้คุณทำงานทั่วไปให้ลุล่วงได้มากขึ้นบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ ผลลัพธ์ก็คือประสบการณ์ใช้งาน Office ที่เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ อ่านบล็อกโพสต์นี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอป Office ใหม่ ซึ่งพร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้วได้ทั่วโลกบน Android และ iOS

ปรับปรุงการทำงานร่วมกันในแอปที่คุณชื่นชอบ

เครื่องมือใหม่ใน PowerPoint และ Visio ทำให้ทีมทำงานร่วมกันได้ง่ายขึ้น

ทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นยิ่งขึ้นใน PowerPoint เริ่มตั้งแต่เดือนหน้า เราจะเผยแพร่ฟีเจอร์ข้อคิดเห็นที่อัปเดตใน PowerPoint ขณะนี้สมาชิกทีมสามารถแสดงข้อคิดเห็นกับวัตถุ ใช้การแจ้งเตือน @อ้างถึง ค้นหาและเพิ่มข้อคิดเห็นได้ง่ายขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย ประสบการณ์ข้อคิดเห็นใหม่จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ Office 365 ทุกคนที่มีการอัปเดตล่าสุด

เขียนร่วมรูปวาด Visio ได้หลากหลายยิ่งขึ้น ตอนนี้ Visio สำหรับเว็บช่วยให้ผู้ร่วมงานสามารถสร้าง แก้ไข และแสดงข้อคิดเห็นในรูปวาดพร้อมกันได้ ด้วยการเขียนร่วมแบบสดและตัวบ่งชี้สถานะที่เรียบง่าย ทีมจึงสามารถทำงานร่วมกันอย่างราบรื่นเพื่อระดมความคิดและพัฒนาไอเดีย ผู้ใช้ Visio Plan 1 และ Plan 2 สามารถไปที่ visio.office.com เพื่อสร้างและแชร์ไฟล์ Visio ได้แล้ววันนี้

สมาชิกทีมยังสามารถใช้ความสามารถเหล่านี้ได้โดยตรงใน Teams ตอนนี้ คุณสามารถแชร์รูปวาด Visio กับผู้ร่วมงานได้ เนื่องจากสมาชิกทุกคนสามารถเข้าถึงไฟล์ที่จัดเก็บไว้ในไลบรารีไฟล์ของ Teams ซึ่งทำให้ผู้ร่วมงานสามารถแก้ไขและแสดงข้อคิดเห็นในงานของคุณได้ง่ายขึ้น เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้คลิกแท็บ ไฟล์ ด้านบนหน้าต่างการสนทนาในแชนแนล Teams แล้วเลือก ใหม่ > รูปวาด Visio

ปรับแต่งวิธีการทำงานของคุณ

การอัปเดต Word และ OneNote ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำงานได้ตามวิธีที่ต้องการ

ประหยัดเวลาและลดความซับซ้อนในการทำงานด้วยการแปลงคำพูดเป็นข้อความที่ผ่านการปรับปรุง ตอนนี้คุณสามารถสร้างเนื้อหาได้ด้วยเสียงของคุณใน Word ได้อย่างง่ายดายด้วยแถบเครื่องมือการเขียนตามคำบอกใหม่ ประสบการณ์คำแนะนำ และการสนับสนุนเครื่องหมายวรรคตอนอัตโนมัติ ตอนนี้ คุณยังสามารถทำงานด้วยภาษาตัวอย่างใหม่ได้อีกหกภาษา: เดนมาร์ก, ดัตช์, ฟินแลนด์, สวีเดน, นอร์เวย์ และญี่ปุ่น การเขียนตามคำบอกด้วยเสียงแบบใหม่ใน Word สำหรับเว็บกำลังเผยแพร่ให้ผู้ใช้ Office 365 ทุกคนในขณะนี้

บันทึกและจดบันทึกได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้ OneNote สำหรับโทรศัพท์และแท็บเล็ต Android รองรับโหมดสีเข้มแล้ว ซึ่งช่วยให้คุณสลับจากสีขาวสว่างเป็นแบบแผนชุดสีดำและสีเทาอ่อนลงเพื่อให้อ่านง่ายขึ้น นอกจากนี้ เราได้ปรับปรุงประสบการณ์การใช้หมึกเพื่อรองรับสีสดใสใหม่ๆ และใช้ประโยชน์จากปากกาชนิดต่างๆ ปากกาเน้นข้อความ และยางลบต่อไป และอย่าพลาดเครื่องมือ Lasso ซึ่งปรับขนาดและเปลี่ยนตำแหน่งวัตถุบนหน้าได้ การอัปเดตเหล่านี้กำลังเผยแพร่ให้กับผู้ใช้ OneNote ทุกคนบนโทรศัพท์และแท็บเล็ต Android

ปรับแต่งประสบการณ์การทำงานร่วมกันของผู้ใช้

ความสามารถใหม่ๆ ช่วยให้คุณออกแบบเครื่องมือเพิ่มพูนประสิทธิภาพการทำงานให้เหมาะสมกับแบรนด์และสภาพแวดล้อมขององค์กรของคุณ

สร้างหน้าผลลัพธ์การค้นหาแบบกำหนดเองสำหรับ Microsoft Search ตอนนี้ คุณสามารถสร้างหน้าผลลัพธ์การค้นหาแบบกำหนดเองใน SharePoint Online ใช้ฟีเจอร์ใหม่นี้เพื่อควบคุมเค้าโครงและการออกแบบผลลัพธ์การค้นหาเพื่อสร้างประสบการณ์ SharePoint Online สำหรับสภาพแวดล้อมขององค์กรของคุณ ฟีเจอร์ใหม่จะพร้อมใช้งานสำหรับสมาชิก SharePoint Online ทุกคน เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้เลือกพื้นที่ไซต์ที่คุณต้องการกำหนดค่าหน้าผลลัพธ์การค้นหา แล้วเลือก การตั้งค่าไซต์คอลเลกชัน > การตั้งค่าการค้นหา

เลือกฟีเจอร์ “มีอะไรใหม่” ที่ผู้ใช้ของคุณสามารถมองเห็นได้ ตอนนี้ คุณสามารถจัดการฟีเจอร์ที่จะแสดงหรือซ่อนจากผู้ใช้ใน “มีอะไรใหม่” ของแอป Office บนเดสก์ท็อป เนื้อหานี้จะเน้นรายการฟีเจอร์ใหม่ พร้อมด้วยคำอธิบายและคำแนะนำเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในการใช้ฟีเจอร์ คุณสามารถเข้าถึงเครื่องมือการจัดการนี้ได้โดยใช้ศูนย์การจัดการ Microsoft 365 และบริการการกำหนดค่าไคลเอ็นต์ Office 365

เริ่มต้นสร้างประสบการณ์การทำงานร่วมกันที่ลื่นไหลวันนี้ Microsoft Fluid Framework คือแบบจำลองเอกสารที่ใช้องค์ประกอบใหม่ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างวิธีใหม่ๆ ในการทำงานร่วมกันเกี่ยวกับการสร้างเนื้อหา ตอนนี้ ทุกคนที่มีการสมัครใช้งาน Office 365 Enterprise สามารถดูตัวอย่างก่อนใคร เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน เพียงลงชื่อเข้าใช้ด้วย ID บัญชีองค์กรของคุณที่ fluidpreview.com

เสริมสร้างแบรนด์องค์กรของคุณใน Yammer ความสามารถใหม่ๆ ในประสบการณ์ปัจจุบันของ Yammer ทำให้คุณสามารถกำหนดชื่อฟีดบริษัททั้งหมด อัปโหลดภาพถ่ายปกของชุมชน ส่งข้อความสำคัญ ต้อนรับสมาชิกใหม่ ยกระดับความคิดริเริ่มขององค์กร และส่งเสริมคุณค่าของบริษัท จับคู่กับอวาตาร์แบบกำหนดเองเพื่อนำแบรนด์และวัฒนธรรมของคุณไปสู่ฟีดบริษัททั้งหมด ความสามารถใหม่ๆ เหล่านี้จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ดูแลระบบในเร็วๆ นี้

จัดการ eDiscovery ของ Yammer จากภายในศูนย์การจัดการ Microsoft 365 ตอนนี้ Yammer รองรับ eDiscovery สำหรับเครือข่ายในโหมดเนทีฟ ตอนนี้ ผู้ดูแลระบบจะสามารถเข้าถึงข้อความและไฟล์ทั้งหมดที่โพสต์ในเครือข่าย Yammer ผ่านเครื่องมือ eDiscovery เดียวกับที่ใช้ในการจัดการข้อมูลตลอดทั้งส่วนที่เหลือของชุดโปรแกรม Office 365 ซึ่งจะช่วยลดความซับซ้อนของงาน eDiscovery และทำให้ข้อผูกมัดในการปฏิบัติตามข้อบังคับง่ายดายขึ้น เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งาน ให้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครือข่าย Yammer ของคุณทำงานอยู่ในโหมดเนทีฟ จากนั้นนำทางไปที่โมดูล eDiscovery ของศูนย์การรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อบังคับ

นอกจากนี้ ไฟล์ใหม่ทั้งหมดที่อัปโหลดไปยังชุมชน Yammer ที่เชื่อมต่อกับ Office 365 จะจัดเก็บอยู่ใน SharePoint ด้วยการเปลี่ยนแปลงนี้ ไฟล์ของคุณจะเป็นไปตามนโยบายฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อบังคับที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งคุณได้นำไปใช้กับ SharePoint รวมถึง eDiscovery การป้องกันการสูญหายของข้อมูล ที่อยู่ทางภูมิศาสตร์สำหรับไฟล์ที่พักอยู่ และอื่นๆ

สิ่งอื่นๆ ที่มาใหม่ในเดือนนี้

• รับความช่วยเหลือในการปรับใช้ Microsoft Edge ใหม่ในองค์กรของคุณด้วยการสนับสนุน FastTrack และ App Assure ใหม่
• Office 365 พร้อมใช้งานจากศูนย์ข้อมูลประจำภูมิภาคใหม่ในเยอรมนีแล้ว

การทำงานและการดำเนินชีวิตในปัจจุบันจำเป็นต้องใช้เครื่องมือที่ยอดเยี่ยม ซึ่งพัฒนาและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเราคือการสร้างประสบการณ์เพิ่มประสิทธิภาพที่ช่วยให้คุณและองค์กรประสบความสำเร็จ เราไม่สามารถทำได้ถ้าไม่มีคุณ ดังนั้น ถ้าคุณมีคำติชม คำขอ หรือคำถาม โปรดติดต่อเรา เราพร้อมช่วยเหลือคุณ

The post ปรับปรุงการทำงานร่วมกันในแอปและปรับแต่งประสบการณ์ต่างๆ ต่อไปนี้คือสิ่งที่มาใหม่ใน Microsoft 365 ในเดือนกุมภาพันธ์ appeared first on Microsoft 365 Blog.

ที่ Microsoft เรามีภารกิจในการช่วยให้ทุกทีมกลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้น เราจึงร่วมมือกับ IDEO ซึ่งเป็นบริษัทออกแบบระดับโลกที่รู้จักกันดีในด้านการทำงานเชิงสหวิทยาการที่มีพนักงานเป็นศูนย์กลาง เมื่อร่วมมือกัน เราได้ค้นคว้าทีมในที่ทำงานที่ประสบความสำเร็จเพื่อค้นหาสิ่งที่พวกเขามีร่วมกัน จากนั้น เราใช้สิ่งที่เรียนรู้มาเพื่อสร้างศิลปะในการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นหลักสูตรดิจิทัลใหม่เกี่ยวกับคุณสมบัติห้าข้อของทีมที่ประสบความสำเร็จ

และนั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด เรายังใช้ผลการค้นพบจากการวิจัยเพื่อปรับปรุง Microsoft Teams ซึ่งเป็นฮับสำหรับการทำงานเป็นทีมใน Microsoft 365 สิ่งที่เห็นได้ชัดจากข้อมูลก็คืออนาคตของการทำงานร่วมกันในที่ทำงานจะไม่สามารถกำหนดโดยเทคโนโลยีใดก็ได้ แต่ทีมที่ประสบความสำเร็จต้องการเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันซึ่งรวบรวมเทคโนโลยีที่หลากหลายเอาไว้ด้วยวิธีใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ Teams รวมการแชท การประชุม การโทร การทำงานร่วมกันในเอกสาร และเวิร์กโฟลว์เข้าไว้ด้วยกันในแอปเดียว และการรวมกันที่ไม่เหมือนใครนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมาก

อันที่จริง ในปัจจุบัน Teams มีผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคนต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่ผู้ใช้เหล่านี้เริ่มต้นด้วยการแชทผ่านข้อความแบบง่ายๆ พวกเขาเปลี่ยนไปใช้รูปแบบการสื่อสารและการทำงานร่วมกันที่สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น เมื่อเดือนที่แล้วลูกค้า Teams เข้าร่วมการประชุมผ่านเสียงหรือวิดีโอมากกว่า 27 ล้านครั้ง และดำเนินการเปิด แก้ไข หรือดาวน์โหลดไฟล์ที่จัดเก็บไว้ใน Teams มากกว่า 220 ล้านครั้ง

คุณสมบัติห้าข้อ

ในการร่วมมือกับ IDEO เราได้วิจัยทีมในที่ทำงานต่างๆ ได้แก่ นักบินอวกาศ เชฟ ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ และพยาบาล เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพสูงมีอะไรเหมือนกัน เมื่อมีทีมในที่ทำงานต่างๆ เป็นหัวข้อ เราจึงใช้การสังเกตในบริบท การสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ การวิจัยขั้นทุติยภูมิ และกิจกรรมต้นแบบเพื่อระบุไดนามิกเฉพาะซึ่งทีมที่มีประสิทธิภาพสูงมีเหมือนกัน เราค้นพบว่าทีมที่ประสบความสำเร็จมีคุณสมบัติห้าข้อเหมือนกัน ดังนี้:

1. วัตถุประสงค์ของทีม—ทำให้ทีมสามารถโฟกัส บรรลุเป้าหมาย และสอดคล้องกับการบรรลุวัตถุประสงค์ได้
2. อัตลักษณ์ร่วม—สร้างความรู้สึกมีส่วนร่วมและช่วยให้สมาชิกทีมทำงานร่วมกันเป็นหน่วยงานเดียวได้
3. ความตระหนักรู้และการอยู่ร่วมกัน—ทำให้ทีมสามารถสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และให้ความสำคัญกับมุมมองของทุกคนได้
4. ความเชื่อถือและความเสี่ยง—กระตุ้นให้เกิดความเสี่ยงระหว่างบุคคลในทีม
5. ความตึงเครียดในทางสร้างสรรค์—ทำหน้าที่เป็นแรงผลักดันสำหรับไอเดียใหม่ๆ ซึ่งทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเฟรมเวิร์ก ให้ลองดูวิดีโอด้านล่าง:

เรื่องราวความสำเร็จของลูกค้า Teams

ด้วย Teams ลูกค้าของเราสามารถทลายกำแพงเทียมที่เกิดจากเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันแบบสแตนด์อโลนหรือแบบจับคู่กันชั่วคราว และทำงานร่วมกันในรูปแบบใหม่ได้ เรื่องราวของพวกเขานำคุณสมบัติห้าข้อของทีมที่ประสบความสำเร็จไปใช้ และแสดงให้เห็นสิ่งที่เป็นไปได้

ความงามอันกล้าหาญ: L’Oreal

ที่ L’Oreal ซึ่งเป็นบริษัทด้านความงามระดับโลก Barbara Lavernos ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและปฏิบัติการอธิบายว่า “แรงกระตุ้นของเราได้รับการผลักดันจากผู้คนที่โต้ตอบไปมา แสดงไอเดียใหม่ๆ และดำเนินการผ่านการสนทนาที่เกิดขึ้นเอง โดยเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้เกิดลักษณะเฉพาะ การมีส่วนร่วม และนวัตกรรมที่แท้จริงก็คือ Microsoft Teams” ด้วย Teams พนักงาน L’Oreal มีพื้นที่ที่จะแสดงความคิดสร้างสรรค์ ขณะทำงานด้วยความเร็วและขนาดที่ต้องการเพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์มากกว่า 7 พันล้านชิ้นให้กับลูกค้าทุกปี

จากโรงงานสู่กลุ่มผู้บริหารระดับสูง: Alcoa

เจ้าหน้าที่หน้างานของ Alcoa ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกด้านการผลิตบอกไซต์ อะลูมินา และอะลูมินัมได้ใช้ Teams เพื่อเข้าถึงข้อมูลทางธุรกิจบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน ขณะทำงานที่โรงงานในไอซ์แลนด์ ก่อนที่จะใช้ Teams เมื่อผู้จัดการต้องการเรียกพนักงานมาเข้ากะ พวกเขาต้องโทรหาพนักงานในเวลากลางดึกบ่อยครั้ง ตอนนี้เมื่อใช้ Teams ผู้จัดการสามารถจัดกำหนดการให้กับพนักงานในโรงงานโดยใช้กะ ซึ่งสามารถเข้าถึงได้บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เมื่อใช้กะ คุณสามารถแก้ไขปัญหาที่พนักงานพลาดงานที่มอบหมายซึ่งจัดกำหนดการไว้ โดยอัตราการขาดงานลงจนเกือบเป็นศูนย์ “กะใน Teams มีประสิทธิภาพมากสำหรับการจัดการบุคลากร” Friopjófur Tómasson ผู้ควบคุมโรงงานกล่าว “ถ้าผมต้องใช้คำเดียวในการอธิบายความหมายของ Teams ผมจะใช้คำว่า “มีประสิทธิภาพ” กะช่วยผมประหยัดเวลาได้อย่างน้อยวันละหนึ่งชั่วโมง”

การทำงานร่วมกันแบบง่าย: Telefónica

ที่บริษัทโทรคมนาคม Telefonica พนักงานดำเนินโครงการสร้างธุรกิจใน Teams ขณะนี้การประชุมผู้บริหารยอกสถานที่สามารถประสานงานได้ในฮับส่วนกลางที่มีความปลอดภัยสูง การประชุมที่เรียบง่ายนี้เคยเป็นฝันร้ายของการประสานงาน เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมมากถึง 20 จากแผนกต่างๆ ที่โฟกัสกระแสงานต่างกัน “ก่อนที่จะใช้ Teams เราต้องรวบรวมองค์ประกอบต่างๆ ของโครงการที่สร้างขึ้นแยกจากกัน ตอนนี้ กลุ่มผู้ร่วมงานสามารถสร้างเอกสารด้วยวิธีการทำงานร่วมกันและแก้ไขโครงการได้โดยตรง กระบวนการนี้เคยใช้เวลาสี่สัปดาห์ แต่ตอนนี้ เราสามารถทำให้เสร็จได้ภายในเวลาไม่กี่วัน” Jamie Rodriguez-Ramos Fernandez ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ของ Telefónica กล่าว

ให้ความสำคัญกับการดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างแรก: St. Luke’s University Health Network (SLUHN)

ผู้ให้บริการ St. Luke’s University Health Network กำลังแทนที่แอปสำหรับการทำงานร่วมกันของบริษัทอื่นด้วย Teams ซึ่งทำให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วยพื้นที่ทำงานเดียวเพื่อสนทนาเกี่ยวกับผู้ป่วยได้ทุกที่ทุกเวลา “แม้ว่าเราจะมองว่าการส่งข้อความความปลอดภัยเป็นหนึ่งในข้อดีของโทรศัพท์มือถือที่แพร่หลาย แต่เรายังต้องปฏิบัติตาม HIPAA และข้อบังคับด้านความเป็นส่วนตัวอื่นๆ” Dr.James Balshi, MD, ผู้อำนวยการสารสนเทศทางการแพทย์และศัลยแพทย์หลอดเลือดของ SLUHN กล่าว “แต่เราไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเมื่อใช้ Teams โดยสามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟร แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ผมใช้เทคโนโลยีกล้องบนโทรศัพท์เพื่อแชร์ข้อมูลผู้ป่วยกับเพื่อนร่วมงานในแบบที่ปลอดภัยและสอดคล้องกับมาตรฐาน HIPAA ยิ่งขึ้นในระหว่างการโทรผ่านวิดีโอของ Teams ผมยังแชร์บันทึก EMR และภาพเอ็กซเรย์อีกด้วย”

เชื่อมต่อกันทั่วโลก: Trek

Trek เป็นผู้ออกแบบ ผู้ผลิต และผู้ค้าปลีกรถจักรยานชั้นนำที่ปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว พนักงานในสหรัฐอเมริกาบางรายทำงานในสถานที่อื่นนอกเหนือจากสำนักงานใหญ่ในวอเตอร์ลู รัฐวิสคอนซิน ซึ่งรวมถึงโรงงาน ที่บ้าน หรือร้านค้าปลีกอื่นๆ ธุรกิจระหว่างประเทศของ Trek ยังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยบริษัทขยายการดำเนินงานไปยังสำนักงานที่ก่อตั้งขึ้น 17 แห่งทั่วโลก “การมีประสบการณ์การเชื่อมต่อและการประชุมดิจิทัลที่ดีเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้เราประสบความสำเร็จ” Nathan Pieper ผู้จัดการแอปพลิเคชันด้านธุรกิจ IT และการทำงานร่วมกันของ Trek กล่าว ความสามารถการประชุมใน Teams “คือสิ่งที่ดึงดูดผู้คน” Pieper กล่าว “การนำ Teams ไปใช้มีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากผู้ที่ใช้งานบอกให้ผู้อื่นลองใช้งาน และเชิญให้พวกเขาเข้าร่วมการประชุมออนไลน์”

ทีมที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จได้ และด้วย Teams คุณและทีมของคุณก็สามารถประสบความเร็จในการทำงานได้โดยไม่มีขีดจำกัด เมื่อต้องการปรับปรุงการทำงานเป็นทีมในองค์กรของคุณ ให้ดูคู่มือการทำงานเป็นทีมแบบดิจิทัลที่ โฮมเพจศิลปะในการทำงานเป็นทีม และถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ Teams เริ่มต้นใช้งานวันนี้เลย!

หมายเหตุ: ลูกค้าต้องรับผิดชอบต่อการปฏิบัติตาม HIPAA ของตนเอง

The post คุณสมบัติ 5 ข้อของทีมที่ประสบความสำเร็จ appeared first on Microsoft 365 Blog.

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราได้ประกาศออกความสามารถการใช้หมึกใหม่ๆ ลงในแอป Office ของเรา รวมถึงการใช้หมึกในการนำเสนอสไลด์ใน PowerPoint บนเว็บและฟังก์ชันเล่นการลากหมึกเพื่อให้งานนำเสนอของคุณมีชีวิตชีวา วันนี้ผมมีความยินดีที่จะได้แชร์ความคืบหน้าของเรากับคุณในเรื่องของชุดนวัตกรรมเพื่อช่วยให้ผู้คนมีประสิทธิภาพการทำงานมากขึ้นเมื่อไม่ได้อยู่ที่โต๊ะทำงาน ผ่านการใช้เสียง ปากกาดิจิทัล และการสัมผัสใน Office 365 และอุปกรณ์ Surface ของเรา

ถอดความจากไฟล์เสียงหรือบันทึกไฟล์ของคุณเองพร้อมมีสมาธิใน Word

เราได้พูดคุยกับนักวิจัย นักข่าว ทนายความ และครู และได้เรียนรู้ว่าผู้คนใช้เวลามหาศาลไปกับการบันทึกเสียงการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ แล้วใช้เวลามากยิ่งกว่านั้นในการถอดเสียงการสนทนาดังกล่าวลงใน Word

วันนี้เราจะประกาศเปิดตัวโซลูชันที่ช่วยให้มืออาชีพที่มีงานรัดตัวอัปโหลดไฟล์เสียงของตัวเองหรือบันทึกไฟล์ใหม่ในขณะเดินทางลงใน Word ได้ เมื่ออัปโหลดหรือบันทึกไฟล์เสียงของคุณแล้ว Word (ใช้ประโยชน์จากบริการ Azure Speech Services และบัญชี OneDrive ของคุณที่จัดเก็บไฟล์เสียงได้อย่างปลอดภัย) จะแสดงการถอดเสียงเป็นลายลักษณ์อักษรในแผงด้านข้างและช่วยให้คุณนำส่วนย่อยที่เกี่ยวข้องหรือการถอดเสียงทั้งหมดลงในเอกสารของคุณเพื่อแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว ง่ายดาย การถอดเสียงเองก็จะแบ่งออกโดยอัตโนมัติโดยผู้พูดและตัดเนื้อหาที่เกี่ยวข้องเป็นส่วนๆ และแผงโต้ตอบช่วยให้คุณสามารถข้ามไปมาในการบันทึกเพื่อค้นหาและยืนยันข้อความอ้างอิงที่สมบูรณ์แบบได้อย่างง่ายดาย

การถอดเสียงใน Word จะมีให้ใช้งานในต้นปี 2020 ใน Word สำหรับเว็บ พร้อมการรวมเข้ากับ Word เวอร์ชันเดสก์ท็อปและแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ซึ่งจะมีขึ้นหลังจากนั้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แผนและราคาที่แน่นอนจะประกาศใกล้ช่วงวางจำหน่ายโดยทั่วไป

ป้อนข้อมูลลงในเวิร์กบุ๊ก Excel โดยตรงด้วยปากกาดิจิทัลของคุณ

Excel เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างยิ่งในการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องนั่งที่โต๊ะเพื่อใช้งาน ทุกวันนี้ผู้คนกรอกรายการตรวจสอบ รายงานการวิจัย และอื่นๆ โดยใช้กระดาษและคลิปบอร์ดแล้วต้องพิมพ์ผลลัพธ์ลงในคอมพิวเตอร์ในภายหลัง หรือไม่ก็พยายามพิมพ์ลงบนคอมพิวเตอร์ไปด้วย เดินทรงตัวไปด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เราจึงยกระดับความสามารถของปากกาดิจิทัลใน Excel เพื่อให้เจ้าหน้าที่หน้างาน มืออาชีพที่มีงานรัดตัว นักเรียน และนักวิจัยสามารถเขียน แก้ไข หรือลบค่าโดยใช้แค่ปากกาและแท็บเล็ตดิจิทัลเท่านั้น สำหรับพนักงานที่บางครั้งอาจหาโต๊ะทำงานนั่งไม่ได้ ตอนนี้จะมีประสิทธิภาพการทำงานและเชื่อมต่ออยู่ตลอดได้ง่ายกว่าที่เคย

การใส่ข้อมูลโดยใช้ปากกาดิจิทัลจะพร้อมใช้งานใน Excel สำหรับเว็บและเดสก์ท็อปในฤดูใบไม้ผลิปี 2020 สำหรับสมาชิก Office 365

สร้างและตอบกลับข้อคิดเห็นจากที่ใดก็ได้โดยใช้ปากกาหรือเสียง

ด้วย เครื่องมือแก้ไขโดยใช้หมึก เราจึงทำให้คุณแก้ไขเอกสารได้ง่ายและเป็นธรรมชาติมากกว่าที่เคย และตอนนี้เรากำลังขยายขีดความสามารถอันชาญฉลาดและการแสดงข้อคิดเห็นอย่างชัดแจ้งผ่านหมึกดิจิทัลด้วยเช่นกัน

ในอุปกรณ์ที่มีส่วนต่อประสานแบบสัมผัสและ/หรือไมโครโฟนที่สนับสนุน ผู้คนจะสามารถใช้หมึกแสดงข้อคิดเห็นอย่างชัดแจ้งได้โดยตรงจากในบานหน้าต่างข้อคิดเห็นหรือใช้การเขียนตามคำบอกเพื่อให้คำติชม เมื่อผนวกเข้ากับความสามารถเครื่องมือแก้ไขโดยใช้หมึกที่มีอยู่แล้ว ทุกคนที่ตรวจทานเอกสารจะทำงานจนจบได้แบบครบวงจรโดยใช้เพียงแท็บเล็ต ปากกาดิจิทัล และเสียง

การแสดงข้อคิดเห็นอย่างชัดแจ้งผ่านหมึกและการใส่ข้อมูลในข้อคิดเห็นโดยการเขียนตามคำบอกอย่างง่ายจะพร้อมใช้งานโดยเริ่มจากใน Word เวอร์ชันเดสก์ท็อปในฤดูใบไม้ผลิ 2020 สำหรับสมาชิก Office 365

Office + Surface ใช้ร่วมกันแล้วดีกว่า

วันนี้ที่งานกิจกรรม Surface เราได้นำเสนอการปรับปรุงใหม่หลายอย่างใน Office ซึ่งใช้ประโยชน์จากความสามารถเฉพาะของความก้าวหน้าล่าสุดทางด้านฮาร์ดแวร์ของ Surface

Studio Mics ใหม่ใน Surface Pro 7 นำเสนอการบันทึกเสียงที่ดีที่สุดในฮาร์ดแวร์ประเภทเดียวกันโดยไม่ต้องมีฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม ทำให้ฟีเจอร์ Office เช่น การเขียนตามคำบอกและการถอดเสียงทำงานได้ดีที่สุด

เมื่อใช้ Surface Earbuds ร่วมกับ PowerPoint คุณจะได้รับประโยชน์จากสุดยอดไมโครโฟนที่จะได้ยินคุณชัดเจนแม้จะเดินไปมา โดยทำให้ คำบรรยายเหตุการณ์สด และ Presenter Coach ใน PowerPoint สำหรับเว็บ ทำงานด้วยความแม่นยำมากขึ้น ลักษณะท่าทางตามสัญชาตญาณสามารถใช้นำทางการนำเสนอสไลด์และเริ่ม/หยุดวิดีโอได้โดยไม่ต้องซื้อรีโมทพรีเซนต์ไร้สายแยกต่างหาก และคุณยังสามารถใส่ข้างหนึ่งในหูเพื่อการจับเสียงจากไมโครโฟนที่ดีที่สุด พร้อมกับซ่อนอีกข้างเอาไว้ในมือเพื่อนำทางสไลด์

การสนับสนุนลักษณะท่าทางใน Surface Earbud จะพร้อมใช้งานในเดือนพฤศจิกายนพร้อมกับการวางจำหน่าย Earbuds โดยทั่วไป ในเดสก์ท็อป PowerPoint สำหรับสมาชิก Office 365

Surface Pro X ที่พกพาได้ง่ายมากจะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขณะเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Excel เพื่อป้อนข้อมูลหรือ Word เพื่อตรวจทานเอกสาร Pro X นำเสนอกลไกการจัดเก็บแบบใหม่ที่ปฏิวัติการใช้งานปากกา ดังนั้นคุณจะมีไว้ใกล้มือเสมอเมื่อต้องการ Office ใช้ประโยชน์จากข้อเท็จจริงที่ว่า ทันทีที่คุณแกะปากกาออกจากที่เก็บ Pro X จะรับรู้และแสดงเครื่องมือการใช้หมึกโดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ ตอนนี้ Office จะแสดงทุกสิ่งที่คุณสามารถทำได้กับอุปกรณ์เสริมของ Surface ภายในแต่ละแอป ไม่ว่าจะเป็นปากกา Surface, Earbuds หรือ Dial หากมีความสามารถใหม่ ๆ ในแอป Office ที่คุณกำลังใช้งาน ความสามารถเหล่านั้นจะปรากฏขึ้น ดังนั้นคุณจะรู้อยู่เสมอว่าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจากการรวมกันของ Office + Surface

การสนับสนุนการตอบสนองต่อปากกา Surface ที่แกะออกจากที่เก็บ พร้อมใช้งานแล้วใน Word, Excel, PowerPoint และ Outlook สำหรับสมาชิก Office 365 เคล็ดลับ Surface ใน Office จะพร้อมใช้งานครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายนใน PowerPoint เวอร์ชันเดสก์ท็อปสำหรับสมาชิก Office 365

รับฟังลูกค้าเพื่อปรับปรุงหมึกในประสบการณ์ใช้งาน PowerPoint

เมื่อเร็วๆ นี้เราได้ประกาศปรับปรุง Office ในหลายด้าน รวมถึงการเพิ่มประสบการณ์การใช้หมึกโดยรวมใน PowerPoint โดยอิงตามสิ่งที่เราได้ยินจากลูกค้าโดยตรง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนสำหรับเล่นการลากหมึกที่เขียนไว้ล่วงหน้าในการนำเสนอสไลด์ การปรับปรุงมากมายมาจากนักการศึกษาที่ใช้หมึกในการนำเสนอสไลด์บน Windows และ Mac เพื่อใช้ประกอบการสอน และจุดเริ่มต้นของการนำหมึกมาลงใน Office สำหรับเว็บ เริ่มต้นในการนำเสนอสไลด์ PowerPoint

เรายินดีที่จะประกาศว่าความสามารถทั้งหมดนี้กำลังเปิดตัวให้ทุกคนได้ใช้งานกัน

เล่นการลากหมึกจะพร้อมใช้งานใน PowerPoint สำหรับ Windows และ Mac สำหรับสมาชิก Office 365

ขณะนี้การใช้หมึกพร้อมให้ใช้งานในโหมดการนำเสนอสไลด์ใน PowerPoint สำหรับเว็บ การใช้หมึกในตัวแก้ไขของ PowerPoint บนเว็บจะพร้อมใช้งานภายในสิ้นปีนี้

เทมเพลตใหม่สำหรับ Microsoft Whiteboard

Microsoft Whiteboard ช่วยให้คุณทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะพยายามระดมสมองเพื่อหาไอเดียที่ยิ่งใหญ่อันต่อไปหรือทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน เทมเพลตใหม่สำหรับ Whiteboard สามารถช่วยคุณจัดการประชุมที่มีประสิทธิผลมากขึ้นด้วยการวางแผนสปรินต์แบบคัมบัง, การวิเคราะห์ SWOT, การวางแผนโครงการ, การเรียนรู้ และอีกมากมาย

เค้าโครงที่สร้างไว้ล่วงหน้าจะมีโครงสร้างโดยทันที คุณจึงไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสถานการณ์การทำงานร่วมกัน เช่น การระดมสมองแบบเฉพาะกิจ การจัดประชุม และการวางแผนโครงการ นอกจากนี้พื้นที่ Whiteboard ยังขยายแบบไดนามิกเพื่อให้พอดีกับเนื้อหาทั้งหมดของคุณ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เทมเพลต Microsoft Whiteboard ใหม่

เทมเพลต Microsoft Whiteboard เป็นตัวอย่างสำหรับสาธารณะสำหรับ Windows 10 และกำลังเปิดตัวใน iOS ในสัปดาห์นี้ หากต้องการเพิ่มเทมเพลต ให้คลิกหรือแตะปุ่ม แทรก ในแถบเครื่องมือ

The post Microsoft 365 ทำให้การทำงานและการเล่นเข้าใจง่ายและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นด้วยนวัตกรรมด้านเสียง หมึกดิจิทัล และการสัมผัส appeared first on Microsoft 365 Blog.

รู้จักกับที่เก็บนิรภัยส่วนตัว

ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวคือพื้นที่ที่มีการป้องกันใน OneDrive ซึ่งสามารถเข้าถึงได้ด้วยวิธีการรับรองความถูกต้องที่เข้มงวดหรือขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวที่สองเท่านั้น เช่น ลายนิ้วมือ, ใบหน้า, PIN หรือรหัสที่ส่งถึงคุณทางอีเมลหรือ SMS¹ ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวจะมอบการป้องกันอีกชั้นสำหรับไฟล์ รูปถ่าย และวิดีโอที่สำคัญที่สุด (ตัวอย่างเช่น สำเนาเอกสารต่างๆ เช่น หนังสือเดินทาง ใบอนุญาตขับขี่ หรือข้อมูลการประกันภัย) ในกรณีที่อาจมีผู้อื่นเข้าถึงบัญชีหรืออุปกรณ์ของคุณ

โดยความปลอดภัยที่เพิ่มเข้ามานี้จะไม่ทำให้คุณช้าลง คุณสามารถเข้าถึงเอกสาร รูปถ่าย และไฟล์สำคัญได้อย่างมั่นใจ ทั้งบนพีซี, OneDrive.com หรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม²

นอกเหนือจากการตรวจสอบข้อมูลประจำตัวชั้นที่สองแล้ว ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวยังมีมาตรการรักษาความปลอดภัยต่อไปนี้ด้วย:

• สแกนและถ่าย คุณสามารถใช้แอป OneDrive เพื่อสแกนเอกสารหรือถ่ายรูปลงในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวโดยตรง เพื่อเก็บไว้ให้ห่างจากพื้นที่ที่ปลอดภัยน้อยกว่าบนอุปกรณ์ของคุณ เช่น ม้วนฟิล์ม
• การล็อกอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะเปิดที่เก็บนิรภัยส่วนตัวหรือไฟล์ทิ้งไว้ ทั้งสองอย่างจะปิดล็อกโดยอัตโนมัติหลังจากไม่ได้ใช้งานครู่หนึ่ง³
• การเข้ารหัสลับ BitLocker บนพีซีที่ใช้ Windows 10 OneDrive จะซิงค์ไฟล์ในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวไปยังพื้นที่ที่เข้ารหัสลับด้วย BitLocker ของฮาร์ดไดรฟ์ภายในเครื่องของคุณโดยอัตโนมัติ⁴
• การแชร์แบบจำกัด เพื่อป้องกันการแชร์โดยไม่ได้ตั้งใจ ไฟล์ในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวและรายการที่แชร์ที่ย้ายไปยังที่เก็บนิรภัยส่วนตัวจึงไม่สามารถแชร์ได้

เมื่อรวมกันแล้ว มาตรการรักษาความปลอดภัยเหล่านี้สามารถช่วยให้มั่นใจได้ว่าไฟล์ในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวจะได้รับการป้องกันอยู่ตลอดเวลาบนพีซี อีกทั้งไฟล์ของคุณยังได้รับการป้องกันเพิ่มเติม แม้ว่าพีซีหรืออุปกรณ์เคลื่อนที่ Windows 10 ของคุณจะสูญหาย ถูกขโมย หรือมีผู้อื่นเข้าถึงอุปกรณ์หรือบัญชีของคุณก็ตาม

ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวคือความก้าวหน้าล่าสุดในชุดฟีเจอร์รักษาความปลอดภัยของ OneDrive ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสลับไฟล์ที่พักอยู่และไฟล์ที่มีการเคลื่อนย้าย การตรวจการลงชื่อเข้าใช้ที่น่าสงสัย การตรวจหาแรนซัมแวร์และการกู้คืน การแจ้งเตือนการลบไฟล์จำนวนมากและการกู้คืน การสแกนไวรัสในการดาวน์โหลดสำหรับภัยคุกคามที่รู้จัก ลิงก์การแชร์ที่ได้รับการป้องกันด้วยรหัสผ่าน และประวัติรุ่นสำหรับไฟล์ทุกชนิด

ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวพร้อมให้บริการทั่วโลกแล้ว

เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งานที่เก็บนิรภัยส่วนตัว ให้มองหาไอคอนที่เก็บนิรภัยส่วนตัว ใน OneDrive ของคุณ แล้วคลิกหรือแตะ ถ้าคุณกำลังใช้แผน OneDrive 100 GB ฟรีหรือแบบสแตนด์อโลน คุณจะสามารถจัดเก็บไฟล์ในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวได้สูงสุดสามไฟล์ สมาชิก Office 365 Personal และ Office 365 Home สามารถจัดเก็บไฟล์ในที่เก็บนิรภัยส่วนตัวได้มากเท่าที่ต้องการจนถึงขีดจำกัดของที่เก็บข้อมูล

เรียนรู้เพิ่มเติมได้ในพ็อดแคสต์ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวบน Intrazone

การสำรองข้อมูลโฟลเดอร์กลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายยิ่งขึ้น

เราทำให้การสำรองข้อมูลโฟลเดอร์สำคัญลงใน OneDrive กลายเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นไฟล์ของคุณจะได้รับการป้องกันและพร้อมใช้งานแม้ในกรณีที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับพีซีของคุณก็ตาม เมื่อใช้การสำรองข้อมูลโฟลเดอร์บนพีซี คุณสามารถเลือกสำรองข้อมูลไฟล์ในโฟลเดอร์เดสก์ท็อป เอกสาร หรือรูปภาพไปยัง OneDrive โดยอัตโนมัติได้ ตอนนี้ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการปกป้องไฟล์งานของคุณอีกต่อไป เพราะว่า OneDrive จะจัดการให้คุณเอง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถเข้าถึงไฟล์ที่สำรองไว้ได้ แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ที่หน้าพีซีก็ตาม เพียงใช้แอป OneDrive บนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือไปที่ OneDrive.com อีกทั้งการสำรองข้อมูลไฟล์ไว้ใน OneDrive ยังทำให้คุณสามารถดูและกู้คืนไฟล์เวอร์ชันเก่าที่มีอายุไม่เกิน 30 วันได้อีกด้วย

ตอนนี้ การสำรองข้อมูลโฟลเดอร์บนพีซีจะรวมเข้ากับ Windows 10 เวอร์ชันใหม่ล่าสุดได้อย่างลงตัวมากขึ้น คุณจึงสามารถเปิดใช้งานได้ระหว่างการติดตั้งหรือการอัปเดต Windows ฟีเจอร์นี้รวมอยู่ในแผนผู้บริโภค OneDrive ทุกแผนและพร้อมให้บริการบนพีซี Windows 7, 8 และ 10 ที่มีแอปซิงค์ OneDrive เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลโฟลเดอร์บนพีซี

แฟนๆ OneDrive ต่างก็ยินดี ที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมให้บริการแล้ว!

ในเดือนมิถุนายน เราได้ประกาศว่าเราจะพัฒนาหนึ่งในฟีเจอร์ของ OneDrive ที่ได้รับการร้องขอมากที่สุดมาโดยตลอด ซึ่งก็คือตัวเลือกที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติม ตอนนี้ คุณสามารถเพิ่มความจุให้กับที่เก็บข้อมูลของการสมัครใช้งาน Office 365 ที่มีอยู่ได้ครั้งละ 200 GB โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ $1.99 ต่อเดือน⁵ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมของ OneDrive

โหมดสีเข้มพร้อมใช้งานบน OneDrive iOS แล้ว

เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ประกาศว่าแอป OneDrive บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ใช้ iOS 13 รองรับโหมดสีเข้มแล้ว รูปลักษณ์ใหม่น่าตื่นตาตื่นใจนี้จะช่วยให้คุณสบายตายิ่งขึ้นและสามารถใช้ประโยชน์จากหน้าจอ OLED ได้อย่างเต็มรูปแบบเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ เมื่อต้องการทดลองใช้ เพียงตั้งค่าอุปกรณ์ iOS 13 ของคุณเป็นรูปลักษณ์สีเข้มใน การตั้งค่า > จอภาพและแสงสว่าง แล้วเปิดแอป OneDrive

บอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร

เมื่อต้องการบอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร หรือต้องการแชร์ความคิดเห็นและไอเดีย ให้ไปที่ OneDrive UserVoice เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์การป้องกันขั้นสูงทั้งหมดที่รวมอยู่ในการสมัครใช้งาน Office 365 Home และ Office 365 Personal ให้ดู เพจการสนับสนุน ของเรา

หมายเหตุ:
¹ การตรวจสอบใบหน้าและลายนิ้วมือจำเป็นต้องมีฮาร์ดแวร์พิเศษ รวมถึงอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน Windows Hello, ตัวอ่านลายนิ้วมือ, เซนเซอร์ IR แบบสว่าง หรือเซนเซอร์ชีวมาตรอื่นๆ และอุปกรณ์ที่รองรับ
² OneDrive สำหรับ Android ต้องใช้ Android 6.0 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า ส่วน OneDrive สำหรับ iOS ต้องใช้ iOS 11.3 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า
³ ระยะเวลาของการล็อกอัตโนมัติจะแตกต่างกันไปตามอุปกรณ์ และผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้
⁴ ต้องใช้ Windows 10 เวอร์ชัน 1903 หรือเวอร์ชันใหม่กว่า
⁵ที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมจะพร้อมให้บริการสมาชิก Office 365 Home และ Office 365 Personal เท่านั้น สำหรับสมาชิก Office 365 Home จะมีเพียงเจ้าของการสมัครใช้งานหลักเท่านั้นที่สามารถซื้อที่เก็บข้อมูลเพิ่มเติมได้ และสามารถซื้อให้กับบัญชีของผู้ใช้ดังกล่าวเท่านั้น

The post ที่เก็บนิรภัยส่วนตัวของ OneDrive และที่เก็บข้อมูลที่เพิ่มความจุได้พร้อมให้บริการแล้วทั่วโลก appeared first on Microsoft 365 Blog.

เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของการขยาย Teams ให้ครอบคลุมพนักงานทุกคนในทุกอุตสาหกรรม วันนี้เราจะเปิดตัวความสามารถใหม่ในสี่ด้านที่จะทำให้ลูกค้าใช้ Teams ในการติดต่อสื่อสารและทำงานร่วมกันได้ง่ายยิ่งขึ้น

1. จัดลำดับความสำคัญการติดต่อสื่อสารที่เร่งด่วน

สองฟีเจอร์ใหม่ใน Teams จะช่วยรับรองว่าข้อความสำคัญจะส่งถึงผู้รับ

• การแจ้งเตือนสำคัญจะแจ้งผู้รับเมื่อมีข้อความเร่งด่วน โดยการส่งเสียงเตือนบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และเดสก์ท็อปทุกสองนาที จนกว่าจะได้รับการตอบกลับ
• การแจ้งเมื่อผู้รับเปิดอ่านในแชทจะแสดงไอคอนที่ระบุว่าผู้รับอ่านข้อความที่คุณส่งเรียบร้อยแล้ว

การแจ้งเตือนสำคัญและการแจ้งเมื่อผู้รับเปิดอ่านจะเริ่มเปิดตัวให้ใช้งานภายในเดือนนี้

2. จัดการการติดต่อสื่อสารภายในทีมและระหว่างทีมอย่างง่ายดาย

• การประกาศจะช่วยให้สมาชิกทีมมองเห็นข่าวสารสำคัญในแชนเนล และยังเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นโครงการใหม่ ต้อนรับเพื่อนร่วมงานคนใหม่ หรือแชร์ผลลัพธ์จากแคมเปญการตลาดล่าสุด

• การโพสต์ข้ามแชนเนลจะช่วยให้คุณสามารถโพสต์หนึ่งข้อความในหลายแชนเนลพร้อมๆ กันได้

• การควบคุมแชนเนลช่วยให้ผู้ควบคุมสามารถจัดการเนื้อหาที่จะได้โพสต์ในแชนเนลและระบุว่าจะสามารถตอบกลับแต่ละโพสต์ได้หรือไม่

การประกาศกำลังเปิดตัวแล้ว การควบคุมแชนเนลและการโพสต์ข้ามแชนเนลจะเผยแพร่ให้ใช้งานเร็วๆ นี้

3. ให้เจ้าหน้าที่หน้างานจัดการกำหนดการและรับการอัปเดตได้ง่ายขึ้น

• ฟีเจอร์นาฬิกาตอกบัตรใหม่ในมอดูลกะของทีมจะช่วยให้พนักงานสามารถตอกบัตรเข้างานและเลิกงานได้จากแอป Teams บนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของตน ผู้จัดการสามารถใช้ตัวเลือกกำหนดพื้นที่เพื่อให้มั่นใจว่าสมาชิกทีมอยู่ภายในสถานที่ทำงานที่กำหนดเมื่อตอกบัตรเข้างานหรือเลิกงาน

• การติดต่อสื่อสารแบบกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้สมาชิกทีมสามารถส่งข้อความถึงทุกคนที่มีบทบาทหนึ่งๆ พร้อมกันได้โดยการ @อ้างถึง ชื่อบทบาทในโพสต์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถส่งข้อความถึงแคชเชียร์ทุกคนในร้านค้าหรือพยาบาลทุกคนในโรงพยาบาลได้

นาฬิกาตอกบัตรกำลังเปิดตัวแล้ว การติดต่อสื่อสารแบบกำหนดเป้าหมายจะเริ่มเปิดตัวในเดือนสิงหาคม 2019

4. ผู้ดูแลระบบ IT: ปรับใช้ไคลเอ็นต์ Teams และจัดการนโยบายสำหรับทุกคนในองค์กรได้อย่างง่ายดาย

• ไคลเอ็นต์ Teams พร้อมใช้งานแล้วสำหรับการติดตั้ง Office 365 ProPlus ที่มีอยู่บนตัวเลือกรายเดือน
• แพคเกจนโยบายในศูนย์การจัดการ Teams จะช่วยให้ผู้ดูแลระบบ IT สามารถใช้ชุดนโยบายที่กำหนดไว้ล่วงหน้าของฟังก์ชัน Teams ต่างๆ เช่น การส่งข้อความและการประชุม กับพนักงานตามความต้องการของตำแหน่งงานได้

แพคเกจนโยบายในศูนย์การจัดการ Teams กำลังจะเผยแพร่เร็วๆ นี้

การสร้างระบบนิเวศคู่ค้าที่มั่นคงด้วย Teams

คู่ค้ามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือให้ลูกค้าสามารถใช้ Teams เพื่อดำเนินการกระบวนการทางธุรกิจได้อย่างสะดวก และในวันนี้ เรามีสิ่งใหม่ๆ สี่อย่างให้กับคู่ค้า

1. โซลูชันศูนย์ติดต่อ ศูนย์ติดต่อคือส่วนสำคัญของการให้บริการลูกค้าของหลายๆ บริษัท เราร่วมงานกับ Five9, Genesys, NICE inContact และผู้ให้บริการโซลูชันศูนย์ติดต่อชั้นนำรายอื่นๆ เพื่อผสานรวม Teams กับโซลูชันศูนย์ติดต่อเหล่านั้น
2. การบันทึกการโทรเพื่อการปฏิบัติตามข้อบังคับ เนื่องจากหลายๆ อุตสาหกรรมมีนโยบายข้อบังคับที่จำเป็นต้องบันทึกการโทรและการประชุม เราจึงร่วมมือกับคู่ค้า เช่น ASC, NICE และ Verint เพื่อทำการบันทึกตามข้อบังคับและเพิ่มความสามารถนี้ให้กับ Teams
3. การจัดการบุคลากร Microsoft จัดทีมร่วมกับผู้ใช้บริการโซลูชันด้าน IT REPL เพื่อพัฒนาการผสานรวม Teams กับโซลูชันการจัดการบุคลากรของ JDA การผสานรวมจะทำให้สามารถดูข้อมูลตารางกะได้แทบจะในทันทีที่มีการอัปเดตในมอดูลกะของทีม ทำให้เจ้าหน้าที่หน้างานสามารถเข้าถึงและขอเปลี่ยนตารางกะที่มีอยู่ได้ผ่านแอป Teams
4. Teams รุ่นทดลองใช้ที่นำโดยคู่ค้า เพื่อให้การสนับสนุนคู่ค้าที่กำลังแนะนำประสิทธิภาพของ Teams ให้ลูกค้าเข้าใจ เราจึงเปิดตัว Teams ใหม่รุ่นทดลองใช้ที่นำโดยคู่ค้า การทดลองใช้แบบใหม่นี้จะช่วยให้คู่ค้า Microsoft 365 สามารถเสนอรุ่นทดลองใช้หกเดือนเพื่อให้ลูกค้าที่มี Exchange Online เพียงอย่างเดียวหรือผู้ที่ยังไม่ได้ย้ายไปยังระบบคลาวด์เตรียมพร้อมสัมผัสประสบการณ์การใช้งาน Teams เต็มรูปแบบ รุ่นทดลองใช้จะพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าที่มีสิทธิ์ผ่านคู่ค้าผู้ให้บริการ Microsoft Cloud ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2019 อ่านคู่มือคู่ค้าของ Microsoft สำหรับการทดลองใช้ Microsoft Teams ที่ริเริ่มโดยคู่ค้าเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ช่วยเหลือให้ลูกค้าของเราเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานให้ลุล่วง

Lexmark ใช้ Teams เพื่อเพิ่มความคุ้มค่าของโครงการ Teams เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงด้วย Microsoft 365 ของ Lexmark ตั้งแต่แผนกกฎหมาย ห่วงโซ่อุปทาน ไปจนถึงการสร้างเนื้อหาทางการตลาดร่วมกัน

เนื่องจากมีพนักงาน 130,000 คนใน 70 ประเทศ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีของ DXC จึงใช้ Teams เพื่อทำงานร่วมกันเกี่ยวกับข้อเสนอของลูกค้าและแชร์แนวทางปฏิบัติ

เจ้าหน้าที่ฝึกสุนัขใน Belgian Federal Police ใช้ Teams เพื่อให้เชื่อมต่อตลอดเวลาที่อยู่ในภาคสนามและเพื่อการสนับสนุนด้านการทำงาน

หนึ่งในบริษัทจัดการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย Godrej Properties ใช้ Teams เพื่อนำพนักงาน ผู้จำหน่าย และผู้รับเหมามารวมอยู่ในที่เดียวกันและแจ้งข้อมูลล่าสุดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการทราบอยู่เสมอ

เริ่มต้นใช้งาน Teams

Teams กำลังเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานร่วมกับในสถานที่ทำงานและช่วยให้การดำเนินการกระบวนการทางธุรกิจสะดวกยิ่งขึ้นทั่วโลก แต่อย่าเชื่อคำพูดของเรา ลองใช้ด้วยตัวคุณเองเลย เริ่มต้นใช้งาน Teams ฟรีได้แล้ววันนี้!

The post Microsoft Teams มีผู้ใช้รายวันถึง 13 ล้านคนแล้ว ก่อให้เกิด 4 วิธีใหม่ๆ ในการทำงานเป็นทีมอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น appeared first on Microsoft 365 Blog.

ด้วยแดชบอร์ด ข้อมูลเชิงลึกใน Outlook และสรุปย่ออีเมลรายสัปดาห์ MyAnalytics สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่ขับเคลื่อนโดย AI เพื่อช่วยให้คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ประสบการณ์ MyAnalytics แบบใหม่พร้อมใช้งานทั่วไปตั้งแต่วันนี้ ทำให้ข้อมูลเชิงลึกเน้นผลลัพธ์ในสี่ด้านต่อไปนี้มากยิ่งขึ้น: โฟกัส สวัสดิภาพ เครือข่าย และการทำงานร่วมกัน ตัวอย่างเช่น ข้อมูลเชิงลึกที่เคยแสดงระยะเวลาที่คุณใช้ไปกับอีเมล การแชท การโทร และการประชุมนอกเวลางานในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะนี้จะแสดงจำนวนวันที่คุณไม่ทำงานล่วงเวลาได้สำเร็จในเดือนที่ผ่านมา ด้วยวิธีนี้ คุณจะสามารถตั้งเป้าหมายและสร้างนิสัยที่ช่วยให้คุณมีวันสบายๆ ได้มากขึ้น

เพื่อให้ดำเนินการกับข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ได้มากยิ่งขึ้น ในไตรมาสถัดๆ ไป เราจะเปิดตัวความสามารถในการสร้างแผนส่วนบุคคลที่จะทำให้การตั้งเป้าหมายและการปรับปรุงรูปแบบการทำงานในแต่ละวันของคุณกลายเรื่องง่าย แผนโฟกัสจะเป็นการอัปเดตแรกในชุดการอัปเดต MyAnalytics นี้ แผนโฟกัสใน MyAnalytics จะช่วยให้คุณสร้างสมดุลในการทำงานร่วมกันด้วยผลลัพธ์ที่มีความหมายได้ โดยช่วยให้คุณวางแผนเวลาโฟกัสในการทำงานประจำวันเพื่อทำงานที่เร่งด่วนที่สุดและลดสิ่งรบกวน วันนี้ เราจะเปิดเผยองค์ประกอบหลักของแผนโฟกัส

สร้างแผนโฟกัสส่วนบุุคคล

รูปแบบประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน แต่ผู้เชี่ยวชาญการทำงานแบบลงลึก รายงานว่าการจัดเวลาเพื่อตั้งใจทำงานที่ท้าทายมีประโยชน์อย่างมาก เมื่อใช้แผนโฟกัส MyAnalytics จะช่วยคุณสร้างตารางเวลาโฟกัสประจำวัน แผนโฟกัสจะมอบความยืดหยุ่นให้คุณโดยการจองเวลาโฟกัสประจำวันโดยอัตโนมัติตามเวลาว่าง หรือแสดงคำแนะนำให้คุณจองเวลาโฟกัสด้วยตัวเองเมื่อคุณทำงานใน Outlook อัลกอริทึมการจองอัตโนมัติจะเน้นไปที่การจองเวลาช่วงเช้า ถ้ายังคงว่างอยู่ เพื่อให้คุณทำงานด้านการวิเคราะห์ที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

รักษาตารางเวลาโฟกัสของคุณ

ถ้าคุณได้รับคำเชิญเข้าร่วมการประชุมที่ขัดแย้งกับเวลาโฟกัสที่จองไว้ Outlook จะแสดงคำแนะนำแบบอินไลน์และสรุปย่ออีเมลรายสัปดาห์ พร้อมกับข้อความที่ดำเนินการได้ เพื่อให้คุณจัดเวลาโฟกัสใหม่จากกล่องขาเข้าและรักษาตารางเวลาของคุณไว้ได้

จัดเวลาสำหรับงานคงค้าง

เพื่อช่วยให้คุณจัดเวลาสำหรับทำงานเร่งด่วนได้ เช่น งานที่คุณสัญญากับเพื่อนร่วมงานว่าจะทำให้ลุล่วงและงานที่มอบหมายให้กับคุณ คำแนะนำแบบอินไลน์ใหม่และการ์ดที่ปรับเปลี่ยนได้ในสรุปย่ออีเมลจะแสดงใน Outlook โดยจะใช้ AI สำรวจงานคงค้างจากอีเมล ทำให้คุณจัดเวลาโฟกัสสำหรับงานดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย

ทำงานโดยไม่มีสิ่งรบกวนระหว่างช่วงเวลาโฟกัส

การศึกษาพนักงานด้านข้อมูลพบว่าพนักงานใช้เวลาโดยเฉลี่ยประมาณ 23 นาที ในการกลับมาตั้งใจทำงานเดิมหลังจากพบสิ่งรบกวนหรือเสียสมาธิ เพื่อช่วยลดสิ่งรบกวนเหล่านี้ขณะคุณกำลังพยายามตั้งใจทำงานให้ลุล่วง Microsoft Teams จะสลับเป็น “ห้ามรบกวน” โดยอัตโนมัติระหว่างช่วงเวลาโฟกัส สถานะของคุณจะกลายเป็น “โฟกัส” และคุณจะได้รับเฉพาะการแจ้งเตือนจากข้อความที่เร่งด่วนหรือมาจากที่ติดต่อที่มีสิทธิ์การเข้าถึงขั้นสูงระหว่างช่วงเวลาโฟกัสเท่านั้น

ที่ Microsoft เรากำลังอยู่บนเส้นทางของการสร้างเทคโนโลยีที่จะช่วยส่งเสริมให้คุณทำงานได้อย่างดีที่สุด ไปที่แดชบอร์ด MyAnalytics ส่วนบุคคลแบบใหม่และลองใช้สรุปย่ออีเมลรายสัปดาห์ ซึ่งพร้อมใช้งานแล้ววันนี้ สรุปอีเมลดังกล่าวช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบการทำงานปัจจุบันและแสดงข้อมูลเชิงลึกที่ดำเนินการได้เพื่อจัดเวลาโฟกัส หยุดพักและเติมพลัง ติดต่อกับที่ติดต่อสำคัญและกระชับความสัมพันธ์ และปรับปรุงการทำงานร่วมกันเป็นทีม

คอยติดตามรุ่นตัวอย่างของแผนโฟกัสสำหรับลูกค้า Microsoft 365 และ Office 365 Enterprise ที่มี MyAnalytics เป็นส่วนหนึ่งของแผน E5 และเป็น Add-on ของแผน E1 และ E3 หรือมี Workplace Analytics ภายในเดือนที่จะมาถึง เมื่อเวลาผ่านไป แผนโฟกัสจะพร้อมใช้งานในแผนอื่นๆ ที่มีอีเมลที่โฮสต์โดยธุรกิจ (Exchange Online)

The post ลดสิ่งรบกวนและมีสมาธิทำงานได้ด้วยการอัปเดตที่ขับเคลื่อนโดย AI ใน Microsoft 365 appeared first on Microsoft 365 Blog.

สวัสดี ทุกคน

ผมรู้สึกตื่นเต้นจริงๆ ที่ได้แจ้งข่าวสารของวันนี้! เราเพิ่งจะเปิดใช้ความสามารถในการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft อย่างปลอดภัยด้วยอุปกรณ์ที่รองรับ FIDO2 ตามมาตรฐาน โดยไม่ต้องใช้ชื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่าน! FIDO2 ช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ตามมาตรฐานเพื่อรับรองความถูกต้องบริการออนไลน์อย่างง่ายดาย ทั้งในอุปกรณ์เคลื่อนที่และเดสก์ท็อป ความสามารถนี้พร้อมใช้งานแล้วในสหรัฐอเมริกาและจะปล่อยให้ใช้งานทั่วโลกในอีกไม่กี่สัปดาห์นี้

การผสมสผานของความใช้งานง่าย ความปลอดภัย และการสนับสนุนอุตสาหกรรมอย่างกว้างขวางจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่บ้านและในสถานที่ทำงานล้ำสมัย ทุกเดือน ผู้ใช้มากกว่า 800 ล้านคนใช้บัญชี Microsoft เพื่อสร้าง เชื่อมต่อ และแชร์จากทุกที่ไปยัง Outlook, Office, OneDrive, Bing, Skype และ Xbox Live ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการเล่น และในตอนนี้ พวกเขาสามารถรับสิทธิประโยชน์ทั้งหมดจากประสบการณ์ของผู้ใช้และการรักษาความปลอดภัยที่ผ่านการปรับปรุงได้แล้ว

ตั้งแต่วันนี้ คุณจะสามารถใช้อุปกรณ์ FIDO2 หรือ Windows Hello เพื่อลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft โดยใช้เบราว์เซอร์ Microsoft Edge ได้

ดูวิดีโอแสดงวิธีการทำงานนี้:

Microsoft มีภารกิจในการกำจัดรหัสผ่านและช่วยเหลือผู้คนในการปกป้องข้อมูลและบัญชีของพวกเขาจากภัยคุกคาม ในฐานะสมาชิกของ Fast Identity Online (FIDO) Alliance และ World Wide Web Consortium (W3C) เราได้ร่วมงานกับผู้อื่นเพื่อพัฒนามาตรฐานแบบเปิดสำหรับการรับรองความถูกต้องของรุ่นถัดไป ผมดีใจที่ได้แจ้งว่า Microsoft เป็นบริษัท Fortune 500 รายแรกที่ให้การสนับสนุนการรับรองความถูกต้องแบบไม่ใช้รหัสผ่านโดยใช้ข้อมูลจำเพาะ WebAuthn และ FIDO2 และ Microsoft Edge ยังสนับสนุนรูปแบบรับรองความถูกต้องที่กว้างขวางที่สุดเมื่อเทียบกับเบราว์เซอร์หลักอื่นๆ

ถ้าคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานและวิธีการเริ่มต้นใช้งาน กรุณาอ่านต่อ

เริ่มต้นใช้งาน

เมื่อต้องการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft โดยใช้คีย์รักษาความปลอดภัย FIDO2:

1. คุณจะต้องมีการอัปเดต Windows 10 ประจำเดือนตุลาคม 2018
2. ไปที่ หน้าบัญชี Microsoft บน Microsoft Edge และลงชื่อเข้าใช้ตามปกติ
3. เลือก การรักษาความปลอดภัย > ตัวเลือกการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม จากนั้น ภายใต้ Windows Hello และคีย์รักษาความปลอดภัย คุณจะเห็นคำแนะนำสำหรับการตั้งค่าคีย์รักษาความปลอดภัย (คุณสามารถซื้อคีย์รักษาความปลอดภัยได้จากหนึ่งในคู่ค้าของเรา ซึ่งได้แก่ Yubico และ Feitian Technologies ที่สนับสนุนมาตรฐาน FIDO2*)
4. ครั้งถัดไปที่คุณลงชื่อเข้าใช้ คุณสามารถคลิก ตัวเลือกเพิ่มเติม > ใช้คีย์รักษาความปลอดภัย หรือพิมพ์ชื่อผู้ใช้ของคุณ ในขั้นตอนนี้ ระบบจะขอให้คุณใช้คีย์รักษาความปลอดภัยเพื่อลงชื่อเข้าใช้

และต่อไปนี้คือวิธีการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft ของคุณด้วย Windows Hello:

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีการอัปเดต Windows 10 ประจำเดือนตุลาคม 2018 แล้ว
2. คุณจะต้องตั้งค่า Windows Hello ถ้าคุณยังไม่ได้ทำ ถ้าคุณตั้งค่า Windows Hello ไว้เรียบร้อยแล้ว คุณก็พร้อมแล้ว!
3. ครั้งถัดไปที่คุณลงชื่อเข้าใช้บน Microsoft Edge คุณสามารถคลิก ตัวเลือกเพิ่มเติม > ใช้ Windows Hello หรือคีย์รักษาความปลอดภัย หรือพิมพ์ชื่อผู้ใช้ของคุณ ในขั้นตอนนี้ ระบบจะขอให้คุณใช้ Windows Hello หรือคีย์รักษาความปลอดภัยเพื่อลงชื่อเข้าใช้

ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม กรุณาดูบทความช่วยเหลือโดยละเอียดเกี่ยวกับวิธีการตั้งค่า

*มีฟีเจอร์เสริมสำหรับข้อมูลจำเพาะ FIDO2 ที่เราเชื่อว่าเป็นรากฐานของการรักษาความปลอดภัย ดังนั้น จึงมีเพียงคีย์ที่ใช้ฟีเจอร์เหล่านั้นเท่านั้นที่ใช้งานได้ อ่าน คีย์รักษาความปลอดภัยที่เข้ากับ Microsoft ได้คืออะไร เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

มีวิธีการทำงานอย่างไร

เราได้ปรับใช้ข้อมูลจำเพาะ WebAuthn และ FIDO2 CTAP2 กับบริการของเราเพื่อให้ใช้งานได้จริง

FIDO2 ปกป้องข้อมูลประจำตัวของผู้ใช้โดยใช้การเข้ารหัสลับคีย์สาธารณะ/ส่วนบุคคล ต่างจากรหัสผ่าน เมื่อคุณสร้างหรือลงทะเบียนข้อมูลประจำตัว FIDO2 อุปกรณ์ (พีซีหรืออุปกรณ์ FIDO2) จะสร้างคีย์สาธารณะและส่วนบุคคลบนอุปกรณ์ คีย์ส่วนบุคคลจะถูกจัดเก็บไว้อย่างปลอดภัยบนอุปกรณ์และสามารถใช้ได้หลังจากปลดล็อกโดยใช้ท่าทาง อย่างเช่น ข้อมูลชีวมิติหรือ PIN เท่านั้น โปรดทราบว่าข้อมูลชีวมิติหรือ PIN จะไม่ถูกส่งออกจากอุปกรณ์ของคุณ ในขณะที่คีย์ส่วนบุคคลจัดเก็บอยู่ คีย์สาธารณะจะถูกส่งไปยังระบบบัญชี Microsoft ใน Cloud และลงทะเบียนกับบัญชีผู้ใช้ของคุณ

เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ในภายหลัง ระบบบัญชี Microsoft จะแจ้งพีซีหรืออุปกรณ์ FIDO2 ของคุณ จากนั้น พีซีหรืออุปกรณ์จะใช้คีย์ส่วนบุคคลเพื่อลงชื่อการแจ้งดังกล่าว การแจ้งที่ลงชื่อแล้วและเมตาดาต้าจะถูกส่งกลับไปยังระบบบัญชี Microsoft ซึ่งจะถูกตรวจสอบโดยใช้คีย์สาธารณะ เมตาดาต้าที่ลงชื่อแล้วตามที่ระบุโดยข้อมูลจำเพาะ WebAuthn และ FIDO2 จะแสดงข้อมูล เช่น ผู้ใช้กำลังใช้งานอยู่หรือไม่ และตรวจสอบการรับรองความถูกต้องผ่านท่าทาง คุณสมบัติเหล่านี้ทำให้การรับรองความถูกต้องด้วย Windows Hello และอุปกรณ์ FIDO2 ไม่สามารถถูก “ฟิชชิ่ง” หรือถูกมัลแวร์ขโมยข้อมูลได้ง่ายๆ

Windows Hello และอุปกรณ์ FIDO2 ปรับใช้คุณสมบัตินี้อย่างไร คุณอาจมีพื้นที่รักษาความปลอดภัยในตัว ที่เรียกว่าโมดูลแพลตฟอร์มที่เชื่อถือ (TPM) ของฮาร์ดแวร์หรือ TPM ของซอฟต์แวร์ตามความสามารถของอุปกรณ์ Windows 10 ของคุณ TPM จะจัดเก็บคีย์ส่วนบุคคล ซึ่งจะต้องใช้ใบหน้า ลายนิ้วมือ หรือ PIN ในการปลดล็อก ในทำนองเดียวกัน อุปกรณ์ FIDO2 จะเหมือนกับคีย์รักษาความปลอดภัย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกที่มีพื้นที่รักษาความปลอดภัยในตัวที่จะจัดเก็บคีย์ส่วนบุคคลและจำเป็นต้องใช้ข้อมูลชีวมิติหรือ PIN ในการปลดล็อก ทั้งสองทางเลือกมีการรับรองความถูกต้องแบบสองปัจจัยในขั้นตอนเดียว ซึ่งจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ลงทะเบียนแล้วและข้อมูลชีวมิติหรือ PIN เพื่อลงชื่อเข้าใช้ให้สำเร็จ

ดูบทความบนบล็อกมาตรฐานข้อมูลประจำตัวนี้ ที่อธิบายรายละเอียดด้านเทคนิคทั้งหมดเกี่ยวกับการปรับใช้

มีอะไรอีก

เรากำลังมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักในการปล่อยสิ่งที่ยอดเยี่ยมอีกมากมายเพื่อลดและแม้แต่กำจัดการใช้รหัสผ่าน เรากำลังสร้างประสบการณ์การลงชื่อเข้าใช้แบบเดียวกันจากเบราว์เซอร์ที่มีคีย์รักษาความปลอดภัยสำหรับบัญชีของที่ทำงานหรือโรงเรียนใน Azure Active Directory ลูกค้าระดับองค์กรจะสามารถดูตัวอย่างในช่วงต้นปีถัดไป โดยพวกเขาจะสามารถอนุญาตให้พนักงานตั้งคีย์รักษาความปลอดภัยสำหรับบัญชีของพวกเขาเองเพื่อลงชื่อเข้าใช้ Windows 10 และ Cloud

นอกจากนี้ เนื่องจากเบราว์เซอร์และแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมายได้เริ่มให้การสนับสนุนมาตรฐาน WebAuthn และ FIDO2 ซึ่งเป็นประสบการณ์แบบไม่ใช้รหัสผ่านที่พร้อมใช้งานบน Microsoft Edge และ Windows แล้ววันนี้ เราจึงหวังว่าความสามารถนี้จะพร้อมใช้งานทุกที่!

คอยติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมในช่วงต้นปีถัดไป!

ด้วยความเคารพ
Alex Simons (@Twitter: @Alex_A_Simons)
CVP ของฝ่ายจัดการโปรแกรม
แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post รักษาความปลอดภัยการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft ของคุณแบบไม่ใช้รหัสผ่านด้วยคีย์รักษาความปลอดภัยหรือ Windows Hello appeared first on Microsoft 365 Blog.

เราได้ยินเสียงของลูกค้าดังชัดเจน พวกเขาต้องการการสนับสนุนสำหรับแอป Microsoft Authenticator บน Apple Watch ผมจึงตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่จะประกาศว่าเราได้เริ่มเผยแพร่ตัวอย่างสำหรับสาธารณะของแอปที่มาพร้อมการสมัครใช้งาน Microsoft Authenticator สำหรับ Apple Watch และวางแผนที่จะเผยแพร่ความพร้อมใช้งานทั่วไปในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ประสบการณ์ใช้งานนี้จะทำให้คุณได้อนุมัติการแจ้งเตือนสำหรับการลงชื่อเข้าใช้ที่จำเป็นต้องใช้ PIN หรือชีวมาตรบน Watch ของคุณโดยไม่ต้องใช้โทรศัพท์

แอป Microsoft Authenticator บน Apple Watch จะสนับสนุนบัญชี Microsoft ส่วนตัว ที่ทำงาน และที่โรงเรียนที่ได้รับการตั้งค่าด้วยการแจ้งเตือนแบบพุช บัญชีที่ได้รับการสนับสนุนทั้งหมดจะซิงค์กับ Watch โดยอัตโนมัติ

ลองดูสิ

เมื่อต้องการใช้งานแอป ให้อัปเกรดเป็น Microsoft Authenticator เวอร์ชัน 6.0.0+ บนโทรศัพท์ของคุณเมื่อพร้อมให้ใช้บริการ ถ้าคุณต้องการทดลองใช้งานก่อนการพร้อมให้ใช้งานโดยทั่วไป ให้ลงชื่อเข้าใช้เพื่อเป็น ผู้ใช้ Microsoft Authenticator TestFlight

เมื่อคุณได้ติดตั้งการอัปเกรดแล้ว เพียงแค่ทำตามขั้นตอนสามขั้นต่อไปนี้:

1. ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโทรศัพท์ของคุณได้จับคู่กับ Watch
2. เปิดแอป Microsoft Authenticator บน Watch ของคุณ

3. ภายใต้ชื่อบัญชี แตะที่ปุ่ม ตั้งค่า ถ้าไม่มีปุ่ม ตั้งค่า ถัดจากบัญชีของคุณ ก็ไม่ต้องดำเนินการใดๆ! ตอนนี้คุณสามารถอนุมัติการแจ้งเตือนสำหรับการลงชื่อเข้าใช้บน Watch ของคุณได้แล้ว

เมื่อต้องการดูการทำงานของประสบการณ์ใช้งานเต็มรูปแบบ ให้ลงชื่อเข้าใช้บัญชีของคุณโดยใช้ Microsoft Authenticator เมื่อการแจ้งเตือนแสดงบน Watch คุณสามารถอนุมัติได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

จากมุมมองด้านความปลอดภัย เรายังคงคิดว่าประสบการณ์ใช้งานบน Watch เป็นการตรวจสอบสองชั้น ปัจจัยแรกคือการที่คุณเป็นเจ้าของ Watch ปัจจัยที่สองคือ PIN ที่รู้เฉพาะคุณเท่านั้น เมื่อคุณสวม Watch บนข้อมือในตอนเช้า คุณจะต้องปลดล็อก ตราบเท่าที่คุณไม่ได้ถอด Watch ออกและยังอยู่ในระยะโทรศัพท์ของคุณ มันก็จะยังปลดล็อกอยู่ คุณจึงไม่ต้องใส่ PIN อีก

ถ้าคุณมีคำถามเพิ่มเติม โปรดดูที่ เพจคำถามที่ถามบ่อยเกี่ยวกับ Microsoft Authenticator นอกจากนี้ โปรดแสดงขอคิดเห็นไว้ที่ด้านล่าง เราต้องการได้ยินคำติชมและข้อเสนอแนะจากคุณ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post แอปที่มาพร้อมการสมัครใช้งานของ Microsoft Authenticator สำหรับ Apple Watch เป็นตัวอย่างสำหรับสาธารณะแล้วตอนนี้ appeared first on Microsoft 365 Blog.

พนักงานในสถานที่ทำงานสมัยใหม่ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่สามารถปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ ทำให้ชีวิตของพวกเขาสมบูรณ์และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และสร้างการเชื่อมโยงกับพันธกิจและเป้าหมายขององค์กรมากกว่าที่เคย

ขั้นตอนแรกที่สำคัญสำหรับองค์กรในการก้าวเข้าสู่วัฒนธรรมการทำงานใหม่นี้คือการผลักดันการจัดวางผู้คนให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่มีร่วมกัน ผู้นำจำนวนมากตระหนักได้ว่าองค์กรที่ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ จะมีข้อได้เปรียบในการดึงดูดและรักษาพนักงานที่มีเป้าหมายร่วมกัน

ต่อไปนี้คือ 4 วิธีการที่จะช่วยให้ผู้นำและพนักงานในองค์กรของคุณสามารถมีส่วนร่วมกันด้วยกิจกรรมถ่ายทอดสดแบบใหม่ใน Microsoft 365:

1—ใช้กิจกรรมถ่ายทอดสดเพื่อเริ่มต้นการพูดคุยแบบโต้ตอบกันทั่วทั้งองค์กร

ในวันนี้ ผู้บริหารที่ Microsoft Corporation รวมถึง CEO Satya Nadella ใช้ Microsoft 365 ในการติดต่อและสื่อสารกับพนักงานทั่วโลก ขณะนี้ บริษัทหรือองค์กรที่มี Microsoft 365 สามารถสร้างช่วงเวลาแห่งการมีส่วนร่วมสูง ซึ่งให้ผู้คนได้มุ่งความสนใจกับผู้นำและข้อความของพวกเขา และสามารถถามคำถามเพื่อขอความชัดเจนหรือส่งเสริมการสนทนาในชุมชนได้

คุณสามารถสร้างกิจกรรมถ่ายทอดสดได้ ไม่ว่าผู้ชม ทีม หรือชุมชนของคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตามโดยใช้ Microsoft Stream, Teams หรือ Yammer ผู้เข้าร่วมจะได้รับการแจ้งเตือนและสามารถเข้าร่วมได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบวิดีโอความคมชัดสูงและการพูดคุยแบบโต้ตอบผ่านเว็บ อุปกรณ์เคลื่อนที่ หรือเดสก์ท็อป

หลังจากกิจกรรมสิ้นสุดลง คุณยังสามารถเก็บการบันทึกวิดีโอไว้บนหน้ากิจกรรมได้อย่างง่ายดาย ทำให้คุณสามารถดูกิจกรรมได้ในเวลาที่คุณสะดวกและติดตามสิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วด้วยฟีเจอร์ AI ที่มีประสิทธิภาพที่ปลดล็อกเนื้อหาของการบันทึกกิจกรรม การบันทึกจะอัดเสียงและตรวจหาความเปลี่ยนแปลงในลำโพงโดยอัตโนมัติ ทำให้ง่ายต่อการค้นหาเนื้อหาในภายหลัง

สำหรับพนักงานที่อยู่ในโซนเวลาต่างกันหรือไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมถ่ายทอดสดได้ การสนทนาจะยังคงดำเนินต่อไป เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่ายังเชื่อมต่ออยู่กับผู้นำและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งช่วยกำจัดขอบเขตทางภูมิศาสตร์และองค์กรได้

กิจกรรมและการบันทึกให้บริการโดย Microsoft Stream ซึ่งเป็นบริการวิดีโออัจฉริยะใน Office 365

2—สร้างการสนทนาถาวรในชุมชนแบบเปิด

ให้ทุกคนสามารถพูดได้ ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากกิจกรรมถ่ายทอดสดใน Microsoft 365 ด้วยชุมชน Yammer ที่ขยายฟังก์ชันหรือทั่วทั้งองค์กร สร้างกระดานสนทนาเพื่อรับฟังข้อมูลส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมจากพนักงาน ชุมชนเหล่านี้คือสถานที่ที่ผู้คนสามารถเสนอความคิดเห็น ข้อกังวล หรือสอบถามได้ตลอดเวลา และยังเป็นสถานที่ที่ผู้นำสามารถตอบกลับด้วยวิธีที่น่าเชื่อถืออีกด้วย

ชุมชน Yammer ที่มีการสื่อสารอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความรู้สึกมีส่วนร่วมและความสามัคคี และยังมีกระดานสนทนาที่พนักงานที่ไม่สะดวกพูดคุยระหว่างกิจกรรมถ่ายทอดสด สามารถติดต่อกับผู้นำได้โดยตรงอีกด้วย

ด้วยการแปลข้อความแบบอินไลน์ กิจกรรมถ่ายทอดสดใน Microsoft 365 ช่วยส่งเสริมให้พนักงานแสดงตัวตนออกมาในภาษาของพวกเขาเอง

3—สร้างไซต์อินทราเน็ตสำหรับผู้นำเพื่อใช้แชร์กิจกรรม บล็อก วิดีโอ ข่าวสาร และแหล่งข้อมูล

สื่อสารในทุกระดับในฐานะผู้นำด้วยการแสดงสถานะทางออนไลน์อย่างต่อเนื่องโดยใช้เนื้อหา การสนทนา และแชนแนลวิดีโอภายในไซต์การติดต่อสื่อสารของ SharePoint คุณสามารถปรับการกระจายข่าวสารและบล็อก และสร้างการมีส่วนร่วมที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง แบบสำรวจและแบบสอบถาม และการวิเคราะห์จำนวนผู้อ่าน

ไซต์เหล่านี้ยังเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมในการแชร์กิจกรรมที่บันทึกไว้สำหรับดูในภายหลัง เพียงสร้างหน้าเฉพาะสำหรับแต่ละกิจกรรมที่พนักงานสามารถส่งคำถามและแสดงความคิดเห็นล่วงหน้าได้ ผู้นำและผู้จัดกิจกรรมสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการสร้างข้อความและเนื้อหาของกิจกรรม

4—วางแผนการสื่อสารระดับองค์กรและประเมินผลกระทบ

การติดต่อสื่อสารระดับผู้บริหารและการติดต่อสื่อสารภายในอาจได้รับการจัดการโดยคนๆ เดียวหรือทีมที่มีหลายคน แต่ก็ต้องมีการวางแผนและการดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้ประสบความสำเร็จ Microsoft Teams—ฮับสำหรับการทำงานเป็นทีมใน Office 365—คือชุดโปรแกรมในการทำงานร่วมกันเพื่อสร้างและจัดกิจกรรมและการสื่อสารระดับผู้บริหารรูปแบบอื่นๆ และยังมีการทำงานเบื้องหลังที่มีประสิทธิภาพสำหรับกิจกรรมถ่ายทอดสด ทำให้คุณมีพื้นที่ทำงานที่ใช้ร่วมกันเพื่อทำงานกับผู้พูดและอนุมัติเนื้อหาก่อนที่จะแชร์กับผู้ชมที่กว้างขวางยิ่งขึ้น

เมื่อคุณเริ่มมีส่วนร่วมกับผู้ชม ข้อความทั้งหมดภายใน Yammer จะแสดงจำนวนผู้คนที่อ่านโพสต์ของคุณ ซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดชุมชนและพนักงานเข้าใจสิ่งที่กำลังอ่านได้ ข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มจะแสดงให้เห็นว่าความรู้และข้อมูลที่สร้างขึ้นในชุมชนมีประโยชน์ต่อผู้คนอย่างไร โดยไม่คำนึงว่าบุคคลนั้นมีสถานะสมาชิกใดในกลุ่ม ตัวอย่างเช่น ผู้เข้าชมอาจได้รับประโยชน์จากการสนทนากลุ่มและใช้ข้อมูลดังกล่าวกับงานอื่นๆ ในงานประจำวันของพวกเขา นอกจากนี้ คุณยังสามารถดูจำนวนการเข้าชมการบันทึกกิจกรรมและทั่วทั้งแชนแนล และจำนวนบุคคลที่ชื่นชอบวิดีโอได้ หน้าและบทความข่าวสารยังมีสถิติเพื่อใช้ทำความเข้าใจผู้อ่าน

การส่งเสริมผู้นำทุกคนทั่วทั้งองค์กร

แน่นอน ผู้นำไม่ได้หมายถึงผู้นำองค์กรเท่านั้น ผู้นำชุมชนอาจหมายถึงผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ผู้จัดการการทำงาน หรือบุคคลที่ชื่นชอบด้านต่างๆ ที่นำกลุ่มความเชี่ยวชาญ การฝึกฝน หรือความสนใจ ความสามารถเดียวกันนี้ใน Microsoft 365 สามารถช่วยให้ผู้นำทุกๆ ระดับสามารถสร้างและรักษาการติดต่อสื่อสารอย่างยั่งยืนกับชุมชนของพวกเขา

Patrick Yates ผู้จัดการฝ่ายความหลากหลายและการมีส่วนร่วมที่ TDS Telecom ระบุว่าการติดต่อสื่อสารในชุมชนและการมีส่วนร่วมคือส่วนสำคัญของประสบการณ์ของพนักงาน และมีประโยชน์ในการรับสมัครพนักงานที่มีความสามารถ “คนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานต้องการสภาพแวดล้อมที่ทันสมัยและเปิดกว้างเป็นพิเศษ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับพวกเขา”

เชื่อมต่อพนักงานกับผู้นำวันนี้

สัมผัสประสบการณ์ตัวอย่างกิจกรรมถ่ายทอดสดสาธารณะใน Microsoft 365 และเริ่มต้นเชื่อมต่อพนักงานกับผู้นำวันนี้ เรากำลังจะเพิ่มฟีเจอร์และฟังก์ชันอื่นๆ ตามคำติชมของคุณในชุมชนด้านเทคนิค

เมื่อต้องการสร้างกิจกรรมถ่ายทอดสด คุณจะต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Office 365 E3 หรือ E5 และผู้ดูแลระบบจะต้องมอบสิทธิ์ให้กับคุณ เมื่อต้องการเข้าร่วมกิจกรรมถ่ายทอดสด คุณจะต้องมีสิทธิ์การใช้งาน Office 365 สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาต สามารถใช้การเข้าถึงแบบสาธารณะ (ไม่ระบุตัวตน) ได้ในการกำหนดค่าเฉพาะ

เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติม ให้ไปที่ เชื่อมต่อผู้นำและพนักงานบน Office.com และสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถกิจกรรมอัจฉริยะ ให้ไปที่ โพสต์กิจกรรมถ่ายทอดสดของ Microsoft 365 ในชุมชนด้านเทคนิค

The post 4 ขั้นตอนในการมีส่วนร่วมกับพนักงานด้วยกิจกรรมถ่ายทอดสดแบบใหม่ใน Microsoft 365 appeared first on Microsoft 365 Blog.

ถ้าคุณติดตามบล็อกของเรา คุณจะทราบว่าการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไข (CA) ของ Azure AD นั้นทำให้คุณรักษาความปลอดภัยการเข้าถึง Office 365 และแอปอื่นๆ ที่คุณใช้กับ Azure AD ได้อย่างง่ายดาย ถือเป็นฟีเจอร์ที่เติบโตเร็วที่สุดของเรา และนโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขก็ได้ปกป้องผู้ใช้กว่า 23 ล้านราย! เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เราได้รับฟังคำติชมของคุณอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถปรับปรุงการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขและสิ่งที่คุณต้องการจะเห็นในอนาคต

หนึ่งในฟีเจอร์ที่ลูกค้าเช่นคุณได้ร้องขอมามากที่สุดคือ การรวมกับ Intune Managed Browser ดังนั้นในวันนี้ ผมจึงตื่นเต้นที่จะประกาศการปรับปรุงสองประการที่ขณะนี้อยู่ในรูปแบบของตัวอย่างสำหรับสาธารณะ:

• SSO ใน Intune Managed Browser: พนักงานของคุณสามารถใช้การลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวกับไคลเอ็นต์ดั้งเดิมได้ (เช่น Microsoft Outlook) และ Intune Managed Browser สำหรับแอปที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ทั้งหมด
• การสนับสนุนการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขใน Intune Managed Browser: คุณสามารถบังคับให้พนักงานใช้ Intune Managed browser โดยใช้นโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขตามแอปพลิเคชัน

อ่านต่อเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

การลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวสู่แอปที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ใน Intune Managed Browser

ขณะนี้แอปพลิเคชัน Intune Managed Browser บน iOS และ Android สามารถใช้ประโยชน์จาก SSO สู่เว็บแอปทั้งหมด (ทั้ง SaaS และในองค์กร) ที่มีการเชื่อมต่อ Azure AD เมื่อแอป Microsoft Authenticator นั้นปรากฏให้ใช้บน iOS หรือ แอป Intune Company Portal มีให้ใช้บน Android ผู้ใช้ Intune Managed Browser จะสามารถเข้าถึงเว็บแอปที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ได้โดยไม่ต้องใส่ข้อมูลประจำตัวใหม่อีกครั้ง

มาดูว่าการมีประสบการณ์ลงชื่อเข้าใช้บนอุปกรณ์ iOS ที่ดีกว่าเดิมนั้นง่ายดายเพียงใด!

• ติดตั้ง Intune Managed Browser รุ่นล่าสุด เมื่อใช้แอปในครั้งแรก คุณสามารถใช้การลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวได้โดยการติดตั้งแอป Microsoft Authenticator ทำขั้นตอนนี้ให้เสร็จสิ้น

• ลงชื่อเข้าใช้ และนำทางไปยังแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ของคุณด้วยการลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียว คุณจะได้รับพร้อมท์ให้ลงทะเบียนอุปกรณ์ของคุณเพื่อใช้การลงชื่อเข้าระบบครั้งเดียวกับทุกแอปพลิเคชัน เรียบร้อย!

  ความสามารถนี้จะขยายบนการรวมที่ประกาศไปก่อนหน้านี้ระหว่าง Application Proxy ของ Azure AD และ Intune Managed Browser

เจ๋งใช่ไหมล่ะ

รักษาความปลอดภัยการเข้าถึงเบราว์เซอร์มือถือโดยใช้การเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขและ Intune Managed Browser

คุณยังสามารถจำกัดเบราว์เซอร์มือถือที่เข้าถึงแอปที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ให้เหลือเฉพาะ Intune Managed Browser เท่านั้น แล้วบล็อกการเข้าถึงจากเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้รับการป้องกันเช่น Safari หรือ Chrome

ซึ่งจะอนุญาตให้คุณรักษาความปลอดภัยการเข้าถึงและป้องกันข้อมูลรั่วไหลผ่านแอปพลิเคชันเบราว์เซอร์ที่ไม่ได้รับการป้องกัน การป้องกันสามารถใช้ได้กับบริการ Office 365 เช่น Exchange Online และ SharePoint Online, พอร์ทัล Office และแม้กระทั่งไซต์ภายในองค์กรที่คุณได้เปิดเผยผ่าน Application Proxy ของ Azure AD

เมื่อต้องการรักษาความปลอดภัยการเข้าถึง ให้กำหนดค่านโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขตามแอปพลิเคชันใน Azure AD และนโยบายการป้องกันแอปสำหรับ Managed Browser ใน Intune

นี่คือวิธีที่คุณต้องทำ:

Azure AD

การสร้างนโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขของ Azure AD เพื่อล็อกการเข้าถึงเบราว์เซอร์ให้เหลือเฉพาะ Intune Managed Browser เรียนรู้วิธีตั้งค่าการนโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขตามแอปบน Azure AD นี่คือสกรีนช็อตของนโยบายที่มีจุดประสงค์เพื่อการเข้าถึงเบราว์เซอร์

Intune

อีกแค่ไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น! สร้างนโยบายการป้องกันแอปของ Intune และตั้งเป้าผู้ใช้ทุกคนด้วยแอปพลิเคชัน Managed Browser เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าการป้องกันแอปในนโยบายการป้องกันแอปของ Intune ได้ที่นี่ สกรีนช็อตตรงนี้แสดงวิธีตั้งเป้าหมายแอปพลิเคชัน Managed Browser

การกำหนดค่าของคุณพร้อมแล้ว! ผู้ใช้ที่พยายามใช้เบราว์เซอร์ที่ไม่มีการจัดการ เช่น Safari และ Chrome จะได้รับพร้อมท์ให้ใช้งาน Intune Managed Browser ถ้านี่เป็นครั้งแรก ผู้ใช้จะได้รับพร้อมท์ให้ติดตั้ง Microsoft Authenticator บน iOS หรือ Company Portal บน Android นี่คือสกรีนช็อตของการเข้าถึงที่ถูกบล็อกเมื่อใช้งาน Safari บน iOS

ผมหวังว่าคุณจะลองใช้การปรับปรุงใหม่วันนี้ นี่คือชุดลิงก์ด่วนเพื่อให้คุณได้เริ่มต้นใช้งาน:

ลิงก์ด่วน

• วิธีใช้ Application Proxyของ Azure AD
• การกำหนดนโยบายการเข้าถึงที่มีเงื่อนไข
• คู่มือทางเทคนิคเกี่ยวกับการเข้าถึงที่มีเงื่อนไขบนแอป
• นโยบายการป้องกันแอปใน Intune
• กำหนดคค่านโยบายของ Managed Browser ใน Intune

เช่นเคย เรายินดีรับฟังคำติชมหรือคำแนะนำจากคุณ แค่ไป ที่นี่ และบอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร!

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post ขณะนี้ Intune Managed Browser นั้นสนับสนุน SSO ของ Azure AD และการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขแล้ว! appeared first on Microsoft 365 Blog.

ตราบใดที่เรายังมีรหัสผ่านอยู่ ก็จะมีคนลองเดารหัสเหล่านั้นอยู่เสมอ ในบล็อกนี้ เราจะพูดถึงการโจมตีโดยทั่วไปที่มีเพิ่มมากขึ้นในช่วงนี้ และแนวทางปฏิบัติสำหรับการป้องกัน การโจมตีแบบนี้มักเรียกว่า Password Spray

ในการโจมตีแบบ Password Spray เหล่าผู้ไม่หวังดีจะลองใช้รหัสผ่านที่ธรรมดาที่สุดกับบัญชีและบริการต่างๆ หลายบัญชีเพื่อเข้าถึงแอสเซทที่ปกป้องด้วยรหัสผ่านที่พวกเขาจะหาได้ โดยมักจะกระจายไปยังองค์กรต่างๆ และผู้ให้บริการข้อมูลประจำตัว ตัวอย่างเช่น ผู้โจมตีจะใช้ชุดเครื่องมือที่หาได้ทั่วไปอย่าง Mailsniper เพื่อแจงนับผู้ใช้ทั้งหมดในบริษัทหลายแห่ง แล้วลองใส่ “P@$$w0rd” และ “Password1” กับบัญชีเหล่านั้น เพื่อที่จะให้คุณเข้าใจมากขึ้น การโจมตีอาจเป็นลักษณะนี้:

รูปแบบการโจมตีจะหลบเลี่ยงเทคนิคการตรวจหาส่วนใหญ่ได้ เนื่องจากสำหรับผู้ใช้แต่ละรายหรือบริษัทแล้ว การโจมตีจะดูเหมือนการเข้าสู่ระบบที่ผิดพลาดธรรมดาๆ เท่านั้น

สำหรับผู้โจมตี นี่เป็นเกมตัวเลข: พวกเขารู้ว่าจะมีรหัสผ่านสักรายการหนึ่งอยู่แล้วที่เป็นรหัสระดับง่ายมาก แม้ว่าจะมีบัญชีที่ตั้งรหัสผ่านง่ายๆ เพียง 0.5-1.0% แต่ผู้โจมตีก็จะประสบความสำเร็จสองสามครั้งจากการโจมตีบัญชีนับพันครั้ง และเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

พวกเขาใช้บัญชีเพื่อเอาข้อมูลจากอีเมล เก็บข้อมูลผู้ติดต่อ แล้วส่งลิงก์ฟิชชิ่ง หรือเพียงขยายกลุ่มเป้าหมายที่จะโจมตีแบบ Password Spray ต่อ ผู้โจมตีไม่ได้สนใจมากนักว่าใครจะเป็นเป้าหมายในเบื้องต้น พวกเขาสนใจแค่ความสำเร็จเพียงไม่กี่ครั้งที่ใช้หาประโยชน์ได้

ข่าวดีคือ Microsoft มีเครื่องมือหลากหลายที่ดำเนินการและพร้อมให้บริการเพื่อลดการโจมตีเหล่านี้ และยังมีเครื่องมืออื่นๆ ตามมาอีกในเร็วๆ นี้ อ่านเพื่อดูว่าคุณทำอะไรได้บ้างตอนนี้และอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเพื่อหยุดการโจมตีแบบ Password Spray

สี่ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะหยุดยั้งการโจมตีแบบ Password Spray

ขั้นตอนที่ 1: ใช้การรับรองความถูกต้องบนระบบคลาวด์

ในระบบคลาวด์ เราเห็นการลงชื่อเข้าใช้ระบบ Microsoft นับล้านครั้งทุกวัน อัลกอริทึมการตรวจหาเพื่อความปลอดภัยอนุญาตให้เราตรวจหาและบล็อกการโจมตีทันทีที่เกิดขึ้น เนื่องจากเป็นการตรวจหาในเวลาจริงและระบบการป้องกันได้รับการควบคุมโดยระบบคลาวด์ ทำให้มีพร้อมใช้งานเมื่อใช้การรับรองความถูกต้อง Azure AD ในระบบคลาวด์ (ซึ่งรวมถึงการรับรองความถูกต้องแบบพาส-ทรู)

การล็อกแบบสมาร์ท

ในระบบคลาวด์ เราใช้การล็อกแบบสมาร์ทเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างการพยายามลงชื่อเข้าใช้ที่ดูเหมือนจะมาจากผู้ใช้ที่ถูกต้อง และการลงชื่อเข้าใช้ที่อาจมาจากผู้โจมตี เราสามารถเฝ้าระวังผู้โจมตีในขณะที่ปล่อยให้ผู้ใช้ที่ถูกต้องใช้งานต่อไปได้ ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ผู้ใช้เจอการปฏิเสธการให้บริการและหยุดการโจมตีแบบ Password Spray ที่โหมเข้ามา ซึ่งจะใช้กับการลงชื่อเข้าใช้ Azure AD ทั้งหมดในทุกๆ ระดับสิทธิการใช้งาน และการลงชื่อเข้าใช้บัญชี Microsoft ทั้งหมด

ผู้เช่าที่ใช้ Active Directory Federation Services (ADFS) จะสามารถใช้การล็อกแบบสมาร์ทในตัว ADFS ใน Windows Server 2016 ได้ในเดือนมีนาคม 2018 ให้มองหาความสามารถนี้ที่จะมาทาง Windows Update

การล็อก IP

การล็อก IP จะทำงานโดยวิเคราะห์การลงชื่อเข้าใช้นับล้านเพื่อประเมินลักษณะของปริมาณการใช้งานจากแต่ละที่อยู่ IP ที่เข้ามาในระบบของ Microsoft ด้วยการวิเคราะห์ดังกล่าว การล็อก IP จะค้นหาที่อยู่ IP ที่มีลักษณะเป็นอันตรายและบล็อกการลงชื่อเข้าใช้เหล่านั้นในเวลาจริง

โปรแกรมจำลองการโจมตี

ขณะนี้มีให้บริการในรูปแบบตัวอย่างสำหรับสาธารณะ โปรแกรมจำลองการโจมตีที่เป็นส่วนหนึ่งของ Threat Intelligence ของ Office 365 จะให้ลูกค้าได้เปิดใช้การโจมตีที่จำลองขึ้นกับผู้ใช้ของพวกเขา กำหนดพฤติกรรมของผู้ใช้ในเหตุการณ์ที่มีการโจมตี และอัปเดตนโยบายและตรวจสอบให้มั่นใจว่าเครื่องมือรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมนั้นพร้อมปกป้ององค์กรของคุณจากภัยคุกคามอย่างการโจมตีแบบ Password Spray

สิ่งที่เราแนะนำให้คุณดำเนินการโดยเร็วที่สุด:

1. ถ้าคุณใช้การรับรองความถูกต้องบนระบบคลาวด์อยู่ คุณก็ได้รับการปกป้องแล้ว
2. ถ้าคุณใช้ ADFS หรือสถานการณ์แบบไฮบริดอื่นๆ ให้มองหาการล็อกแบบสมาร์ทในการอัปเกรด ADFS ประจำเดือนมีนาคม 2018
3. ใช้โปรแกรมจำลองการโจมตีเพื่อประเมินการรักษาความปลอดภัยเชิงรุกและปรับปรุง

ขั้นตอนที่ 2: ใช้การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัย

รหัสผ่านนั้นเป็นกุญแจสู่การเข้าถึงบัญชี แต่ในการโจมตีแบบ Password Spray ที่ประสบความสำเร็จนั้น เกิดจากผู้โจมตีเดารหัสผ่านได้ถูกต้อง เพื่อที่จะหยุดยั้งพวกเขา เราต้องใช้อะไรมากกว่าแค่รหัสผ่านเพื่อแยกแยะระหว่างเจ้าของบัญชีกับผู้โจมตี สามวิธีที่จะทำเช่นนั้นได้อยู่ด้านล่างนี้แล้ว

การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยตามความเสี่ยง

Azure AD Identity Protection ใช้ข้อมูลการลงชื่อเข้าใช้ที่อ้างถึงด้านบน และเพิ่มการเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องขั้นสูงและการตรวจหาแบบอัลกอริทึมเพื่อประเมินความเสี่ยงในทุกการลงชื่อเข้าใช้ที่เข้ามาในระบบ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าขององค์กรสร้างนโยบายใน Identity Protection ที่จะพร้อมท์ให้ผู้ใช้รับรองความถูกต้องด้วยปัจจัยที่สองก็ต่อเมื่อตรวจพบความเสี่ยงสำหรับผู้ใช้หรือสำหรับเซสชัน โดยเป็นการลดภาระของผู้ใช้ของคุณ และคอยขัดขวางเหล่าผู้ไม่หวังดี เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Azure AD Identity Protection ที่นี่

ใช้การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยอยู่เสมอ

สำหรับการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติม คุณสามารถใช้ MFA ของ Azure เพื่อบังคับใช้การรับรองความถูกต้องโดยใช้หลายปัจจัยสำหรับบัญชีของคุณตลอดเวลา ทั้งในการรับรองความถูกต้องบนระบบคลาวด์และ ADFS แม้ว่าการรับรองนี้จะบังคับให้ผู้ใช้ต้องพกอุปกรณ์ตลอดเวลาและใช้การรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยบ่อยครั้งกว่าเดิม แต่การรับรองทำให้องค์กรของคุณมีความปลอดภัยสูงสุด ซึ่งควรเปิดใช้งานให้แก่ผู้ดูแลระบบทุกคนในองค์กร เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยของ Azure ที่นี่ และวิธีกำหนค่า MFA ของ Azure สำหรับ ADFS

MFA ของ Azure ในฐานะการรับรองความถูกต้องหลัก

ใน ADFS 2016 คุณสามารถใช้ MFA ของ Azure เป็นการรับรองความถูกต้องหลักสำหรับการรับรองความถูกต้องแบบไม่ใช้รหัสผ่าน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการป้องกันการโจมตีแบบ Password Spray และการโจรกรรมรหัสผ่าน: ถ้าไม่มีรหัสผ่าน ก็เดารหัสผ่านไม่ได้ โดยจะทำงานได้ดีสำหรับทุกอุปกรณ์ที่มีปัจจัยของฟอร์มต่างๆ นอกจากนี้ ตอนนี้คุณสามารถใช้รหัสผ่านเป็นปัจจัยที่สองได้เฉพาะหลังจากที่ MFA ของ Azure ตรวจสอบความถูกต้อง OTP ของคุณแล้วเท่านั้น เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้รหัสผ่านเป็นปัจจัยที่สองได้ ที่นี่

สิ่งที่เราแนะนำให้คุณดำเนินการโดยเร็วที่สุด:

1. เราแนะนำอย่างยิ่งให้เปิดใช้งานการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยอยู่เสมอให้แก่ผู้ดูแลระบบทุกคนในองค์กรของคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าของการสมัครใช้งานและผู้ดูแลผู้เช่า จริงๆ นะ ไปทำเดี๋ยวนี้เลย
2. เพื่อประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่เหลือของคุณ เราแนะนำการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยตามความเสี่ยง ซึ่งจะมีให้ใช้งานกับสิทธิการใช้งาน Azure AD Premium P2
3. หรือไม่ ให้ใช้ MFA ของ Azure สำหรับการรับรองความถูกต้องบนระบบคลาวด์และ ADFS
4. ใน ADFS ให้อัปเกรด ADFS บน Windows Server 2016 เพื่อใช้ MFA ของ Azure เป็นการรับรองความถูกต้องหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการเข้าถึงเอกซ์ทราเน็ตทั้งหมดของคุณ

ขั้นตอนที่ 3: รหัสผ่านที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน

แม้จะมีวิธีที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว ส่วนที่สำคัญของการป้องกันการโจมตีแบบ Password Spray ก็คือการที่ผู้ใช้ทุกคนมีรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก บ่อยครั้งจึงเป็นเรื่องยากที่ผู้ใช้จะทราบถึงวิธีสร้างรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก Microsoft จะช่วยคุณสร้างรหัสได้ด้วยเครื่องมือเหล่านี้

รหัสผ่านที่ถูกแบน

ใน Azure AD ทุกการเปลี่ยนและตั้งค่ารหัสผ่านใหม่จะต้องผ่านตัวตรวจรหัสผ่านที่ถูกแบน เมื่อส่งรหัสผ่านใหม่ รหัสผ่านจะถูกเทียบ Fuzzy กับรายการคำที่ทุกคนไม่ควรใช้ตั้งรหัสผ่าน (และการสะกด l33t-sp3@k ก็ไม่ช่วยอะไร) ถ้ามีรายการที่ตรงกัน รหัสจะถูกปฏิเสธ และผู้ใช้จะได้รับการขอให้เลือกรหัสผ่านที่เดายากกว่าเดิม เราได้สร้างรายการรหัสผ่านที่ถูกโจมตีบ่อยครั้งมากที่สุด และอัปเดตอยู่บ่อยครั้ง

กำหนดรหัสผ่านที่ถูกแบนเอง

เมื่อต้องการทำให้รหัสผ่านที่ถูกแบนดีขึ้นไปอีก เราจะอนุญาตให้ผู้เช่ากำหนดรายการรหัสผ่านที่ถูกแบนเอง ผู้ดูแลระบบสามารถเลือกคำที่เป็นที่รู้จักในองค์กร พนักงานและผู้ก่อตั้งที่มีชื่อเสียง ผลิตภัณฑ์ สถานที่ ไอคอนประจำภูมิภาค อื่นๆ และป้องกันไม่ให้ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นรหัสผ่าน รายการนี้จะถูกบังคับเพิ่มลงในรายการส่วนกลาง คุณจึงไม่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ขณะนี้เป็นตัวอย่างแบบจำกัดและเราจะกำลังทยอยนำออกใช้ในปีนี้

รหัสผ่านที่ถูกแบนสำหรับการเปลี่ยนแปลงในองค์กร

ในฤดูใบไม้ผลินี้ เราจะเปิดใช้เครื่องมือที่จะทำให้ผู้ดูแลระบบขององค์กรแบนรหัสผ่านในสภาพแวดล้อม Azure AD-Active Directory แบบไฮบริด รายการรหัสผ่านที่ถูกแบนจะมีการซิงโครไนซ์จากระบบคลาวด์ไปยังสภาพแวดล้อมในองค์กรของคุณ และถูกบังคับใช้บนตัวควบคุมโดเมนทุกตัวที่มีตัวแทน ซึ่งจะช่วยให้ผู้ดูแลระบบมั่นใจว่ารหัสผ่านของผู้ใช้นั้นเดาได้ยากกว่าเดิมไม่ว่าผู้ใช้จะเปลี่ยนรหัสบนระบบคลาวด์หรือในบริษัทก็ตาม โดยจะเปิดใช้เป็นตัวอย่างส่วนตัวแบบจำกัดในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 และจะไปที่ GA ในปีนี้

เปลี่ยนวิธีคิดของคุณที่มีต่อรหัสผ่านเสีย

ความคิดทั่วไปหลายๆ ประการเกี่ยวกับสิ่งที่สร้างรหัสที่ดีนั้นมักจะผิด โดยปกติแล้ว สิ่งที่ควรจะช่วยได้ในเชิงคณิตศาสตร์กลับส่งผลให้เกิดพฤติกรรมของผู้ใช้ที่คาดเดาได้: ตัวอย่างเช่น ความจำเป็นที่ต้องใช้อักขระบางชนิดและการเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นครั้งคราวจะก่อให้เกิดรูปแบบรหัสผ่านเฉพาะตัวขึ้นมา อ่านเอกสารทางเทคนิคเกี่ยวกับการแนะนำด้านรหัสลับของเราสำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ถ้าคุณกำลังใช้ Active Directory ที่มี PTA หรือ ADFS ให้อัปเดตนโยบายรหัสผ่านของคุณ ถ้าคุณกำลังใช้บัญชีที่จัดการด้วยระบบคลาวด์ ให้พิจารณาตั้งค่ารหัสผ่านของคุณให้ไม่มีวันหมดอายุ

สิ่งที่เราแนะนำให้คุณดำเนินการโดยเร็วที่สุด:

1. เมื่อมีการปล่อยให้ใช้งาน ให้ติดตั้งเครื่องมือรหัสผ่านที่ถูกแบนในองค์กรของ Microsoft ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ของคุณสร้างรหัสผ่านที่ดีกว่า
2. ตรวจทานนโยบายรหัสผ่านของคุณและพิจารณาตั้งค่ารหัสผ่านของคุณให้ไม่มีวันหมดอายุ ผู้ใช้ของคุณจึงไม่ต้องใช้รูปแบบตามโอกาสเพื่อสร้างรหัสผ่าน

ขั้นตอนที่ 4: ฟีเจอร์เจ๋งๆ เพิ่มเติมใน ADFS และ Active Directory

ถ้าคุณกำลังใช้การรับรองความถูกต้องแบบไฮบริดที่มี ADFS และ Active Directory จะมีขั้นตอนเพิ่มเติมที่คุณสามารถทำตามเพื่อรักษาสภาพแวดล้อมของคุณให้ปลอดภัยจากการโจมตีแบบ Password Spray

ขั้นตอนแรก: สำหรับองค์กรที่เรียกใช้ ADFS 2.0 หรือ Windows Server 2012 ให้วางแผนย้าย ADFS ใน Windows Server 2016 โดยเร็วที่สุด เวอร์ชันล่าสุดจะได้รับการอัปเดตเร็วกว่า โดยมีชุดความสามารถที่สมบูรณ์กว่า เช่น การล็อกเอกซ์ทราเน็ต โปรดจำไว้ว่า: เราได้ทำให้การอัปเกรดจาก Windows Server 2012R2 เป็น 2016 นั้นง่ายมากๆ

บล็อกการรับรองความถูกต้องแบบดั้งเดิมจากเอกซ์ทราเน็ต

โพรโทคอลของการรับรองความถูกต้องแบบดั้งเดิมไม่มีความสามารถในการบังคับใช้ MFA ดังนั้น แนวทางที่ดีที่สุดก็คือการบล็อกโพรโทคอลจากเอกซ์ทราเน็ต ซึ่งจะป้องกันผู้โจมตีแบบ Password Spray ไม่ให้ใช้ประโยชน์จากการที่โพรโทคอลไม่มี MFA

เปิดใช้งานการล็อกเอกซ์ทราเน็ตในพร็อกซีเว็บแอปพลิเคชัน ADFS

ถ้าคุณไม่มีการล็อกเอกซ์ทราเน็ตที่พร็อกซีเว็บแอปพลิเคชัน ADFS คุณควรจะเปิดใช้งานโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันผู้ใช้ของคุณจากความเสี่ยงแบบ Brute-Force ต่อรหัสผ่านที่เป็นไปได้

ปรับใช้ Azure AD Connect Health สำหรับ ADFS

Azure AD Connect Health จะเก็บที่อยู่ IP ที่บันทึกไว้ในการบันทึก ADFS สำหรับคำขอชื่อผู้ใช้/รหัสผ่านที่ไม่ดี มอบการรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาร์เรย์ของสถานการณ์ และให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนวิศวกรเมื่อเปิดกรณีบริการช่วยเหลือ

เมื่อต้องการปรับใช้ ให้ดาวน์โหลด Azure AD Connect Health Agent สำหรับ ADFS เวอร์ชันล่าสุดบนทุกเซิร์ฟเวอร์ ADFS (2.6.491.0) เซิร์ฟเวอร์ ADFS จะต้องใช้งาน Windows Server 2012 R2 ที่มี KB 3134222 ติดตั้งหรือ Windows Server 2016

ใช้วิธีการเข้าถึงแบบไม่มีรหัสผ่าน

ถ้าไม่มีรหัสผ่าน ก็เดารหัสผ่านไม่ได้ วิธีรับรองความถูกต้องแบบไม่ใช้รหัสผ่านเหล่านี้มีให้ใช้งานสำหรับ ADFS และพร็อกซีเว็บแอปพลิเคชัน:

1. การรับรองความถูกต้องตามใบรับรองจะอนุญาตให้บล็อกตำแหน่งข้อมูลที่เป็นชื่อผู้ใช้/รหัสผ่านโดยสมบูรณ์ที่ไฟร์วอลล์ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองความถูกต้องตามใบรับรองใน ADFS
2. ตามที่ได้ระบุไว้ข้างต้น MFA ของ Azure สามารถใช้เป็นปัจจัยที่สองในการรับรองความถูกต้องบนระบบคลาวด์และ ADFS 2012 R2 และ 2016 แต่ก็ยังสามารถใช้เป็นปัจจัยหลักใน ADFS 2016 เพื่อที่จะหยุดยั้งความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีแบบ Password Spray โดยสมบูรณ์ เรียนรู้วิธี กำหนดค่า MFA ของ Azure ด้วย ADFS ที่นี่
3. Windows Hello สำหรับธุรกิจ ซึ่งมีให้ใช้ใน Windows 10 และได้รับการสนับสนุนโดย ADFS ใน Windows Server 2016 ได้เปิดใช้งานการเข้าถึงโดยไม่ใช้รหัสผ่านโดยสมบูรณ์ ซึ่งรวมทั้งจากเอกซ์ทราเน็ต โดยอิงจากคีย์การเข้ารหัสลับที่คาดเดายากที่ผูกอยู่กับทั้งผู้ใช้และอุปกรณ์ ซึ่งจะมีให้ใช้งานสำหรับอุปกรณ์ที่มีการจัดการแบบองค์กรที่เข้าร่วมกับ Azure AD หรือ Azure AD แบบไฮบริด และอุปกรณ์ส่วนตัวผ่าน “เพิ่มบัญชีที่ทำงานหรือโรงเรียน” จากแอป การตั้งค่า รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows Hello สำหรับธุรกิจ

สิ่งที่เราแนะนำให้คุณดำเนินการโดยเร็วที่สุด:

1. อัปเกรดเป็น ADFS 2016 เพื่อการอัปเดตที่เร็วขึ้น
2. บล็อกการรับรองความถูกต้องแบบดั้งเดิมจากเอกซ์ทราเน็ต
3. ปรับใช้ตัวแทน Azure Active Directory Connect Health สำหรับ ADFS บนทุกเซิร์ฟเวอร์ ADFS ของคุณ
4. พิจารณาใช้วิธีรับรองความถูกต้องหลักที่ไม่ใช้รหัสผ่านเช่น MFA ของ Azure, ใบรับรอง หรือ Windows Hello สำหรับธุรกิจ

แถมท้าย: การปกป้องบัญชี Microsoft ของคุณ

ถ้าคุณเป็นผู้ใช้บัญชี Microsoft:

• ข่าวดีคือ คุณได้รับการปกป้องอยู่แล้ว! บัญชี Microsoft ยังมีการล็อกแบบสมาร์ท การตรวจสอบสองชั้นตามความเสี่ยง รหัสผ่านที่ถูกแบน และอื่นๆ
• แต่ ให้ใช้เวลาสองนาทีไปที่เพจการรักษาความปลอดภัยของบัญชี Microsoft แล้วเลือก “อัปเดตข้อมูลความปลอดภัยของคุณ” เพื่อตรวจทานข้อมูลความปลอดภัยที่ใช้สำหรับการตรวจสอบสองชั้นตามความเสี่ยง
• พิจารณาเปิดการตรวจสอบสองชั้นที่นี่อยู่เสมอ เพื่อทำให้บัญชีของคุณปลอดภัยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

การป้องกันที่ดีที่สุดคือ… การทำตามคำแนะนำในบล็อกนี้

การโจมตีแบบ Password Spray เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อทุกบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้รหัสผ่าน แต่การทำตามขั้นตอนในบล็อกนี้จะทำให้คุณได้รับการปกป้องจากแนวทางการโจมตีในระดับสูงสุด และ เนื่องจากการโจมตีหลายประเภทนั้นมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน คำแนะนำเหล่านี้จะเป็นคำแนะนำด้านการป้องกันที่ดี การรักษาความปลอดภัยของคุณมีความสำคัญกับเราในระดับสูงสุดเสมอ และเราจะยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อพัฒนาการป้องกันขั้นสูงใหม่ๆ ที่จะป้องกันการโจมตีแบบ Password Spray และการโจมตีชนิดอื่นๆ ใช้วิธีข้างต้นในวันนี้ และกลับมาตรวจดูเครื่องมือใหม่ๆ อยู่เสมอเพื่อป้องกันเหล่าผู้ไม่หวังดีบนอินเทอร์เน็ต

เราหวังว่าคุณจะได้รับประโยชน์จากข้อมูลนี้ เช่นเคย เรายินดีรับฟังคำติชมหรือคำแนะนำจากคุณ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post แนวทางปฏิบัติของ Azure AD และ ADFS: การป้องกันการโจมตีแบบ Password Spray appeared first on Microsoft 365 Blog.

การอัปเดตใน Microsoft 365 ที่กำลังเผยแพร่ในปัจจุบัน ช่วยปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน รวมถึง:

• ความพร้อมใช้งานโดยทั่วไปของตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับสำหรับลูกค้า Azure, Dynamics 365 และ Office 365 Business และ Enterprise ในระบบคลาวด์สาธารณะ
• ความพร้อมใช้งานของคะแนนการปฏิบัติตามข้อบังคับสำหรับ Office 365
• ความพร้อมใช้งานโดยทั่วไปของเครื่องสแกน Azure Information Protection

นอกเหนือจากการอัปเดตที่ประกาศในวันนี้ ความสามารถใน Microsoft 365 จะช่วย:

• ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในแอปและบริการระบบคลาวด์ต่างๆ
• สนับสนุนการป้องกันข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม
• ให้ประสบการณ์ Schema การติดป้ายที่สอดคล้องกัน (ในการแสดงตัวอย่าง)

นอกจากนี้เราจะขยายชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเพื่อรวมเทมเพลต GDPR เพื่อรวบรวมชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนลงในเทมเพลตเดียว

การอัปเดตและความสามารถเหล่านี้ของ Microsoft 365 ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้คุณมีกลยุทธ์ในการป้องกันข้อมูลเพื่อช่วยในการปฏิบัติตามข้อบังคับ GDPR

“GDPR กำลังมา แต่ด้วยโซลูชันการป้องกันข้อมูลของ Microsoft เราจะมีวิธีที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับ”
—Erlend Skuterud, ผู้บริหารระดับสูงด้านความปลอดภัยของข้อมูลของ Yara

ประเมินและจัดการความเสี่ยงในการปฏิบัติตามข้อบังคับด้วยตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับ

เนื่องจากการปฏิบัติตามข้อบังคับขององค์กรอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก เราจึงขอแนะนำให้องค์กรต่างๆ ประเมินความเสี่ยงเป็นระยะๆ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับท่าทีในการปฏิบัติตามข้อบังคับ ตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับเป็นการผสมผสาน โซลูชันบริการ Microsoft Cloud ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้องค์กรทำหน้าที่ในการปฏิบัติตามข้อบังคับ GDPR ที่ซับซ้อนได้สำเร็จ ขณะนี้ตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับพร้อมใช้งานโดยทั่วไปสำหรับลูกค้า Azure, Dynamics 365 และ Office 365 Business และ Enterprise ในระบบคลาวด์สาธารณะ

“ตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับช่วยเพิ่มมูลค่าเพิ่มเติมให้กับบริการ Microsoft Cloud ด้วยการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างข้อบังคับ กระบวนการ และเทคโนโลยี” กล่าวโดย Nick Postma ผู้จัดการฝ่าย IT ของ Abrona ซึ่งเป็นองค์กรด้านการดูแลสุขภาพของเนเธอร์แลนด์ที่ช่วยไคลเอ็นต์ให้สำรวจเส้นทางไปสู่การเป็นสมาชิกที่แข็งแกร่งและมีความมั่นใจของสังคมผ่านความร่วมมือทางสังคม

ดำเนินการประเมินความเสี่ยงด้วยคะแนนการปฏิบัติตามข้อบังคับ

คะแนนการปฏิบัติตามข้อบังคับ ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับ จะช่วยให้คุณสามารถประเมินความเสี่ยงอย่างต่อเนื่องบนบริการ Microsoft Cloud ด้วยการอ้างอิงคะแนนตามความเสี่ยง ทำให้คุณสามารถมองเห็นประสิทธิภาพในการปฏิบัติตามข้อบังคับของคุณได้ ตัวควบคุมแต่ละอย่างจะมีการกำหนดน้ำหนักความเสี่ยงขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเนื่องจากความล้มเหลวของตัวควบคุม และเมื่อคุณใช้และประเมินตัวควบคุม คุณจะเห็นคะแนนของคุณเปลี่ยนแปลง ขณะนี้คะแนนการปฏิบัติตามข้อบังคับพร้อมใช้งานสำหรับ Office 365 และจะเผยแพร่ไปยังบริการ Microsoft Cloud อื่นๆ ในไม่ช้า

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถและการอัปเดตหลักสำหรับตัวจัดการการปฏิบัติตามข้อบังคับและคะแนนการปฏิบัติตามข้อบังคับที่บล็อก ชุมชนเทคโนโลยี ของเรา

ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนภายในองค์กร

เครื่องสแกน Azure Information Protection จัดการสถานการณ์แบบไฮบริดและในองค์กร โดยอนุญาตให้คุณกำหนดค่านโยบายเพื่อค้นหา จัดประเภท ติดป้าย และปกป้องเอกสารในที่เก็บภายในองค์กรของคุณ เช่น เซิร์ฟเวอร์ไฟล์ และเซิร์ฟเวอร์ SharePoint ภายในองค์กรโดยอัตโนมัติ เครื่องสแกนสามารถกำหนดค่าให้สแกนที่เก็บภายในองค์กรเป็นระยะๆ ตามนโยบายบริษัท ขณะนี้เครื่องสแกน Azure Information Protection พร้อมใช้งานโดยทั่วไป

อ่าน “เครื่องสแกน Azure Information Protection” เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม เมื่อต้องการปรับใช้เครื่องสแกนในสภาพแวดล้อมของคุณเอง ให้ทำตามคำแนะนำใน คู่มือทางเทคนิค

ปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในแอปและบริการระบบคลาวด์ต่างๆ

เนื่องจากข้อมูลเดินทางผ่านหลายที่ ทั้งในอุปกรณ์ แอป บริการระบบคลาวด์ และในองค์กร จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องสร้างการป้องกันไว้ในไฟล์ เพื่อให้การป้องกันนี้อยู่กับข้อมูลตลอด Azure Information Protection ให้การปกป้องข้อมูลแบบต่อเนื่อง โดยการจัดประเภท ติดป้าย และปกป้องไฟล์และอีเมลที่ละเอียดอ่อน

Microsoft Cloud App Security (MCAS) สามารถอ่านไฟล์ที่ติดป้ายชื่อโดย Azure Information Protection และตั้งค่านโยบายตามป้ายชื่อไฟล์ ตัวอย่างเช่น ด้วยนโยบาย “ห้ามส่งต่อหรือคัดลอก” ไฟล์ที่ติดป้ายชื่อเป็น ความลับ จะไม่สามารถออกจากเครือข่ายของคุณผ่านแอปการแชร์ไฟล์ เช่น Box.net หรือ Dropbox นอกจากนี้ บริการจะสแกนและจัดประเภทไฟล์ที่ละเอียดอ่อนในแอประบบคลาวด์ และใช้ป้ายชื่อ AIP สำหรับการป้องกันโดยอัตโนมัติ รวมถึงการเข้ารหัสลับ เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ ให้อ่าน “ใช้ป้ายชื่อกับไฟล์ที่ละเอียดอ่อนในระบบคลาวด์โดยอัตโนมัติ” และ เอกสารประกอบทางเทคนิค ที่เกี่ยวข้อง

สนับสนุนการป้องกันข้อมูลข้ามแพลตฟอร์ม

ในฐานะส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์การป้องกันข้อมูล เป้าหมายของเราคือ การครอบคลุมแพลตฟอร์มอุปกรณ์หลักๆ ทั้งหมด จากความพยายามของเราในการสนับสนุนแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่ของ Windows ขณะนี้เรากำลังแสดงตัวอย่างความสามารถในการติดป้ายและปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อนแบบดั้งเดิม โดยไม่ต้องใช้ปลั๊กอินใดๆ ในแอปพลิเคชัน Office ที่ทำงานบนอุปกรณ์ Mac ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Mac สามารถจัดประเภท ติดป้าย และปกป้องเอกสาร Word, PowerPoint และ Excel ได้อย่างง่ายดายในลักษณะเดียวกันที่คุณคุ้นเคยกับไคลเอ็นต์ Azure Information Protection บน Windows เมื่อพิจารณาว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจำนวนมากอยู่ในรูปแบบ PDF ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของเรา เราอยู่ในระหว่างการทำงานร่วมกับ Adobe เพื่อให้มีการติดป้ายและการป้องกัน PDF ที่สอดคล้องแบบเดียวกันพร้อมใช้งานใน Adobe Reader

เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับความสามารถในการป้องกันข้อมูลใหม่ๆ เหล่านี้ ให้ไปที่บล็อก Enterprise Mobility + Security

ประสบการณ์ Schema การติดป้ายที่สอดคล้องกันขณะนี้อยู่ในการแสดงตัวอย่าง

เรากำลังแสดงตัวอย่าง Schema การติดป้ายที่สอดคล้องกันซึ่งจะใช้ในโซลูชันการป้องกันข้อมูลใน Microsoft 365 เมื่อต้องการเริ่มต้น หมายความว่าป้ายชื่อเริ่มต้นเดียวกันจะถูกใช้ทั้งใน Office 365 และ Azure Information Protection ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการสร้างป้ายชื่อในสองตำแหน่ง

รูปแบบการติดป้ายที่สอดคล้องกันยังช่วยให้แน่ใจว่า ป้ายชื่อที่ละเอียดอ่อน ซึ่งไม่ว่าจะสร้างขึ้นจากที่ไหนก็ตาม จะเป็นที่รู้จักและเข้าใจใน Microsoft 365 รวมถึง Azure Information Protection, การกำกับดูแลข้อมูลขั้นสูงของ Office 365, การป้องกันการสูญหายของข้อมูลของ Office 365 และ Microsoft Cloud App Security เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การแสดงตัวอย่างของประสบการณ์การติดป้ายที่สอดคล้องกัน

“ความสามารถในการป้องกันข้อมูลของ Microsoft จะช่วยคุณปกป้องและจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปตลอดวงจรชีวิต ทั้งภายในและภายนอกองค์กร” กล่าวโดยนักวิเคราะห์จาก KuppingerCole ที่เป็นองค์กรนักวิเคราะห์นานาชาติและอิสระซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในยุโรป

ตรวจหาและจัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ GDPR

ความสามารถในการจัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลโดยอัตโนมัติคือ ส่วนสำคัญในการช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมาย GDPR วันนี้ เรามีชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนกว่า 80 ชนิดซึ่งสามารถใช้เพื่อตรวจหาและจัดประเภทข้อมูลของคุณ  เร็วๆ นี้เราจะมีเทมพลตชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของ GDPR เพื่อช่วยในการตรวจหาและจัดประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับ GDPR เทมเพลตชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของ GDPR ที่กำลังจะมาถึงจะช่วยรวบรวมข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเราลงในเทมเพลตเดียว รวมทั้งเพิ่มชนิดข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ๆ เพื่อตรวจหา (เช่น ที่อยู่, หมายเลขโทรศัพท์ และข้อมูลทางการแพทย์)

เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ให้อ่าน “ชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะค้นหาอะไร” เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการสร้างและกำหนดชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณเอง ให้อ่าน “สร้างชนิดข้อมูลที่ละเอียดอ่อนแบบกำหนดเอง”

สำหรับอีเมลที่ละเอียดอ่อน Microsoft 365 ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานร่วมกันบนข้อความที่ได้รับการป้องกันกับทุกคนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ผ่านทางการเข้ารหัสลับข้อความของ Office 365 เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการควบคุมและปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลที่แชร์ในอีเมลที่ละเอียดอ่อน เรากำลังจะเผยแพร่นโยบายเฉพาะการเข้ารหัสลับใหม่ในการเข้ารหัสลับข้อความของ Office 365 ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ และการอัปเดตอื่นๆ ในบล็อก ชุมชนเทคโนโลยี ของเรา

เริ่มต้นสำรวจเส้นทางสู่ GDPR ด้วย Microsoft 365

Microsoft Cloud อยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใครเพื่อช่วยให้คุณปฏิบัติตามภาระหน้าที่ในการปฏิบัติตามข้อบังคับของ GDPR โซลูชันระบบคลาวด์ของเราสร้างขึ้นมาเพื่อประสิทธิภาพ ขนาดรองรับ และความยืดหยุ่น Microsoft 365 นำเอา Office 365, Windows 10 และ Enterprise Mobility + Security มาใช้ร่วมกันเพื่อเสนอโซลูชันแบบครบวงจรที่ช่วยให้คุณประเมินและจัดการความเสี่ยงในการปฏิบัติตามข้อบังคับ โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อปกป้องข้อมูลที่สำคัญที่สุดของคุณ และปรับปรุงกระบวนการของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยชุดโซลูชันแบบองค์รวมและซับซ้อน

ไม่ว่าคุณจะพยายามปฏิบัติตามข้อบังคับ GDPR ในส่วนใด Microsoft Cloud และโซลูชันการปฏิบัติตามข้อบังคับอันชาญฉลาดของเราใน Microsoft 365 สามารถช่วยคุณบนเส้นทางของการปฏิบัติตาม GDPR เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ Microsoft สามารถช่วยคุณเตรียมพร้อมสำหรับ GDPR และทำ การประเมิน GDPR แบบออนไลน์ของเราฟรี เริ่มต้นด้วยการวางแผนการป้องกันข้อมูลขององค์กร โดยการดาวน์โหลด เอกสารทางการฟรี และ eBook ของเรา

—Alym Rayani, ผู้อำนวยการของทีม Microsoft 365

The post Microsoft 365 มีกลยุทธ์ในการป้องกันข้อมูลเพื่อช่วยในการทำตาม GDPR appeared first on Microsoft 365 Blog.

ผมหวังว่าคุณจะสนใจโพสต์ในวันนี้เหมือนกับผม ข้อมูลในวันนี้เป็นข้อมูลที่เข้าใจได้ง่ายและเป็นเค้าโครงวิสัยทัศน์ที่น่าตื่นเต้นสำหรับอนาคตของข้อมูลประจำตัวดิจิทัล

ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราได้ลงทุนกับการระดมความคิดสำหรับการใช้บล็อกเชน (และเทคโนโลยีรายการเดินบัญชีแบบกระจายศูนย์อื่นๆ) เพื่อสร้างข้อมูลประจำตัวดิจิทัลชนิดใหม่ ข้อมูลประจำตัวที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดเพื่อปรับปรุงความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย และการควบคุม เราตื่นเต้นจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้และจากคู่ค้าใหม่ที่เราร่วมมือด้วยระหว่างกระบวนการ วันนี้ เราจะใช้โอกาสนี้แชร์แนวคิดและแนวทางของเรากับคุณ บล็อกนี้เป็นส่วนหนึ่งของซีรี่ส์และอยู่ต่อจากโพสต์บล็อกที่ประกาศว่า Microsoft เข้าร่วมกับกลุ่ม ID2020 แล้วของ Peggy Johnson ถ้าคุณยังไม่ได้อ่านโพสต์ของ Peggy Johnson ผมขอแนะนำให้คุณอ่านก่อน

ผมได้สอบถาม Ankur Patel ซึ่งเป็น PM ของทีมที่นำการระดมความคิดเพื่อเริ่มการพูดคุยเกี่ยวกับข้อมูลประจำตัวดิจิทัลแบบกระจายศูนย์ โพสต์ของเขามุ่งเน้นไปที่การแชร์ข้อมูลสำคัญบางส่วนที่เราได้เรียนรู้และหลักการบางส่วนที่เราใช้เพื่อผลักดันการลงทุนด้านนี้ให้ก้าวไปข้างหน้า

และเช่นเคย เรายินดีรับฟังความคิดและคำติชมจากคุณ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

———-

สวัสดี ทุกท่าน ผมชื่อ Ankur Patel จากแผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสแชร์สิ่งที่เราได้เรียนรู้และแนวทางในอนาคตตามการทำงานของเราเพื่อสร้างข้อมูลประจำตัวที่ใช้บล็อกเชน/รายการเดินบัญชีแบบกระจายศูนย์

สิ่งที่เราเห็น

จากประสบการณ์มากมายที่คุณพบทุกวัน จะทำให้ทราบได้ว่าโลกกำลังอยู่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล ซึ่งความเป็นจริงทางดิจิทัลและทางกายภาพกำลังซ้อนทับกันเป็นวิธีการดำเนินชีวิตที่ทันสมัยที่ผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว โลกใหม่นี้ต้องการโมเดลแบบใหม่ของข้อมูลประจำตัวดิจิทัล และต้องเป็นโมเดลที่ปรับปรุงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของแต่ละบุคคลทั้งในโลกจริงและโลกดิจิทัล

ระบบข้อมูลประจำตัวบนระบบคลาวด์ของ Microsoft ได้สนับสนุนนักพัฒนาหลายพันคน องค์กร และผู้คนหลายพันล้านคนในการทำงาน เล่น และประสบความสำเร็จมากขึ้นแล้ว และเรายังมีวิธีการต่างๆ อีกมากมายเพื่อสนับสนุนทุกคน เราอยากเห็นโลกที่ผู้คนหลายพันล้านคนดำเนินชีวิตที่ไม่มี ID ที่เชื่อถือได้สามารถทำให้ความฝันที่เราทุกคนมีร่วมกันเป็นจริงจนได้ อย่างเช่น การให้การศึกษาแก่ลูกหลาน การยกระดับคุณภาพชีวิต หรือการเริ่มต้นธุรกิจ

เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์นี้ เราเชื่อว่าทุกคนต้องเป็นเจ้าของและผู้ควบคุมองค์ประกอบทั้งหมดของข้อมูลประจำตัวดิจิทัล แทนที่จะมอบความยินยอมให้กับแอปและบริการจำนวนนับไม่ถ้วน และเผยแพร่ข้อมูลประจำตัวให้ผู้ให้บริการจำนวนมาก ทุกคนต้องมีฮับดิจิทัลที่เข้ารหัสลับ ซึ่งพวกเขาสามารถจัดเก็บข้อมูลประจำตัวและควบคุมการเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย

เราทุกคนต้องมีข้อมูลประจำตัวดิจิทัลที่เป็นของเราอย่างแท้จริง ข้อมูลประจำตัวที่จัดเก็บองค์ประกอบทั้งหมดไว้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว  ข้อมูลประจำตัวที่เป็นของเราเองต้องใช้งานได้ง่ายและเราต้องเป็นผู้ควบคุมวิธีการเข้าถึงและการใช้งานข้อมูลประจำตัวของเราได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เราทราบว่าการสร้างข้อมูลประจำตัวดิจิทัลที่เจ้าของเป็นผู้ควบคุมอย่างสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องที่ใหญ่กว่าบริษัทหรือองค์กรใดเพียงแห่งเดียว เรามุ่งมั่นทำงานกับลูกค้า คู่ค้า และชุมชนอย่างใกล้ชิดเพื่อปลดล็อกประสบการณ์การใช้งานข้อมูลประจำตัวดิจิทัลแบบใหม่ และเราตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับผู้คนมากมายในอุตสาหกรรมที่ทำประโยชน์ให้พื้นที่มากอย่างไม่น่าเชื่อ

สิ่งที่เราได้เรียนรู้

ในวันนี้ เราจะแชร์ความคิดที่ดีที่สุดจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการสร้างข้อมูลประจำตัวแบบกระจายศูนย์ ซึ่งเป็นการทำงานที่มุ่งสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น มุ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ และมุ่งลดข้อขัดแย้ง พร้อมกับสนับสนุนให้ทุกคนเป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลประจำตัวดิจิทัลของตนเอง

1. เป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลประจำตัวของคุณ วันนี้ ผู้ใช้ต้องมอบการยินยอมโดยทั่วไปให้แอปและบริการจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อการรวบรวม ใช้งาน และจัดเก็บข้อมูล ซึ่งพวกเขาไม่สามารถควบคุมได้ และเนื่องจากการล่วงละเมิดข้อมูลและการโจรกรรมข้อมูลประจำตัวมีวิธีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้นและพบได้บ่อยขึ้น ผู้ใช้จึงต้องมีวิธีทวงคืนความเป็นเจ้าของข้อมูลประจำตัว หลังจากการตรวจสอบระบบจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ โพรโทคอลฉันทามติ บล็อกเชน และมาตรฐานเกิดใหม่ต่างๆ เราเชื่อว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนและโพรโทคอลเหมาะกับการเปิดใช้งาน ID แบบกระจายศูนย์ (DID) อย่างมาก
2. ความเป็นส่วนตัวโดยเจตนา สร้างขึ้นในตัวตั้งแต่ต้น
   ทุกวันนี้ แอป บริการ และองค์กรมอบประสบการณ์ที่สะดวกสบาย เชื่อถือได้ และสร้างขึ้นโดยเฉพาะที่ต้องใช้การควบคุมข้อมูลประจำตัว เราต้องการฮับดิจิทัลที่เข้ารหัสลับ (ฮับ ID) อย่างปลอดภัยที่สามารถดำเนินการข้อมูลของผู้ใช้ พร้อมกับเคารพต่อความเป็นส่วนตัวและการควบคุมของผู้ใช้ได้
3. ความน่าเชื่อถือได้รับจากผู้คน สร้างขึ้นโดยชุมชน
   ระบบข้อมูลประจำตัวแบบดั้งเดิมมักจะปรับให้เหมาะกับการรับรองความถูกต้องและการจัดการสิทธิ์การเข้าถึง แต่ระบบข้อมูลประจำตัวที่แสดงความเป็นเจ้าของจะมุ่งเน้นไปที่การรับรองความถูกต้องและการสร้างความน่าเชื่อถือของชุมชนมากขึ้น ในระบบแบบกระจายศูนย์ ความน่าเชื่อถือจะเกิดขึ้นจากการรับรอง: การอ้างว่าเอนทิตีอื่นๆ สนับสนุน ซึ่งจะช่วยพิสูจน์ข้อมูลประจำตัวของบุคคลหนึ่งได้
4. แอปและบริการสร้างขึ้นโดยยึดผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง
   แอปและบริการบางส่วนที่มีผู้ใช้มากที่สุดในทุกวันนี้คือแอปและบริการที่มอบประสบการณ์แบบส่วนตัวให้กับผู้ใช้โดยการมอบการเข้าถึงข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวบุคคล (PII) ของผู้ใช้ DID และฮับ ID สามารถช่วยให้นักพัฒนาเข้าถึงชุดการรับรองได้แม่นยำยิ่งขึ้น พร้อมกับลดความเสี่ยงด้านกฎหมายและการปฏิบัติตามข้อบังคับโดยการดำเนินการข้อมูลดังกล่าว แทนที่จะควบคุมในนามของผู้ใช้
5. รากฐานแบบเปิดที่ทำงานร่วมกันได้
   เพื่อสร้างระบบนิเวศข้อมูลประจำตัวแบบกระจายศูนย์ที่แน่นหนาและทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ระบบดังกล่าวจะต้องสร้างตามเทคโนโลยีโอเพนซอร์ส โพรโทคอล และการใช้งานที่มีข้อมูลอ้างอิงที่มีมาตรฐาน ในปีที่แล้ว เราได้เข้าร่วมในองค์กร Decentralized Identity Foundation (DIF) รวมกับผู้คนและองค์กรที่กระตือรือร้นในการเผชิญกับปัญหานี้เหมือนกัน เราร่วมมือพัฒนาส่วนประกอบสำคัญต่อไปนี้:
   

• ตัวระบุแบบกระจายศูนย์ (DID) – ข้อมูลจำเพาะ W3C ที่กำหนดรูปแบบเอกสารทั่วไปสำหรับการอธิบายสถานะของตัวระบุแบบกระจายศูนย์
  
• ฮับข้อมูลประจำตัว – ที่เก็บข้อมูลประจำตัวที่เข้ารหัสลับ ซึ่งประกอบด้วยการถ่ายทอดข้อความ/จุดประสงค์ การจัดการการรับรอง และตำแหน่งข้อมูลการคำนวณข้อมูลประจำตัว 
  
• ตัวแก้ไข DID สำหรับทุกอุปกรณ์ – เซิร์ฟเวอร์ที่แก้ไข DID ทั่วทั้งบล็อกเชน 
  
• ข้อมูลประจำตัวที่ตรวจสอบได้ – ข้อมูลจำเพาะ W3C ที่กำหนดรูปแบบเอกสารสำหรับการเข้ารหัสลับการรับรองที่ใช้ DID   
  

6. พร้อมสำหรับขนาดระดับโลก:
   เพื่อสนับสนุนผู้ใช้ องค์กร และอุปกรณ์ที่มีอยู่ทั่วโลก เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องจึงต้องรองรับการปรับขนาดและประสิทธิภาพของระบบแบบดั้งเดิม บล็อกเชนสาธารณะบางอย่าง (Bitcoin [BTC], Ethereum, Litecoin เป็นต้น) มีรากฐานการใช้งาน DID การบันทึกการปฏิบัติการ DPKI และการรับรองการตั้งหลักที่มั่นคง แม้ว่าชุมชนบล็อกเชนบางแห่งจะมีความจุรายการเพิ่มขึ้น (เช่น การเพิ่มขนาดบล็อก) แต่วิธีนี้มักจะลดระดับสถานะแบบกระจายศูนย์ของเครือข่ายและไม่สามารถเข้าถึงรายการได้หลายล้านรายการต่อวินาทีที่ระบบจะสร้างขึ้นทั่วโลกได้ เพื่อแก้ไขขีดจำกัดทางเทคนิคนี้ เราจึงร่วมกันทำงานกับโพรโทคอล Layer 2 แบบกระจายศูนย์ที่ทำงานบนบล็อกเชนสาธารณะเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการใช้งานระดับโลก พร้อมกับรักษาคุณลักษณะของระบบ DID ระดับโลกอีกด้วย
   
7. ทุกคนสามารถเข้าถึงได้:
   ในวันนี้ ระบบนิเวศบล็อกเชนยังคงมีเพียงผู้ริเริ่มใช้งานในช่วงแรกที่ต้องการใช้เวลา การทำงาน และพลังงานในการจัดการสิ่งสำคัญและรักษาความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ ซึ่งเราคิดว่าไม่ใช่สิ่งที่ผู้คนส่วนใหญ่จะรับมือได้ เราต้องการทำให้การจัดการที่สำคัญต่างๆ เช่น การกู้คืน การหมุนเวียน และการเข้าถึงอย่างปลอดภัยสามารถดำเนินการได้ง่ายและไม่มีทางล้มเหลว
   

ขั้นตอนต่อไปของเรา

ระบบใหม่และความคิดที่ยิ่งใหญ่มักจะเข้าใจได้ง่ายบนไวท์บอร์ด เรื่องทุกเรื่องดูลงล็อก และสมมติฐานดูน่าเชื่อถือ แต่ทีมผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมจะได้เรียนรู้มากที่สุดจากการจัดส่ง

วันนี้ แอป Microsoft Authenticator มีผู้ใช้งานจำนวนหลายล้านคนที่ยืนยันข้อมูลประจำตัวทุกวัน ในขั้นตอนถัดไป เราจะทดลองกับข้อมูลประจำตัวแบบกระจายศูนย์โดยเพิ่มการสนับสนุนใน Microsoft Authenticator เมื่อได้รับความยินยอมแล้ว Microsoft Authenticator จะสามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนผู้ใช้ของคุณเพื่อจัดการข้อมูลประจำตัวและคีย์การเข้ารหัสลับได้ ในการออกแบบนี้ จะมีการรูท ID บนเชนเท่านั้น ข้อมูลประจำตัวที่จัดเก็บในฮับ ID นอกเชน (ที่ Microsoft ไม่สามารถเห็นได้) ที่เข้ารหัสลับโดยใช้คีย์การเข้ารหัสลับเหล่านี้

เมื่อเราเพิ่มความสามารถนี้แล้ว แอปและบริการจะสามารถโต้ตอบกับข้อมูลของผู้ใช้โดยใช้ช่องทางการรับส่งข้อความทั่วไปได้ด้วยการส่งคำขอความยินยอมแบบแบ่งระดับ ในช่วงแรก เราจะสนับสนุนการใช้งาน DID เพียงบางกลุ่มในบล็อกเชน และเราอาจจะเพิ่มกลุ่มอื่นๆ ในอนาคต

มองไปข้างหน้า

เรารู้สึกเจียมตัวและตื่นเต้นที่ได้เผชิญกับความท้าทายมากมายเช่นนี้ แต่ก็ทราบว่าเราทำเพียงลำพังไม่ได้ เราหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและข้อมูลจากกลุ่มคู่ค้าที่เป็นพันธมิตรกับเรา สมาชิกขององค์กร Decentralized Identity Foundation และระบบนิเวศนักออกแบบ ผู้กำหนดนโยบาย คู่ค้าทางธุรกิจ นักพัฒนาฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่หลากหลายของ Microsoft ที่สำคัญที่สุด เราจะต้องการพวกคุณ ผู้เป็นลูกค้าที่จะให้คำติชมเมื่อเราเริ่มต้นการทดสอบสถานการณ์การใช้งานชุดแรกนี้

โพสต์นี้เป็นโพสต์แรกเกี่ยวกับงานที่เราทำกับข้อมูลประจำตัวแบบกระจายศูนย์ ในโพสต์ต่อๆ ไป เราจะแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับข้อพิสูจน์แนวคิด และรายละเอียดทางเทคนิคในด้านสำคัญที่กล่าวถึงข้างต้น

เราหวังว่าคุณจะเข้าร่วมกับเราในการเดินทางครั้งนี้!

แหล่งข้อมูลสำคัญ:

• ติดตามเราที่ @AzureAD บน Twitter
  
• มีส่วนร่วมกับองค์กร Decentralized Identity Foundation (DIF)
  
• เข้าร่วมกับกลุ่มชุมชนข้อมูลประจำตัว W3C
  

ขอแสดงความนับถือ

Ankur Patel (@_AnkurPatel)

หัวหน้าผู้จัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post ข้อมูลประจำตัวดิจิทัลแบบกระจายศูนย์และบล็อกเชน: อนาคตที่เรามองเห็น appeared first on Microsoft 365 Blog.

การเข้าถึงแบบมีเงื่อนไข (CA) ของ Azure AD นั้นติดลมบนอย่างมาก องค์กรทั่วโลกต่างใช้เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเข้าถึงแอปพลิเคชันนั้นปลอดภัยและตรงตามมาตรฐาน ทุกๆ เดือนจะมีการใช้การเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขเพื่อปกป้ององค์กรกว่า10,000 แห่ง รวมถึงผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่กว่า 10 ล้านราย! ผมทึ่งมากที่เห็นลูกค้าของเราหันมาใช้งานกันเร็วขนาดนี้!

เราได้รับคำติชมมากมายเกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ผู้ใช้ได้รับจากการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไข หากจะเจาะจงลงไปอีก ด้วยประสิทธิภาพมากมายขนาดนี้ที่อยู่แค่ปลายนิ้ว คุณต้องมีวิธีที่จะดูว่านโยบาย CA จะส่งผลต่อผู้ใช้ภายใต้เงื่อนไขการลงชื่อเข้าใช้รูปแบบต่างๆ อย่างไร

เราได้ยินเสียงคุณแล้ว และวันนี้ผมยินดีที่จะประกาศตัวอย่างสำหรับสาธารณะของเครื่องมือ “What If” สำหรับการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไข เครื่องมือ What If จะช่วยให้คุณเข้าใจผลกระทบของนโยบายต่อการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้ตามเงื่อนไขที่คุณได้กำหนด แทนที่จะรอฟังจากผู้ใช้ของคุณว่าเกิดอะไรขึ้น คุณสามารถใช้เครื่องมือ What If ได้เลยอย่างง่ายดาย

เริ่มต้นใช้งาน

พร้อมที่จะลองเล่นกับเครื่องมือใหม่หรือยัง เพียงทำขั้นตอนต่อไปนี้ง่ายๆ:

• ไปที่การเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขของ Azure AD
• คลิกที่ What If

• เลือกผู้ใช้ที่คุณต้องการทดสอบ

• [เพิ่มเติม] เลือกแอป, ที่อยู่ IP, แพลตฟอร์มของอุปกรณ์, แอปไคลเอ็นต์, ความเสี่ยงในการลงชื่อเช้าใช้ตามต้องการ
• คลิก “What If” และดูนโยบายที่จะส่งผลต่อการลงชื่อเข้าใช้ของผู้ใช้

บางครั้งคำถามที่คุณกำลังพยายามจะตอบอาจไม่ใช่ “มีการใช้นโยบายใดบ้าง” แต่เป็น “เหตุใดถึงไม่มีการใช้นโยบายนี้” เครื่องมือก็สามารถช่วยคุณในเรื่องนี้ได้เช่นกัน! สลับมาแท็บ “นโยบายที่จะไม่ได้นำไปใช้” แล้วคุณจะเห็นชื่อนโยบาย และที่สำคัญกว่านั้นก็คือ เหตุผลที่ไม่ได้นำนโยบายไปใช้ เจ๋งใช่ไหมล่ะ

ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่องมือ What If ใช่หรือไม่

บอกเราว่าคุณคิดอย่างไร

นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เราพร้อมทำงานเพื่อมอบนวัตกรรมในด้านนี้ให้มากขึ้น เหมือนทุกครั้ง เราต้องการได้ยินคำติชมหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับตัวอย่างนี้ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวกับการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขของ Azure AD เรายังได้จัดทำแบบสำรวจสั้นๆ เกี่ยวกับเครื่องมือ What If เพื่อให้คุณเข้ามามีส่วนร่วม

เรารอฟังคุณอยู่!

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post ตัวอย่างสำหรับสาธารณะ: เครื่องมือ “What If” สำหรับนโยบายการเข้าถึงแบบมีเงื่อนไขของ Azure AD appeared first on Microsoft 365 Blog.

ขณะนี้คุณสามารถรวมเนื้อหาจากแอป เช่น หัวข้อข่าว ได้โดยตรงในการสนทนา

ใช้แอปโปรดของคุณด้วยวิธีใหม่ใน Teams

Teams นำทุกสิ่งที่ทีมต้องการมารวมกันในที่เดียว คุณสามารถรวมแอปและบริการที่คุณต้องการ รวมถึงแอป Office 365 เช่น Excel และแอปจากคู่ค้าของเรา รวมถึง Trello, InVision และ SurveyMonkey

วันนี้ เราขอแนะนำวิธีใหม่ๆ ที่คุณสามารถใช้แอปใน Teams ดังนี้:

รวมข้อมูลจากแอปในการสนทนา—ขณะนี้คุณสามารถสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหาจากแอป โดยไม่จำเป็นต้องมีสกรีนช็อตหรือไฮเปอร์ลิงก์ไปยังข้อมูล ในแบบเดียวกับที่คุณสามารถเพิ่มอีโมจิหรือ GIF ขณะนี้คุณสามารถนำข้อมูลจากแอปไปไว้ในการสนทนาหรือข้อความช่องทางได้ด้วยการคลิกเพียงครั้งเดียว ตัวอย่างเช่น คุณสามารถค้นหางานเฉพาะใน Trello รายการงานใน Wrike หรือการพยากรณ์อากาศ และใส่บัตรเชิงโต้ตอบที่มีข้อมูลดังกล่าวลงในข้อความ

รวมข้อมูลจากแอป เช่น Wrike ในการสนทนาของคุณ

เข้าถึงมุมมองส่วนบุคคลของแอปของคุณ—พื้นที่แอปส่วนบุคคลใหม่ช่วยให้คุณเข้าถึงแอปที่คุณสนใจ และดูรายการทั้งหมดที่คุณได้รับมอบหมายในแอปต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น งานใน Planner ปัญหาใน Jira Cloud หรือตัวกรอง หรือคำขอดึงข้อมูลของคุณใน Bitbucket Cloud คุณยังสามารถดูรายการที่คุณเพิ่งเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย เช่น สมุดบันทึก OneNote หรือวิดีโอจาก Microsoft Stream

นอกจากนี้คุณจะได้พบกับ Who—แอปใหม่ที่ให้บริการโดย Microsoft Graph ซึ่งช่วยให้คุณสามารถค้นหาบุคคลในองค์กรของคุณได้ตามชื่อหรือหัวข้อ เมื่อต้องการเข้าถึงพื้นที่แอปส่วนบุคคลของคุณ ให้คลิก … ในเมนูนำทางด้านซ้าย

เข้าถึงพื้นที่แอปส่วนบุคคลของคุณใน Teams

เพิ่ม Microsoft Stream ไปยังพื้นที่แอปส่วนบุคคลของคุณเพื่อดูวิดีโอที่อัปโหลดโดยเพื่อนร่วมงานของคุณ

ค้นพบแอปสำหรับ Teams ใน Store ใหม่—เราทำให้การค้นหาและการค้นพบแอปและบริการต่างๆ ใน Teams ง่ายดายขึ้นใน Store ใหม่ ขณะนี้คุณสามารถค้นหาแอปตามชื่อ ประเภท (เช่น การจัดการโครงการ หรือการวิเคราะห์และ BI) หรือชนิดการรวม (เช่น บอท แท็บ หรือตัวเชื่อมต่อ) แล้วเลือกให้ปรากฏในมุมมองของแอปส่วนบุคคลของคุณ หรือในช่องทางเฉพาะใน Teams

ค้นพบแอปและการรวมใน Store ใหม่

สั่งแอป ดำเนินการอย่างรวดเร็ว และค้นหา ทุกอย่างนี้อยู่ในกล่องคำสั่ง

การค้นหาคือวิธีหนึ่งที่สำคัญที่ผู้คนนำทาง Teams เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ต้องการ เรารวมคำสั่งกับการค้นหาและย้ายกล่องคำสั่งไปยังด้านบนสุดของหน้าจอ เพื่อให้คุณสามารถสั่งแอปและดำเนินการได้อย่างรวดเร็วจากกล่อง นอกจากค้นหาบุคคล ข้อความ ไฟล์ และแอป

สั่งแอปจากกล่องคำสั่ง—เรากำลังเผยแพร่ความสามารถในการสอบถามและสั่งแอปจากกล่องคำสั่ง เริ่มจากวันนี้ คุณสามารถค้นหาข้อมูลในแอป เช่น รูปใน Adobe Creative Cloud หรือหัวข้อข่าว และแทรกผลลัพธ์ที่เฉพาะเจาะจงลงในแชทหรือการสนทนาของช่องทาง เมื่อเวลาผ่านไป เราจะเพิ่มฟังก์ชันคำสั่งเพิ่มเติม เช่น ความสามารถในการสร้างงานในแอปการจัดการโครงการของคุณ หรือเริ่มการสร้างใน Visual Studio Team Services เพียงแค่พิมพ์ @ ลงในกล่องคำสั่งเพื่อแสดงรายการแอปที่คุณสามารถสอบถามและสั่ง

ดำเนินการอย่างรวดเร็วด้วยคำสั่งเครื่องหมายทับ—คำสั่งเครื่องหมายทับเป็นทางลัดที่คุณสามารถพิมพ์ในกล่องคำสั่งเพื่อทำงานหรือนำทาง Teams ได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้คำสั่งเครื่องหมายทับเพื่อตั้งค่าสถานะของคุณเป็น “ไม่อยู่” เพิ่มผู้ใช้ลงในทีม หรือโทรหาเพื่อนร่วมงาน เมื่อต้องการเริ่มต้นใช้งานด้วยคำสั่งเครื่องหมายทับ ให้พิมพ์ / เพื่อดูรายการคำสั่งที่มีอยู่ในปัจจุบัน

ใช้คำสั่งเครื่องหมายทับเพื่อดำเนินการอย่างรวดเร็วใน Teams

บอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร!

ฟีเจอร์เหล่านี้จะเริ่มเผยแพร่ในวันนี้ และคุณสามารถคาดหวังว่าจะได้เห็นฟีเจอร์เหล่านี้ในไคลเอ็นต์ Teams ของคุณในไม่ช้า ลองฟีเจอร์ใหม่และให้คำติชมโดยใช้ลิงก์คำติชมที่มุมล่างขวาของ Teams ถ้าคุณมีคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีทำให้ Teams ดีขึ้น โปรดส่งความคิดของคุณผ่านทาง UserVoice หรือลงคะแนนสำหรับความคิดที่มีอยู่เพื่อช่วยเราจัดลำดับความสำคัญของคำขอ เราอ่านทุกคำติชมที่เราได้รับเพื่อทำให้ Teams ดียิ่งขึ้น

—ทีม Microsoft Teams

The post วิธีใหม่ในการใช้แอป และทำงานสำเร็จได้มากขึ้นใน Microsoft Teams appeared first on Microsoft 365 Blog.

ความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบเปิดกว้างและการเรียนรู้ร่วมกันนั้นดำเนินเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันด้วยการอัปเดตที่มีประสิทธิภาพจำนวนมากใน Office 365 Education จากการต่อยอดจากสมุดบันทึกสำหรับชั้นเรียนของ OneNote ที่ได้สร้างขึ้นกว่า 15 ล้านเล่มตั้งแต่ต้นปีการศึกษานี้ และการเปิดตัวของ Microsoft Teams สำหรับ Education เราได้ทำงานร่วมกับนักเรียน ครู และสถาบันการวิจัยต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่า Office 365 จะมอบผลลัพธ์ในการเรียนรู้ที่ดีที่สุดต่อไป สัปดาห์นี้ที่ Bett เราจะแชร์วิธีที่ Office 365 Education จะช่วยให้ครูสามารถรวมผู้เรียนทุกคนให้มีส่วนร่วม เพื่อทำให้แน่ใจว่ามีความเท่าเทียมกันและความเปิดกว้างในโรงเรียนซึ่งจะผลักดันให้นักเรียนทุกคนได้ศึกษาหาความรู้อย่างเต็มที่

การอัปเดตของ Office 365 Education ในวันนี้ได้รวมถึงการช่วยให้นักเรียนเขียนรายงานได้โดยใช้เพียงเสียงของตนเองด้วยฟีเจอร์การเขียนตามคำบอกใน Office ที่เป็นฟีเจอร์ล่าสุดในเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ของ Microsoft ตลอดจนการปรับปรุงการเข้าถึงงานที่มอบหมายและการทำงานร่วมกันในห้องเรียนด้วยแอป Microsoft Teams สำหรับ iPhone และ Android ให้ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังมอบฟีเจอร์ที่ครูต้องการมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ซึ่งก็คือการล็อกหน้าในสมุดบันทึกสำหรับชั้นเรียนของ OneNote ที่จะช่วยให้ครูสามารถให้สิทธิ์นักเรียนในการเข้าถึงแบบอ่านอย่างเดียวได้ และเราจะช่วยให้ครูประหยัดเวลาในการมอบหมายงานและการรวมเกรดด้วยระบบการจัดการการเรียนรู้ (LMS) และระบบข้อมูลนักเรียน (SIS) ชั้นนำ รวมถึง Capita SIMS ในสหราชอาณาจักร Office 365 Education มอบพลังแก่ครูและนักเรียนในการปลดล็อกการเรียนรู้อย่างไร้ขีดจำกัด และสิ่งที่ดีที่สุดก็คือ ฟรีสำหรับครูและนักเรียน

เครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ที่ครอบคลุม เพื่อผลลัพธ์ของนักเรียนที่ดียิ่งขึ้น

ห้องเรียนมีความหลากหลาย ห้องเรียนกว่าเจ็ดสิบสามเปอร์เซนต์มีนักเรียนที่มีระดับการอ่านแตกต่างกันมากกว่าสี่ระดับ และอาจสูญเสียเวลาในการเรียนการสอนมากถึง 50 เปอร์เซนต์ไปกับการจัดการความต้องการที่หลากหลายของนักเรียน เครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ได้รับการพิสูจน์ว่ามีส่วนช่วยเหลือ และเราพอใจในผลลัพธ์ การศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้แสดงให้เห็นว่า เครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ช่วยเพิ่มความเร็วในการอ่านและเพิ่มความเข้าใจให้กับนักเรียนในทุกระดับความสามารถ นำไปสู่ คะแนนสอบที่มากกว่านักเรียนที่ไม่ได้ใช้เครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ 10 เปอร์เซนต์

เราตื่นเต้นมากที่ได้เห็นการนำเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ไปใช้มากกกว่า 7 ล้านผู้ใช้ต่อเดือนทั่วทั้งใน Word, OneNote, Outlook, Edge และ Office Lens ด้วยคำติชมจากครู นักเรียน และผู้ปกครอง เราได้พยายามขยายขีดความสามารถของเครื่องมือสำหรับการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น และในวันนี้เรามีความยินดีที่จะประกาศการอัปเดตบางอย่าง

• การเขียนตามคำบอกใน Office — เครื่องมือที่เรียบง่ายแต่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้นักเรียนในทุกระดับความสามารถสามารถเขียนได้อย่างอิสระโดยใช้เพียงเสียงของตนเอง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้การเขียนตามคำบอกจะมีให้ใช้งานใน Word, Word Online, PowerPoint, Outlook Desktop, OneNote Windows 10 และ OneNote Online มากกว่าเก้าภาษา

• การอ่านออกเสียง — ช่วยให้นักเรียนได้ฟังเนื้อหาของอีเมลในขณะที่ไฮไลต์แต่ละคำไปด้วย โดยจะพร้อมใช้งานบน Outlook สำหรับเดสก์ท็อปเร็วๆ นี้ ในภาษาแปลงข้อความเป็นคำพูดมากกว่า 30 ภาษา
• โปรแกรมช่วยอ่าน — เพื่อสนับสนุนนักเรียนที่มีพื้นเพต่างกัน ขณะนี้โปรแกรมช่วยอ่านสนับสนุนภาษาใหม่อีก 10 ภาษา นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มอื่นอีกมากมายที่กำลังจะมาในปี 2018 และจะมีให้ใช้งานใน Word for Mac, iPhone และ Android ตลอดจน Outlook สำหรับเดสก์ท็อป และ OneNote for iPhone, iPad และ Mac

ฟีเจอร์ใหม่สำหรับการเรียนและการสอนใน Microsoft Teams

ตั้งแต่เปิดตัว Microsoft Teams สำหรับ Office 365 Education ในปีที่แล้ว เราได้เห็นนักการศึกษาทั่วโลกส่งเสริมการทำงานร่วมกันและผลลัพธ์การเรียนรู้โดยใช้ Teams เป็นศูนย์กลางทางดิจิทัล นอกจากการประกาศล่าสุดของเราแล้ว เรายังได้เปิดตัวฟีเจอร์ต่างๆ จำนวนหนึ่งซึ่งจะทำให้การตั้งค่า การทำงานร่วมกัน และการจัดการห้องเรียนใน Teams ทำได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย

• การสนับสนุนการมอบหมายงาน — ด้วยการใช้แอป Teams บนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต iOS และ Android นักเรียนสามารถเข้าถึงงานที่กำลังจะได้รับมอบหมาย รับการแจ้งเตือนงานที่ได้รับมอบหมายใหม่ และส่งงานของพวกเขา ครูสามารถสร้างงานที่มอบหมายใหม่ ตลอดจนตรวจทานและแก้ไขงานที่มอบหมายที่มีอยู่ได้ทุกที่ทุกเวลา เรายังได้ปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อให้มั่นใจได้ว่าทั้งนักเรียนและครูสามารถค้นหาและไปยังแต่ละงานที่มอบหมายได้อย่างรวดเร็ว

• การแปลตามต้องการ — นักเรียนและครูจะสามารถเปลี่ยนเนื้อหาในแชทหรือแชนเนลของทีมเป็นภาษาที่ผู้เช่าของพวกเขาถูกกำหนดค่าไว้ ฟีเจอร์อันทรงประสิทธิภาพนี้ช่วยให้ครูและนักเรียนสามารถพูดคุยได้อย่างสะดวกในภาษาที่ตนเลือก และขจัดอุปสรรคทางภาษาทั้งหมด
• การวิเคราะห์งานที่มอบหมาย — ขณะนี้ครูสามารถติดตามการมีส่วนร่วมกับงานที่มอบหมายแบบเรียลไทม์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อดูว่าใครบ้างที่ได้ดูและส่งงานแล้ว
• รหัสในการเข้าร่วม — ประหยัดเวลาอันมีค่าของครูด้วยการช่วยให้ครูสามารถเชิญนักเรียนเข้าชั้นเรียนได้ง่ายๆ ความสามารถนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับพนักงานและทีม PLC โดยช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถเริ่มต้นทำงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานได้อย่างง่ายดาย
• การนำทีมกลับมาใช้เป็นเทมเพลต — ครูสามารถนำทีมที่มีอยู่มาใช้ซ้ำเป็นเทมเพลตในการสร้างทีมใหม่ และสามารถปรับแต่งสิ่งที่ต้องการจะคัดลอกมา ไม่ว่าจะเป็นแชนแนล แท็บ การตั้งค่าทีม แอป และแม้แต่ผู้ใช้
• การให้เกรดแบบทศนิยม — ครูสามารถให้เกรดได้ตามต้องการโดยใช้การให้เกรดแบบทศนิยม

ฟีเจอร์ใหม่ของ OneNote สำหรับครู

OneNote ยังจะได้รับฟีเจอร์ใหม่ที่เป็นประโยชน์ที่เรารู้ว่าจะเป็นที่นิยมในหมู่ครู

• Capita SIMS — การอัปเดตสำหรับสมุดบันทึกสำหรับชั้นเรียนนั้นมีการรวมงานที่มอบหมายและเกรดด้วย LMS และ SIS ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด 35 ระบบรวมถึง Capita SIMS ในสหราชอาณาจักร การผสานรวมเหล่านี้จะมาถึง OneNote สำหรับ Windows 10, OneNote Online และ OneNote iPad และจะช่วยลดภาระการดูแลระบบและประหยัดเวลาของครู
• การล็อกหน้า — เพื่อลดความซับซ้อนของเวิร์กโฟลว์ในห้องเรียน เราจะดำเนินการตามคำขออันดับแรกของครูสำหรับสมุดบันทึกสำหรับชั้นเรียนซึ่งก็คือการเปิดใช้งานการล็อกหน้า ขณะนี้ครูสามารถล็อกหน้าเป็นแบบอ่านอย่างเดียวได้หลังจากให้คำติชมกับนักเรียน
• เครื่องคำนวณคณิตศาสตร์เชิงโต้ตอบ — นอกจากนี้ใน OneNote เรายังจะเปิดใช้งานเครื่องคำนวณคณิตศาสตร์เชิงโต้ตอบ Desmos ที่เป็นชุดแอปพลิเคชันยอดนิยมสำหรับครูในหมวด STEM
• สติกเกอร์ใหม่ — เรายังได้เพิ่มชุดสติกเกอร์น่าสนุกใหม่สี่แบบ: เพื่อนขนนก สัตว์ในคณะละครสัตว์ วิทยาศาสตร์ และลูกศร

การผสานรวมของ Teams กับ PowerPoint และ Microsoft Stream

การปรับปรุงการทำงานร่วมกันของชั้นเรียนไม่ได้มีแค่นี้ Teams ยังได้รวมพลังกับ PowerPoint และ Microsoft Stream เพื่อทำให้การสร้างและแชร์เนื้อหาที่โต้ตอบได้เป็นเรื่องง่ายในไม่กี่ขั้นตอนสำหรับครูและนักเรียน

ครูสามารถใช้ PowerPoint เพื่อสร้างเนื้อหาของชั้นเรียนที่ดึงดูด (ที่มีหมึก ภาพเคลื่อนไหว และคำบรรยายเสียง/วิดีโอ) เผยแพร่ลงในแชนแนล Stream ของพวกเขาในรูปแบบวิดีโอ และจัดให้อยู่ด้านหน้าชั้นเรียนของ Teams เพื่อแจกจ่ายให้กับนักเรียน นอกจากนี้ Stream จะเพิ่มคำบรรยายอัตโนมัติลงในวิดีโอเพื่อให้ผู้เรียนทุกคนสามารถเข้าใจได้

เรามีความยินดีที่จะนำเสนอฟีเจอร์เหล่านี้และฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่ Bett ในสัปดาห์นี้ เราเชื่อว่า ด้วยสภาพแวดล้อมการเรียนรู้แบบเปิดกว้างและเรียนรู้ร่วมกัน Office 365 Education ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนผู้เรียนทุกประเภทเพื่อช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ได้ดีที่สุด หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นที่กำลังจะมีใน Microsoft Education โปรดดูที่ บล็อก Windows

— Eran Megiddo

ความพร้อมใช้งาน:

• การเขียนตามคำบอกใน Office จะเริ่มเผยแพร่ในโปรแกรม Office Insider ในเดือนนี้ จากนั้นจะเผยแพร่ให้กับลูกค้า Office 365 ทั้งหมดในเดือนต่อๆ ไป
• การอ่านออกเสียงสำหรับ Outlook สำหรับเดสก์ท็อปจะพร้อมใช้งานสำหรับ Office Insider ในเดือนนี้ จากนั้นจะเผยแพร่ให้กับลูกค้า Office 365 ทั้งหมดในเดือนต่อๆ ไป
• โปรแกรมช่วยอ่านสำหรับ Mac Word, iPhone Word และ Android Word จะพร้อมให้ใช้งานสำหรับโปรแกรม Office Insider ของเราในเดือนนี้ จากนั้นจะเผยแพร่ให้กับลูกค้า Office 365 ทั้งหมดในเดือนต่อๆ ไป
• โปรแกรมช่วยอ่านสำหรับ OneNote iOS จะเริ่มต้นเผยแพร่ไปยังลูกค้า Office 365 ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2018 และสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2018
• ภาษาของโปรแกรมช่วยอ่านสำหรับการแปลงข้อความเป็นคำพูด พยางค์ และภาษาของชนิดของคำจะพร้อมใช้งานในวันนี้ และจะเผยแพร่ต่อไปตลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2018
• การอัปเดตของ Teams สำหรับ iOS และ Android และการให้เกรดแบบทศนิยมพร้อมใช้งานทั่วโลกแล้ววันนี้ การวิเคราะห์งานที่มอบหมาย รหัสในการเข้าร่วม และการนำทีมกลับมาใช้เป็นเทมเพลตจะเริ่มต้นเผยแพร่ให้กับลูกค้า Office 365 Education ที่ลงทะเบียนในโปรแกรม Teams for Education เวอร์ชันเบต้าของเราวันนี้ ความสามารถเหล่านี้จะย้ายไปสู่การผลิตทั่วโลกภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2018
• การรวมงานที่มอบหมายและเกรดของ OneNote ด้วย Capita SIMS จะพร้อมใช้งานในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 การรวมงานที่มอบหมายและเกรดสำหรับ OneNote for Windows 10, OneNote Online และ OneNote iPad จะพร้อมใช้งานทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์ 2018
• การรวม Desmos ใน OneNoteพร้อมให้ใช้งานทั่วโลกวันนี้สำหรับลูกค้า Office 365 ทั้งหมด
• การล็อกหน้าสมุดบันทึกสำหรับชั้นเรียนของ OneNoteจะเริ่มต้นการทดสอบตัวอย่างในเดือนกุมภาพันธ์ 2018 จากนั้นจะเผยแพร่ทั่วโลกในเดือนต่อๆ ไป
• การบันทึกใน PowerPoint และเผยแพร่ไปยัง Stream โดยตรงพร้อมใช้งานแล้วสำหรับลูกค้า Office 365 Education ทั้งหมด

หากคุณ #ไม่ได้อยู่ที่Bett ในสัปดาห์นี้ และต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการอัปเดตที่น่าตื่นเต้นอื่นๆ ที่กำลังจะมีใน Microsoft Education ให้ดูสรุปข่าวใหญ่ในวันนี้ของเราที่นี่!

The post Office 365 Education มอบนวัตกรรมคลื่นลูกใหม่สำหรับการเรียนรู้แบบเปิดกว้างและการเรียนรู้ร่วมกัน appeared first on Microsoft 365 Blog.

ถ้าคุณติดตามบล็อก คุณจะทราบว่าเราให้การสนับสนุนตัวเลือกมากมายสำหรับการเชื่อมต่อไดเรกทอรีในองค์กรหรือโซลูชัน IAM กับ Azure AD อันที่จริง ไม่มีบริษัทใดในอุตสาหกรรมที่จะมอบตัวเลือกให้ลูกค้ามากเท่ากับเราอีกแล้ว

ดังนั้น ผมจึงไม่แปลกใจเมื่อลูกค้ามักจะถามผมบ่อยๆ ว่าผมแนะนำตัวเลือกใดมากที่สุด และทุกครั้งผมก็ลังเลที่จะให้คำตอบ จากประสบการณ์การทำงานในอุตสาหกรรมข้อมูลประจำตัวมามากกว่า 6 ปี ผมได้เรียนรู้ว่าทุกองค์กรแตกต่างกัน และมีเป้าหมายและความต้องการด้านความเร็วในการปรับใช้ ทัศนคติด้านความปลอดภัย ความสามารถในการลงทุน สถาปัตยกรรมเครือข่าย วัฒนธรรมในองค์กร ความต้องการด้านการปฏิบัติตามข้อบังคับ และสภาพแวดล้อมการทำงานไม่เหมือนกัน ทำให้เราต้องลงทุนกับการมอบตัวเลือกที่หลากหลาย เพื่อให้คุณสามารถเลือกตัวเลือกที่ตอบสนองความต้องการได้ดีที่สุด (แน่นอน นั่นไม่ได้หมายความว่าผมไม่มีข้อคิดเห็น ถ้าเป็นองค์กรของผม ผมจะใช้ความสามารถการรับรองความถูกต้องแบบพาส-ทรูและการซิงค์ Azure AD Connect  เนื่องจากทั้งสองอย่างสามารถปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีต้นทุนการดูแลรักษาต่ำ แต่อย่าลืมว่านั่นเป็นเพียงข้อคิดเห็นของผมเท่านั้น!)

แทนที่จะเสียเวลาไปกับการกังวลว่าผมหรือคนอื่นๆ จะแนะนำอะไร ทำไมเราไม่ดูสิ่งที่ลูกค้าใช้งานจริงๆ ล่ะ ผมคิดว่าการพูดแบบนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สุด

แรงผลักดันของ Azure AD

ผมต้องการเริ่มต้นด้วยการแชร์ตัวเลขเกี่ยวกับการใช้งานโดยรวมของ Azure AD เพื่อให้คุณทราบบริบทสำหรับตัวเลขในเชิงลึกขึ้นด้านล่าง สำหรับการใช้งานโดยรวมของ Azure AD เราจะเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องในองค์กรที่ใช้บริการข้อมูลประจำตัวบนระบบคลาวด์พื้นฐานและการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Azure AD Premium

แนวโน้มที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากที่สุดก็คือการเติบโตอย่างน่าเหลือเชื่อของการใช้งาน Azure AD กับแอปพลิเคชันของบริษัทอื่น มีการใช้งานแอปพลิเคชันของบริษัทอื่นมากกว่า 3 แสนแอปในทุกๆ เดือน เรากำลังเห็นว่าองค์กรมากมายเปลี่ยนไปใช้ Azure AD เป็นแพลตฟอร์มข้อมูลประจำตัวบนระบบคลาวด์

การซิงค์ผู้ใช้กับ Azure AD

ผู้เช่า Azure AD ส่วนใหญ่คือองค์กรขนาดเล็กที่ไม่ซิงค์โครไนซ์ AD ในองค์กรกับ Azure AD องค์กรขนาดใหญ่กว่าจะซิงค์อยู่เสมอ และองค์กรเหล่านั้นก็มีจำนวนบัญชีผู้ใช้มากกว่า 50% ของ 950 ล้านบัญชีใน Azure AD

ต่อไปนี้คือข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่าองค์กรซิงค์โครไนซ์ผู้ใช้กับ Azure AD อย่างไร:

• >ผู้เช่า 180,000 รายซิงค์ Windows Server Active Directory ในองค์กรกับ Azure AD
• >ผู้เช่า 170,000 ใช้ Azure AD Connect ในการซิงค์โครไนซ์
• มีลูกค้าเพียงส่วนน้อยที่ใช้โซลูชันอื่น:
  • 7% ใช้เครื่องมือ DirSync ดั้งเดิมหรือ Azure AD Sync
  • 1.9% ใช้ Microsoft Identity Manager หรือ Forefront Identity Manager
  • น้อยกว่า 1% ใช้โซลูชันแบบกำหนดเองหรือโซลูชันของบริษัทอื่น

การรับรองความถูกต้องด้วย Azure AD

ครั้งที่แล้วที่ผมเขียนบล็อกเกี่ยวกับการรับรองความถูกต้อง ข้อมูลที่ผมแชร์มาจากปริมาณการรับรองความถูกต้อง ผมได้รับคำติชมว่าตัวเลขเหล่านี้ทำให้เข้าใจบริบทได้ยาก และคุณสนใจจำนวนผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่มากกว่า ดังนั้น ในการอัปเดตนี้ ผมจะแชร์ตัวเลขตามผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายเดือน (MAU)

ในวันที่ 31 ต.ค. มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายเดือนของ Azure AD ประมาณ 152 ล้านคนเท่านั้น จากผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่เหล่านั้น:

• 55% รับรองความถูกต้องโดยใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการส่วนกลาง
• 24% รับรองความถูกต้องด้วยการซิงค์แฮชรหัสผ่าน
• 21% คือผู้ใช้ระบบคลาวด์เพียงอย่างเดียว
• การรับรองความถูกต้องแบบพาส-ทรูของ Azure AD ที่เพิ่งพร้อมใช้งานทั่วโลกเมื่อเดือนที่แล้ว มีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายเดือนมากกว่าครึ่งล้านแล้ว และตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้น 50% ต่อเดือน!

เมื่อเจาะให้ลึกยิ่งขึ้น เราก็ยิ่งพบข้อมูลที่น่าสนใจมากขึ้น ดังนี้:

• 46% ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รับรองความถูกต้องด้วย AD Federation Services
• มากกว่า 2% ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดรับรองความถูกต้องโดยใช้ Ping Federate และ Ping ก็เป็นตัวเลือกของบริษัทอื่นที่มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นเร็วที่สุดและได้รับความนิยมสูงสุด
• 2% ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดรับรองความถูกต้องโดยใช้บริการ IDaaS ของบริษัทอื่น อย่างเช่น Centrify, Okta หรือ OneAuth
• 1% ของผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ทั้งหมดรับรองความถูกต้องโดยใช้ Federation Server ของบริษัทอื่นที่ไม่ใช่ Ping Federate

สรุปประเด็นสำคัญ

ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลที่น่าสนใจและแสดงให้เห็นถึงแนวโน้มที่โดดเด่นบางอย่าง:

1. Azure AD Connect ได้กลายเป็นมาตรฐานของการซิงค์โครไนซ์ระหว่าง Windows Server AD และ Azure AD ไปแล้ว ผู้เช่ามากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ที่ซิงค์ใช้ Azure AD Connect
2. การซิงค์แฮชรหัสผ่านของ Azure AD ได้กลายเป็นตัวเลือกที่ลูกค้าให้ความนิยมอย่างมาก โดยมีผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่รายเดือนหลายสิบล้านคน
3. เมื่อองค์กรขนาดใหญ่เริ่มใช้ Azure AD มากขึ้นเรื่อยๆ Ping Federate ก็กลายเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ความเป็นคู่ค้ากับ Ping ได้สร้างลูกค้าจำนวนมากเหล่านี้
4. ถึงแม้ว่าจะมีสื่อข่าวสารและโฆษณาทางการตลาดทั้งหมดแล้ว ผู้จัดจำหน่าย IDaaS รายอื่นก็ยังคงเป็นส่วนเล็กๆ ของธุรกิจ Azure AD/Office365
5. ตัวเลือกการรับรองความถูกต้องแบบพาส-ทรูใหม่ของเรา ซึ่งพร้อมใช้งานทั่วโลกเมื่อเดือนที่แล้ว เปิดตัวอย่างยอดเยี่ยมด้วยจำนวน MAU มากกว่า 500,000 คน! ถ้าแนวโน้มปัจจุบันยังคงอยู่ ในเวลาอีกประมาณหกเดือนถึงหนึ่งปี เราจะมีผู้ใช้มากกว่าผู้จัดจำหน่าย IDaaS รายอื่นรวมกัน

สรุป

เช่นเดียวกับก่อนหน้านี้ ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกเรื่องราวได้อย่างชัดเจน เราออกแบบ Azure AD อย่างตรงไปตรงมาและปฏิบัติตามมาตรฐาน เพื่อให้ลูกค้าสามารถใช้งานร่วมกับตัวเลือกของบริษัทได้อย่างหลากหลาย แต่ลูกค้าส่วนใหญ่พบว่าโซลูชันข้อมูลประจำตัว “ที่มีจำหน่ายทั่วไป” ของเราตอบสนองความต้องการของตนได้ และจำนวนนี้ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่าความเรียบง่ายที่เรามอบให้ด้วย Azure AD Connect ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โซลูชันถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายและเป็นตัวเลือกสำหรับการเชื่อมต่อ Windows Server AD และ Azure AD/Office 365 ที่มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเร็วที่สุด

หวังว่าคุณจะสนใจและได้รับประโยชน์จากโพสต์บล็อกนี้! เช่นเคย เราต้องการฟังคำติชมหรือคำแนะนำจากคุณครับ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post องค์กรต่างๆ เชื่อมต่อข้อมูลประจำตัวในองค์กรกับ Azure AD อย่างไร appeared first on Microsoft 365 Blog.

บริษัทหรือแผนกของคุณสามารถสนับสนุนสไตล์การทำงานแบบอื่นที่ไม่สูญเสียประสิทธิภาพของระบบจัดการโครงการแบบรวมศูนย์ได้อย่างไร ด้วย Agile ใน Project ผู้จัดการโครงการและทีมสามารถเลือกระเบียบวิธีที่สอดคล้องกับโครงการที่ใกล้จะถึง รวมถึง Agile, วอเตอร์ฟอล, ไฮบริด หรือแบบตามหน้าที่ การร่วมมือกันของ Project และ Microsoft Planner ช่วยคุณเชื่อมต่องาน Project กับแผน Planner และติดตามงานแบบละเอียดใน Planner

ใช้ Agile ในพอร์ตโครงการ Project ของคุณ

ด้วย Agile ใน Project คุณสามารถใช้วิธีแบบ Agile เพื่อติดตามโครงการของคุณในไคลเอ็นต์เดสก์ท็อป Project Online คุณสามารถสร้างโครงการแบบ Agile ใหม่หรือใช้มุมมองแบบ Agile กับโครงการแบบวอเตอร์ฟอลที่มีอยู่ของคุณ คุณสามารถติดตามโครงการของคุณโดยใช้ระเบียบวิธีของ Scrum และ Kanban รวมถึงการดูบอร์ดงาน การสร้างรายการงานค้าง และการติดตามสปรินต์ และการดูรายงานบนสถิติแบบ Agile

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม ให้ดู “ใช้ Agile ใน Microsoft Project”

จัดการงานทั่วไปของ Project ใน Planner

ด้วยการร่วมมือกันระหว่างไคลเอ็นต์เดสก์ท็อปของ Project Online และ Planner เจ้าของงานสามารถติดตามรายละเอียดของงานแบบละเอียดได้ในเครื่องมือที่มีขนาดเล็ก ผู้จัดการโครงการยังคงควบคุมโครงสร้างการแบ่งงานของโครงการและสามารถดูการทำงานแบบละเอียดที่กำลังจะเสร็จโดยเปรียบเทียบกับงานทั่วไปได้

ความสามารถนี้อาจยังใช้เพื่อลดความซับซ้อนของแผนโครงการใน Project ซึ่งจะทำให้ผู้จัดการโครงการควบคุมงานจำนวนน้อยลงขณะที่เจ้าของงานสามารถแบ่งงานได้มากขึ้นใน Planner ทีมที่จัดการงานของตนเองใน Project Online สามารถทำงานได้ดีกว่าทีมที่ใช้ Planner

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ให้ดู “การทำงานข้ามทีมที่ง่ายยิ่งขึ้นด้วยไคลเอ็นต์เดสก์ท็อปของ Project Online และ Microsoft Planner ที่เพิ่งร่วมมือกัน“

เรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเพิ่มฟังก์ชันการทำงานแบบ Agile ลงใน Project และการร่วมมือกันกับ Planner ทั้งสองอย่างพร้อมใช้งานแล้วใน การสมัครใช้งาน Project Online Professional และ Project Online Premium เราจะรอข้อคิดเห็นและคำติชมจากคุณ—โปรดส่งคำติชมผ่านทางไซต์ Project UserVoice และ Planner UserVoice ของเรา!

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม ฉันจะรับฟีเจอร์ที่มีอยู่ใน Agile ใน Project ได้อย่างไร

ตอบ Agile ใน Project พร้อมใช้งานสำหรับการสมัครใช้งาน Project Online Professional และ Project Online Premium ฟีเจอร์ทำงานกับไฟล์ .mpp ของ Project แบบสแตนด์อโลนและกับ Project Online ซึ่งไม่ทำงานกับ Project Server 2016 เช่น ถ้าคุณเปิด Project ที่เชื่อมต่อกับ Project Server 2016 ฟีเจอร์ Agile ใน Project จะไม่แสดงขึ้น ถ้าคุณเปิดไฟล์ .mpp ที่มีข้อมูล Agile ใน Project เวอร์ชันก่อนหน้า คุณจะไม่เห็นเขตข้อมูล Agile แต่จะไม่สูญเสียข้อมูล Agile

ถาม ฉันจะได้รับความสามารถแบบผสมผสานของ Project และ Planner ได้อย่างไร

ตอบ เมื่อต้องการความสามารถแบบผสมผสาน คุณจำเป็นต้องสมัครใช้งาน Project Online Professional หรือ Project Online Premium สำหรับ Planner คุณจำเป็นต้องสมัครใช้งาน Office 365 Business Essentials, Business Premium, E1-E5 หรือแผนเพื่อการศึกษา

The post แนะนำวิธีการทำงานใหม่ใน Microsoft Project appeared first on Microsoft 365 Blog.

นำเสนอ Visio ให้กับผู้ใช้รายใหม่

ในปัจจุบัน พนักงานด้านข้อมูลต้องการวิธีการทำงานแบบเห็นภาพที่เรียบง่ายแต่มีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Visio Online เป็นเครื่องมือสร้างไดอะแกรมบนเว็บที่มีขนาดเล็ก Visio Online จึงเป็นโซลูชันที่สมบูรณ์แบบ ทำให้คุณสามารถสร้าง แก้ไข และแชร์ไดอะแกรมออนไลน์ ซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างข้อมูลเป็นภาพด้วยวิธีใหม่ได้จากทุกที่ นอกจากนี้ ทุกคนในองค์กรของคุณยังสามารถดูไดอะแกรมได้แม้ว่าจะไม่มีสิทธิ์การใช้งาน Visio Online คุณจึงสามารถรับคำติชมเกี่ยวกับไดอะแกรมที่สำคัญจากผู้เกี่ยวข้องคนสำคัญทุกคน

Visio Online มาพร้อมกับชุดเทมเพลตสำหรับผู้ใช้ต่างๆ รวมถึงไดอะแกรมเริ่มต้นสำหรับผังงานพื้นฐาน ไดอะแกรมกระบวนการ ไทม์ไลน์ เมตริกซ์ธุรกิจ ไดอะแกรม SDL และอื่นๆ อีกมากมาย การสร้างข้อมูลเป็นภาพเป็นขั้นตอนที่ง่าย แค่ลากแล้วปล่อยรูปร่างลงบนผืนผ้าใบ เปลี่ยนสีของรูปร่าง หรือธีมของไดอะแกรมโดยรวม และเชื่อมโยงรูปร่างหนึ่งกับอีกรูปร่างหนึ่งด้วยตัวเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็ว รวมถึง คุณสามารถแชร์ไดอะแกรมบนเว็บได้อย่างปลอดภัยผ่านทาง OneDrive for Business (Visio Online Plan 1 และ Plan 2 มีพื้นที่เก็บข้อมูล OneDrive ขนาด 2 GB ดูด้านล่างเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนเหล่านี้)

Visio Online มาพร้อมกับเทมเพลตไดอะแกรมที่จะช่วยคุณเริ่มต้นใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

“โดยรวม Visio Online เป็นโปรแกรมที่เยี่ยมยอด โดยเฉพาะสำหรับผม ปกติแล้ว ผมจะแค่วาดภาพแบบด่วนเพื่อใช้ในเอกสารประกอบเป็นต้น และผมคิดว่านั่นจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากถ้าใช้ผลิตภัณฑ์นี้”—Graves Kilsgaard ผู้พัฒนาระบบที่ KMC Foods

นวัตกรรมที่เน้นระบบคลาวด์

ตั้งแต่เมื่อต้นปีที่แล้ว Visio มุ่งเน้นไปที่การเผยแพร่ความสามารถที่เน้นระบบคลาวด์และเป็นนวัตกรรมใหม่ ซึ่งปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์สำหรับผู้สร้างไดอะแกรมแบบมืออาชีพ นวัตกรรมที่เติบโตอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้เกิดรุ่นหลักต่างๆ โดยเมื่อรวมกับ Visio Online แล้ว ได้ช่วยเพิ่มชุดเครื่องมือสร้างไดอะแกรมของ Visio ขึ้นไปอีก

เชิญรับชมความสามารถแต่ละรายการที่มีในระบบคลาวด์เท่านั้น:

• Power BI คือเครื่องมือการจัดรูปแบบการแสดงข้อมูลระบบคลาวด์ของ Microsoft ที่จะช่วยบริษัทของคุณดึงข้อมูลเชิงลึกเชิงวิเคราะห์ทางธุรกิจจากชุดข้อมูลที่ซับซ้อน ในปัจจุบัน Power BI มีไดอะแกรมสำหรับการแสดงผลด้วยภาพรูปแบบใหม่ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับข้อมูลแบบไลฟ์และฝังตัวภายในแดชบอร์ด Power BI ขณะนี้ การร่วมมือระหว่าง Visio และ Power BI ยังเป็นตัวอย่างสำหรับสาธารณะและมีแผนที่จะออกวางจำหน่ายในปีถัดไป เรียนรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่นี้ใน Power BI
• ตัวสร้างภาพข้อมูลจะแปลงข้อมูลแผนผังกระบวนการใน Excel เป็นไดอะแกรมที่อิงตามข้อมูลใน Visio เมื่อใช้ไดอะแกรมที่มีการแสดงผลด้วยภาพจำนวนมากแทนตัวเลขตามตาราง คุณจะสามารถดึงข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกระบวนการใหม่ที่จะนำไปสู่ทางแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์สำหรับปัญหาที่ซับซ้อนได้
• Visio Viewer for iOS ช่วยให้คุณสามารถดูและโต้ตอบกับไดอะแกรม Visio ได้ทั้งใน iPad และ iPhone คุณสามารถแชร์ไดอะแกรมผ่านทาง OneDrive หรือ SharePoint ได้ง่ายๆ แล้วเข้าถึงได้ในอุปกรณ์ iOS เครื่องโปรดของคุณ
• ส่วนย่อยของสไลด์ PowerPoint ช่วยให้คุณสามารถเลือกส่วนของไดอะแกรมแบบเจาะจง ตั้งชื่อให้ส่วนต่างๆ และส่งออกเป็นสไลด์ใน PowerPoint ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถสร้างงานนำเสนอ PowerPoint ทั้งหมดเพื่อเปลี่ยนไดอะแกรมที่ซับซ้อนเป็นส่วนๆ เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

นวัตกรรมใหม่ รูปแบบการสมัครใช้งานใหม่

Visio Online มีให้ใช้งานใน Visio Online Plan 1 นอกจากนี้ยังมีให้ใช้งานในข้อเสนอระบบคลาวด์ของ Visio ที่ครอบคลุมที่สุดของเรา ซึ่งก็คือ Visio Online Plan 2 (ก่อนหน้านี้เรียกว่า Visio Pro for Office 365) ดูไดอะแกรมได้ฟรีสำหรับ ลูกค้า Office 365 ส่วนใหญ่ นวัตกรรมที่อธิบายไว้ด้านบนจะพร้อมใช้งานใน Visio Online Plan 2 เท่านั้น คุณสามารถ เปรียบเทียบเวอร์ชันของ Visio เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Visio แต่ละรายการ

โปรดเข้าชม เว็บไซต์ Visio เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ละแผน รวมทั้งตัวเลือกสำหรับทดลองใช้ประสบการณ์ใช้งาน Visio Online และนวัตกรรมที่เน้นระบบคลาวด์ของเราได้ฟรี เรายังขอเชิญให้คุณส่งไอเดียสำหรับนวัตกรรมระบบคลาวด์เพิ่มเติมบนไซต์ UserVoice ของเรา สำหรับข้อสงสัยเกี่ยวกับการวางจำหน่ายครั้งล่าสุดของเรา โปรดส่งอีเมลถึงเราที่ tellvisio@microsoft.com เมื่อต้องการรับทราบข่าวสารเกี่ยวกับการวางจำหน่าย Visio ล่าสุดอยู่เสมอ ให้ติดตามเราใน Facebook และ Twitter รวมถึงอ่าน ข่าวสาร Visio ล่าสุด

—ทีม Visio

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม ฉันจำเป็นต้องติดตั้งทุกอย่างเพื่อเริ่มใช้งาน Visio Online หรือไม่

ตอบ ไม่ Visio Online เป็นแอปพลิเคชันบนเว็บ ลูกค้ายังสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้โดยตรงที่ microsoft.com/visio

ถาม ฉันจำเป็นต้องมีการสมัครใช้งาน Visio Online เพื่อดูไดอะแกรม Visio Online หรือไม่

ตอบ ไม่ ทุกคนที่มีการสมัครใช้งาน Office 365 สามารถดูไดอะแกรมที่สร้างและแชร์ผ่านทาง Visio Online ด้วยวิธีนี้ ทั้งบริษัทของคุณสามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการสร้างไดอะแกรม

ถาม ฉันสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเริ่มใช้งาน Visio Online ได้ที่ไหน

ตอบ โปรดอ่าน บทความสนับสนุน นี้เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

ถาม มีความแตกต่างเพิ่มเติมระหว่าง Visio Online Plans 1 และ 2 มากกว่าที่กล่าวไว้ด้านบนหรือไม่

ตอบ มี โปรดเข้าชม เว็บไซต์ Visio เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแต่ละแผน

ถาม Visio Online Plan 2 มีที่เก็บข้อมูลของ OneDrive ขนาดใหญ่กว่า 2 GB ใช่หรือไม่

ตอบ ทั้ง Visio Online Plans 1 และ 2 มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลของ OneDrive for Business ขนาด 2 GB ลูกค้าสามารถซื้อที่เก็บข้อมูลของ OneDrive เพิ่มเติมได้ ถ้าต้องการ

ถาม ความสามารถและแผนใหม่มีผลกระทบกับ Visio Services และ Visio Pro for Office 365 อย่างไร

ตอบ Visio Online กำลังจะแทนที่ Visio Services สำหรับลูกค้า SharePoint Online และ Visio Online Plan 2 เป็นชื่อใหม่สำหรับ Visio Pro for Office 365

ถาม ฉันมีสิทธิ์การใช้งาน Visio Pro for Office 365 (ขณะนี้คือ Visio Online Plan 2) แต่ไม่สามารถเข้าถึง Visio Online เพื่อสร้างไดอะแกรมในเบราว์เซอร์ได้ ฉันสามารถเข้าถึงฟังก์ชันการใช้งานได้เมื่อไรและอย่างไร

ตอบ ในเดือนต่อๆ มา ลูกค้า Visio Pro for Office 365 ปัจจุบัน (ขณะนี้คือ Visio Online Plan 2) จะมีสิทธิ์เข้าถึง Visio Online เพื่อสร้าง แก้ไข และแชร์ไดอะแกรมในเบราว์เซอร์โปรดของตนได้ ผู้ใช้เหล่านี้จะมีสิทธิ์เข้าถึง Visio Online จาก หน้าเริ่มต้น และมีจุดเข้าใช้งาน Visio ใน Office.com หลังจากนั้น คุณสามารถเข้าถึง Visio Online ได้จากเมนู สร้างใหม่ ใน OneDrive หรือ SharePoint Online ถ้าเปิดปุ่มสลับ แสดงตัวอย่าง ใน การตั้งค่า ผู้ดูแลระบบผู้เช่า SharePoint Online

The post Visio Online และนวัตกรรมระบบคลาวด์แบบใหม่ของ Visio จะช่วยคุณปลดล็อกความคิดสร้างสรรค์ appeared first on Microsoft 365 Blog.

ด้วยการละเมิดบริการด้านข้อมูลประจำตัวบนระบบคลาวด์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เราได้รับคำถามมากมายเกี่ยววิธีที่เรารักษาความปลอดภัยข้อมูลของลูกค้า ดังนั้น บล็อกของวันนี้จะลงลึกเกี่ยวกับรายละเอียดวิธีที่เราปกป้องข้อมูลของลูกค้าใน Azure AD

ศูนย์ข้อมูลและการรักษาความปลอดภัยของบริการ

เริ่มจากศูนย์ข้อมูลของเรา อันดับแรก บุคลากรในศูนย์ข้อมูลของ Microsoft จะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติมาก่อน การเข้าถึงศูนย์ข้อมูลของเรานั้นได้รับการควบคุมอย่างแน่นหนาและมีการจับตาดูทุกทางเข้าออก ภายในศูนย์ข้อมูล บริการ Azure AD ที่สำคัญที่เก็บข้อมูลของลูกค้าจะตั้งอยู่ในแร็คที่ล็อกเป็นพิเศษ การเข้าถึงด้วยตัวบุคคลจริงๆ นั้นถูกจำกัดอย่างแน่นหนาและมีกล้องวงรปิดคอยสอดส่องตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีการเลิกใช้งานหนึ่งในเซิร์ฟเวอร์ ดิสก์จะถูกทำลายทั้งในทางตรรกะและทางกายภาพเพื่อป้องการรั่วไหลของข้อมูล

ต่อมา เราได้จำกัดจำนวนคนที่จะสามารถเข้าถึงบริการ Azure AD ได้ แม้จะเป็นผู้ที่มีสิทธิ์เข้าถึงก็ต้องดำเนินการโดยไม่มีสิทธิ์เหล่านี้แบบวันต่อวันเมื่อลงชื่อเข้าใช้ เมื่อพวกเขาต้องการสิทธิ์เพื่อเข้าถึงบริการ พวกเขาจะต้องผ่านคำถามการรับรองความถูกต้องแบบหลายปัจจัยโดยใช้สมาร์ทการ์ดเพื่อยืนยันข้อมูลส่วนตัวและส่งคำขอ เมื่อคำขอได้รับการอนุมัติ สิทธิ์ของผู้ใช้จะได้รับการเตรียมใช้งานให้เป็น “Just-In-Time” สิทธิ์เหล่านี้จะถูกนำออกโดยอัตโนมัติหลังจากพ้นระยะเวลาที่กำหนด และผู้ที่ต้องการเวลาเพิ่มจะต้องผ่านขั้นตอนการส่งคำขอและอนุมัติอีกครั้งหนึ่ง

เมื่อได้รับสิทธิ์เหล่านี้ การเข้าถึงทั้งหมดจะทำงานโดยใช้เวิร์กสเตชันของผู้ดูแลระบบที่ได้รับการจัดการ (ซึ่งสอดคล้องกับคู่มือเวิร์กสเตชันสิทธิ์การเข้าถึงระดับสูงที่ได้รับการตีพิมพ์) ซึ่งจำเป็นต้องมีนโยบาย และมีการตรวจสอบการตรงตามมาตรฐาน เวิร์กสเตชันเหล่านี้จะใช้รูปคงที่และซอฟต์แวร์ทั้งหมดบนเครื่องที่ได้รับการจัดการอย่างเต็มรูปแบบ เมื่อต้องการลดความเสี่ยงให้น้อยที่สุด ให้อนุญาตเฉพาะกิจกรรมที่เลือกเท่านั้น และผู้ใช้ไม่สามารถหลีกเลี่ยงดีไซน์ของเวิร์กสเตชันของผู้ดูแลระบบโดยไม่ตั้งใจได้ เนื่องจากผู้ใช้ไม่มีสิทธิ์ของผู้ดูแลระบบบนกล่อง เพื่อที่จะปกป้องเวิร์กสเตชันมากขึ้นไปอีก การเข้าถึงทั้งหมดจะต้องใช้สมาร์ทการ์ด และการเข้าถึงแต่ละเวิร์กสเตชันจะต้องถูกจำกัดไว้เฉพาะชุดผู้ใช้ที่เจาะจงเท่านั้น

สุดท้าย เรายังรักษาบัญชี “ฉุกเฉิน” ไว้เล็กน้อยจำนวนหนึ่ง (น้อยกว่าห้าบัญชี) บัญชีเหล่านี้จะต้องได้รับการสำรองสำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น และได้รับการรักษาความปลอดภัยโดยขั้นตอน “ฉุกเฉิน” ที่มีหลายขั้นตอน การใช้งานบัญชีเหล่านั้นจะถูกตรวจสอบ และทริกเกอร์การแจ้งเตือน

การตรวจหาภัยคุกคาม

พวกเราได้ตรวจสอบโดยอัตโนมัติหลายครั้งเป็นประจำทุกๆ สองสามนาทีเพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าทุกสิ่งทุกอย่างทำงานตามที่เราได้คาดไว้ แม้ในขณะที่เราได้เพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ที่ลูกค้าของเราจำเป็นต้องใช้:

• การตรวจหาการละเมิด: เราตรวจสอบหารูปแบบที่จะระบุการละเมิด เรายังคงเพิ่มชุดการตรวจหาอยู่เป็นประจำ เรายังใช้การทดสอบอัตโนมัติที่ทริกเกอร์รูปแบบเช่นนี้ ดังนั้นเรายังได้ตรวจสอบว่าตรรกะของการตรวจหาการละเมิดยังคงทำงานได้อย่างถูกต้องอีกด้วย!
  
• การทดสอบเจาะระบบ: การทดสอบจะทำงานตลอดเวลา การทดสอบเหล่านี้จะทำทุกอย่างเพื่อละเมิดบริการของเรา และเราก็หวังว่าการทดสอบนี้จะล้มเหลวทุกครั้ง ถ้าการทดสอบประสบความสำเร็จ เราก็จะทราบว่ามีบางอย่างผิดปกติและสามารถแก้ไขได้ทันที
  
• ตรวจสอบ: กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการดูแลจัดการทั้งหมดจะถูกบันทึก กิจกรรมใดก็ตามที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น (เช่น ผู้ดูแลระบบที่สร้างบัญชีที่มีสิทธิ์) จะทริกเกอร์การแจ้งเตือนที่ทำให้เราการตรวจสอบการดำเนินการนั้นอย่างละเอียดเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
  

แล้วเราบอกไปหรือยังว่าเราได้เข้ารหัสลับข้อมูลทั้งหมดของคุณใน Azure AD ใช่ เรามีการเข้ารหัสลับ เราใช้ BitLocker เพื่อเข้ารหัสลับข้อมูลประจำตัวใน Azure AD ทั้งหมด แล้วสายไฟล่ะ เราก็ได้เข้ารหัสลับไว้เช่นกัน! API ของ Azure AD ทั้งหมดนั้นอยู่บนเว็บโดยใช้ SSL ผ่าน HTTPS เพื่อเข้ารหัสลับให้กับข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ Azure AD ทั้งหมดจะได้รับการกำหนดค่าเพื่อใช้ TLS 1.2 เราอนุญาตการเชื่อมต่อขาเข้าทั้ง TLS 1.1 และ 1.0 เพื่อสนับสนุนไคลเอ็นต์จากภายนอก เราปฏิเสธการเชื่อมต่อกับ SSL เวอร์ชันดั้งเดิมทุกเวอร์ชันอย่างชัดเจน ซึ่งรวมถึง SSL 3.0 และ 2.0 การเข้าถึงข้อมูลจะถูกจำกัดผ่านการอนุญาตตามโทเค็น และข้อมูลของแต่ละผู้เช่าจะสามารถเข้าถึงได้โดยบัญชีที่ได้รับอนุญาตในผู้เช่านั้นเท่านั้น นอกจากนี้ API ภายในของเราได้เพิ่มข้อกำหนดเพื่อใช้ไคลเอ็นต์ SSL/การรับรองความถูกต้องของเซิร์ฟเวอร์บนใบรับรองที่เชื่อถือได้และสายการออก

สุดท้ายก่อนจากกัน

มีการส่ง Azure AD สองทางด้วยกัน และโพสต์นี้ได้พูดถึงการรักษาความปลอดภัยและการเข้ารหัสลับสำหรับบริการสาธารณะที่มอบและดำเนินการโดย Microsoft สำหรับคำถามที่คล้ายคลึงกันเกี่ยวกับอินสแตนซ์ของระบบคลาวด์ในระดับประเทศที่ดำเนินการโดยคู่ค้าที่เชื่อถือได้ เรายินดีให้คุณติดต่อกับทีมบัญชีของคุณ

(หมายเหตุ: ให้ถือเป็นกฎทั่วๆ ไปว่า ถ้าคุณจัดการหรือเข้าถึงบริการ Microsoft Online ผ่าน URL ที่ลงท้ายด้วย .com โพสต์นี้จะอธิบายวิธีที่เราปกป้องและเข้ารหัสลับข้อมูลของคุณ)

การรักษาความปลอดภัยข้อมูลของคุณนั้นถือว่ามีความสำคัญระดับสูงสุดสำหรับเราและเราจริงจังกับเรื่องนี้มาก ผมหวังว่าคุณจะพบว่าภาพรวมของการเข้ารหัสลับข้อมูลของเราและโพรโทคอลความปลอดภัยนั้นจะทำให้คุณมั่นใจและมีประโยชน์กับคุณ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

[อัปเดตเมื่อ 10/3/2017 เพื่อเพิ่มข้อมูลเวอร์ชันจำเพาะเกี่ยวกับการใช้ TLS และ SSL ของเรา]

The post วิธีที่เรารักษาความปลอดภัยข้อมูลของคุณใน Azure AD appeared first on Microsoft 365 Blog.

การเข้าถึงตามเงื่อนไขคือหนึ่งในบริการที่เติบโตเร็วที่สุดใน EMS และเรายังคงได้รับคำติชมจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความสามารถใหม่ๆ ที่พวกเขาต้องการให้พวกเราเพิ่ม หนึ่งในคำขอที่ได้รับบ่อยที่สุดก็คือการรองรับ macOS ลูกค้าต้องการมีระบบหนึ่งเดียวที่คงที่ในการรักษาความปลอดภัยการเข้าถึง Office 365 ของผู้ใช้บนทุกแพลตฟอร์มที่พนักงานใช้งานอยู่

ดังนั้น ผมจึงรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้แชร์ว่า Azure Active Directory และ Intune รองรับแพลตฟอร์ม macOS สำหรับการเข้าถึงตามเงื่อนไขอุปกรณ์แล้ว! ตอนนี้ ผู้ดูแลระบบสามารถจำกัดการเข้าถึงบนอุปกรณ์ macOS ที่จัดการโดย Intune ได้โดยใช้การเข้าถึงตามเงื่อนไขอุปกรณ์ ซึ่งยึดตามแนวทางการรักษาความปลอดภัยขององค์กร

ด้วยการเข้าถึงตามเงื่อนไขอุปกรณ์รุ่นตัวอย่างสาธารณะของ macOS คุณจะสามารถ:

• ลงทะเบียนและจัดการอุปกรณ์ macOS โดยใช้ Intune
• ตรวจสอบให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ macOS นั้นเป็นไปตามนโยบายการปฏิบัติตามข้อบังคับขององค์กร
• จำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชันใน Azure AD โดยให้อนุญาตเฉพาะอุปกรณ์ macOS ที่ตรงตามมาตรฐานเท่านั้น

เริ่มต้นใช้งานการเข้าถึงตามเงื่อนไขรุ่นตัวอย่างสาธารณะสำหรับ macOS ได้แล้วโดยปฏิบัติขั้นตอนง่ายๆ สองขั้นตอนนี้:

กำหนดความต้องการการปฏิบัติตามข้อบังคับของอุปกรณ์ macOS ใน Intune

ใช้บริการ Intune ในพอร์ทัล Azure เพื่อสร้างนโยบายการปฏิบัติตามข้อบังคับของอุปกรณ์สำหรับอุปกรณ์ macOS ในไม่กี่คลิก:

กำหนดความต้องการการปฏิบัติตามข้อบังคับสำหรับสภาพการทำงานของอุปกรณ์ คุณสมบัติ และการรักษาความปลอดภัยระบบตามความต้องการขององค์กรคุณ

ไปที่ https://aka.ms/macoscompliancepolicy เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

(หมายเหตุสำคัญ: เพื่อให้ใช้งานการเข้าถึงตามเงื่อนไขบน macOS ได้ จะต้องติดตั้งแอป Intune Company Portal ไว้บนอุปกรณ์ด้วย)

จำกัดการเข้าถึงแอปพลิเคชัน Azure AD สำหรับอุปกรณ์ macOS

สร้างนโยบายการเข้าถึงตามเงื่อนไขที่กำหนดเป้าหมายสำหรับ macOS เพื่อป้องกันแอปพลิเคชัน Azure AD ไปที่การเข้าถึงตามเงื่อนไขภายใต้บริการ Azure AD ในพอร์ทัล Azure เพื่อสร้างนโยบายใหม่สำหรับแพลตฟอร์ม macOS

ไปที่การเข้าถึงตามเงื่อนไขใน Azure Active Directory เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายการเข้าถึงตามเงื่อนไข

หลังจากปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้แล้ว ผู้ใช้ macOS ที่ได้รับผลจากนโยบายจะสามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับ Azure AD ได้ก็ต่อเมื่อ Mac ของพวกเขาตรงตามนโยบายขององค์กรเท่านั้น

เวอร์ชัน OS, แอปพลิเคชัน และเบราว์เซอร์ที่รองรับ

ในรุ่นตัวอย่างสาธารณะ เวอร์ชัน OS, แอปพลิเคชัน และเบราว์เซอร์ต่อไปนี้ได้รับการรองรับบน macOS:

ระบบปฏิบัติการ

• macOS 10.11+

แอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชัน Office 2016 สำหรับ macOS ต่อไปนี้ได้รับการรองรับ:

• Outlook v15.34 และใหม่กว่า
• Word v15.34 และใหม่กว่า
• Excel v15.34 และใหม่กว่า
• PowerPoint v15.34 และใหม่กว่า
• OneNote v15.34 และใหม่กว่า

เบราว์เซอร์

• Safari

ทดลองใช้วันนี้และบอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไร! เราหวังว่าจะได้รับฟังความคิดเห็นของคุณ

ขอแสดงความนับถือ

Alex Simons (Twitter: @Alex_A_Simons)

ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการโปรแกรม

แผนกข้อมูลประจำตัวของ Microsoft

The post การเข้าถึงตามเงื่อนไขของ Azure AD และ Intune รองรับ macOS แล้ว! appeared first on Microsoft 365 Blog.

Outlook สำหรับ iOS และ Android มีภารกิจในการช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้นในทุกที่ด้วยอีเมลและปฏิทินของคุณ ในการเปิดตัวครั้งล่าสุดของเรานี้ เราจะกล่าวถึงหนึ่งใน ฟีเจอร์ที่เป็นที่ต้องการมากที่สุด พร้อมการปรับปรุงประสบการณ์ด้านบุคคลของเรา

ตอนนี้คุณสามารถเพิ่มและแก้ไขผู้ติดต่อได้โดยตรงจาก Outlook บน iOS และ Android เราได้ออกแบบบัตรข้อมูลผู้ติดต่อใหม่ทั้งหมดให้แสดงรายละเอียดได้มากขึ้น เช่น บทสนทนาล่าสุดและไฟล์ที่แชร์ และเปิดใช้งานการโทรและการส่งข้อความกับผู้ติดต่อที่ง่ายดายขึ้น

มาดูรายละเอียดว่ามีอะไรใหม่

เพิ่มหรือแก้ไขผู้ติดต่อได้ทุกที่

ด้วยการอัปเดตล่าสุดของเราตอนนี้คุณสามารถเพิ่มและแก้ไขผู้ติดต่อสำหรับบัญชี Outlook.com และ Office 365 ได้ (การสนับสนุนสำหรับรายชื่อผู้ติดต่อของ Google กำลังจะมีในเร็วๆ นี้)

หากต้องการสร้างผู้ติดต่อใหม่ใน Outlook เพียงไปที่แท็บบุคคลแล้วแตะเครื่องหมาย + นอกจากนี้คุณยังสามารถเพิ่มผู้ติดต่อใหม่ได้โดยตรงจากข้อความหรือเหตุการณ์โดยการแตะชื่อบุคคลแล้วแตะ เพิ่มผู้ติดต่อ ท้ายนี้คุณยังสามารถใช้แถบค้นหาในแท็บบุคคลเพื่อค้นหาและเพิ่มรายชื่อจากไดเรกทอรีของบริษัทของคุณ

เมื่อเพิ่มผู้ติดต่อแล้ว คุณจะสามารถแก้ไขข้อมูลได้โดยการเปิดผู้ติดต่อแล้วแตะที่ปุ่ม แก้ไข การเปลี่ยนแปลงใดๆ ใน Outlook สำหรับ iOS และ Android จะได้รับการซิงค์และจะสามารถใช้งานได้ใน Outlook ทุกเวอร์ชัน

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ติดต่อของคุณได้อย่างรวดเร็ว

บัตรข้อมูลผู้ติดต่อยังได้รับการออกแบบใหม่เพื่อให้รายละเอียดที่สำคัญของผู้ติดต่ออยู่ด้านหน้าและตรงกลาง แตะชื่อในข้อความหรือเหตุการณ์เพื่อเข้าถึงหมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อีเมล และรายละเอียดอื่นๆ เช่น Skype ID หรือรูปภาพของผู้ติดต่อ การแตะหมายเลขโทรศัพท์จะช่วยให้คุณเลือกระหว่างการโทร การส่งข้อความหรือ FaceTiming กับผู้ติดต่อของคุณได้

บัตรข้อมูลผู้ติดต่อใหม่จะแสดงบทสนทนาล่าสุด เอกสารแนบที่แชร์ และการประชุมที่จะมีขึ้นกับบุคคลนั้น

การบันทึกรายชื่อผู้ติดต่อลงในอุปกรณ์ของคุณ

แม้ว่าคุณจะสามารถจัดการรายชื่อผู้ติดต่อของคุณใน Outlook ได้อย่างสมบูรณ์ แต่คุณยังสามารถบันทึกรายชื่อผู้ติดต่อของคุณไปยังแอปรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่แล้วใน iOS และ Android ได้ ซึ่งจะช่วยให้คุณสามารถดูชื่อของผู้ติดต่อได้อย่างง่ายดายเมื่อคุณรับสายหรือข้อความจากผู้ติดต่อ และดูข้อมูลผู้ติดต่อทั้งหมดได้โดยตรงจากแอปรายชื่อผู้ติดต่อในตัว

ลักษณะการทำงานจะแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละแพลตฟอร์มตามความสามารถพื้นฐานของ iOS และ Android

Outlook ใน iOS มีการซิงค์ข้อมูลผู้ติดต่อจาก Outlook ไปยังโทรศัพท์ของคุณแบบทางเดียว การเพิ่มผู้ติดต่อใหม่และการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดควรทำในแอป Outlook จากนั้นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะซิงค์กับแอปรายชื่อผู้ติดต่อในตัวและบริการอีเมลของคุณ ในขณะที่การแก้ไขในแอปรายชื่อผู้ติดต่อจะไม่ซิงค์กลับไปที่ Outlook หรือบริการอีเมล และจะถูกบันทึกทับในครั้งต่อไปที่ Outlook ซิงค์กับแอปรายชื่อผู้ติดต่อ คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการแก้ไขจากในแอปรายชื่อผู้ติดต่อ เมื่อต้องการเปิดใช้งานรหัสประจำตัวผู้โทรกับผู้ติดต่อ Outlook ให้ไปที่บัญชีของคุณในการตั้งค่าแล้วแตะ บันทึกผู้ติดต่อ

Outlook ใน Android สามารถซิงค์ข้อมูลกับแอปรายชื่อผู้ติดต่อได้อย่างสมบูรณ์ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเลือกที่จะเพิ่มผู้ติดต่อใหม่หรือทำการเปลี่ยนแปลงในแอป Outlook หรือใช้แอปรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่แล้วใน Android ได้ การเปลี่ยนแปลงในที่ใดที่หนึ่งจะซิงค์กลับไปที่บริการอีเมลของคุณ หากต้องการเปิดใช้งานการซิงค์ผู้ติดต่อใน Android แบบสมบูรณ์ ให้ไปที่บัญชีของคุณในการตั้งค่าแล้วแตะ ซิงค์รายชื่อผู้ติดต่อ

หากต้องการนำผู้ติดต่อออกในภายหลัง คุณสามารถสลับสวิตช์ใน Outlook แล้วผู้ติดต่อจะถูกนำออกจากสมุดที่อยู่ของคุณ

มีฟีเจอร์ที่ต้องการให้เราเพิ่มใช่ไหม

บอกให้เรารู้ว่าคุณคิดอย่างไรกับประสบการณ์ใหม่ๆ ของบุคคล! หากคุณมีไอเดียอื่นๆ ที่จะทำให้ Outlook ดียิ่งขึ้นสำหรับคุณ คุณสามารถบอกให้เรารู้ได้จาก Outlook โดยตรงโดยไปที่ การตั้งค่า > แนะนำฟีเจอร์

—ทีม Outlook

The post การปรับปรุงด้านบุคคลใน Outlook สำหรับ iOS และ Android appeared first on Microsoft 365 Blog.

ในวันนี้ เรายินดีที่จะประกาศว่า เรากำลังทยอยนำ กลุ่ม ออกใช้งานใน Outlook สำหรับ Mac, iOS และ Android แล้ว กลุ่ม นั้นพร้อมใช้งานอยู่แล้วใน Outlook for Windows และบนเว็บ ในตอนนี้คุณจึงสามารถเข้าถึงการสนทนากลุ่มและเนื้อหาของคุณได้ไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์ใดก็ตาม

ด้วยการอัปเดตเหล่านี้ คุณจะสามารถ:

• ดูรายการกลุ่มของคุณ
• อ่านและตอบกลับการสนทนากลุ่ม
• เพิ่มเหตุการณ์กลุ่มไปยังปฏิทินส่วนตัวของคุณ
• ดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่านที่ส่งไปยังกลุ่ม
• ดูรายละเอียดกลุ่มภายในบัตรกลุ่ม (Outlook สำหรับ iOS และ Android เท่านั้น)

ยังมีอย่างอื่นอีกมากที่จะตามมาขณะที่เราพยายามทำให้ กลุ่ม ดียิ่งขึ้นตามข้อเสนอแนะที่คุณแจ้งถึงเรา ดังนั้นโปรดติดตามดูต่อไป

อัปเดตล่าสุดสำหรับ กลุ่ม ใน Outlook

นอกเหนือจากการเพิ่ม กลุ่ม ให้กับแอป Outlook มากขึ้น เรายังปล่อยฟีเจอร์ใหม่หลายฟีเจอร์สำหรับ กลุ่ม ใน Outlook บนแพลตฟอร์มอื่นด้วยเช่นกัน

มอบการเข้าถึงให้ผู้เยี่ยมชม—เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่แล้ว เราได้อัปเดต Outlook บนเว็บเพื่อให้คุณสามารถตั้งค่าการเข้าถึงของผู้เยี่ยมชมสำหรับผู้คนนอกองค์กรของคุณ ตั้งค่ากระจัดประเภทกลุ่มที่กำหนดโดยผู้ดูแลระบบ Office 365 และดูแนวทางการใช้งาน ในตอนนี้ ความสามารถเหล่านี้ได้พร้อมใช้งานแล้วใน Outlook for Windows

เชิญผู้คนมาเข้าร่วม—หนึ่งในการปรับปรุงที่เราได้รับการร้องขอมากที่สุดคือวิธีที่ง่ายขึ้นในการเชิญผู้คนหลายคนมาเข้าร่วมกลุ่ม เราได้นำฟีเจอร์ การเชิญเข้าร่วม ใน Outlook บนเว็บออกใช้แล้ว ซึ่งช่วยให้คุณสามารถสร้างลิงก์การเชิญและแชร์ไปให้คนอื่นผ่านอีเมลหรือช่องทางอื่น ทำให้พวกเขาสามารถเข้าร่วมกลุ่มได้อย่างรวดเร็ว

ลบหลายการสนทนา—ในตอนนี้เจ้าของกลุ่มสามารถเลือกการสนทนาหลายการสนทนาแล้วลบทั้งหมดออกจากพื้นที่การสนทนากลุ่มใน Outlook for Windows ได้แล้ว

ส่งอีเมลเป็นกลุ่ม—ผู้ดูแลระบบ Office 365 สามารถมอบสิทธิ์การส่งในฐานะและการส่งในนามของให้แก่สมาชิกของกลุ่มที่ใช้งานศูนย์การจัดการ Exchange ได้ สมาชิกกลุ่มที่มีสิทธิ์เหล่านี้จะสามารถส่งอีเมลเป็นกลุ่มหรือในนามของกลุ่มจาก Outlook for Windows และ Outlook บนเว็บได้

มีอะไรอีก

เรารับฟังคำติชมของคุณทุกครั้งที่เราเพิ่มความสามารถใหม่ของ กลุ่ม ให้กับ Outlook อยู่ตลอด ต่อไปนี้คือส่วนหนึ่งของคำร้องขอสำคัญที่เราจะจัดการต่อไป:

• เพิ่มการนัดหมายไปยังปฏิทินกลุ่มใน Outlook for Windows—เมื่อเพิ่มเหตุการณ์ไปยังปฏิทินกลุ่ม คุณจะมีตัวเลือกให้ทำเช่นนั้นโดยไม่ต้องส่งคำเชิญไปให้ทุกคนในกลุ่ม
• การเพิ่มที่ติดต่อทางจดหมายในฐานะผู้เยี่ยมชม—คุณจะสามารถเพิ่มที่ติดต่อทางจดหมายลงในไดเรกทอรีของบริษัทในฐานะผู้เยี่ยมชมของกลุ่มได้อย่างง่ายดาย

ขอบคุณสำหรับคำติชม และโปรดส่งมาเพิ่มได้ทางไซต์ UserVoice ของเรา

—ทีม Outlook

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม เมื่อการสนับสนุน กลุ่ม ถูกเพิ่มลงใน Outlook สำหรับ iOS และ Android แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับแอป Outlook Groups แบบสแตนด์อโลน

ตอบ ลูกค้าได้ส่งคำติชมบอกเราว่าพวกเขาอยากให้ กลุ่ม พร้อมใช้งานได้โดยตรงใน Outlook สำหรับ iOS และ Android แอป Outlook Groups จะยังคงพร้อมใช้งานขณะที่เรากำลังปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน กลุ่ม ใน Outlook เช่น การเพิ่มการสนับสนุนสำหรับไฟล์ ปฏิทิน และบันทึกย่อของกลุ่ม

ถาม ทำไมฉันจึงยังไม่เห็น กลุ่ม

ตอบ เรากำลังทยอยนำ กลุ่ม ออกใช้งานใน Outlook สำหรับ Mac, iOS และ Android และจะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่มีสิทธิ์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แม้คุณจะกำลังใช้งาน Outlook สำหรับ Mac, iOS และ Android รุ่นล่าสุด แต่ กลุ่ม ก็จะพร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ที่เข้าร่วมอยู่แล้วหรือถูกเพิ่มลงกลุ่มเท่านั้น เมื่อเราเพิ่มความสามารถในการสร้างและเข้าร่วมกลุ่มบน Mac, iOS และ Android แล้ว ผู้ใช้ Office 365 ทุกคนจะเห็น กลุ่ม ใน Outlook

ถาม กลุ่ม พร้อมใช้งานสำหรับผู้ใช้ Outlook.com หรือไม่

ตอบ กลุ่ม มีไว้สำหรับผู้ใช้เชิงพาณิชย์ของ Office 365 และจะไม่พร้อมใช้งานใน Outlook.com

ถาม ทำไมฉันไม่เห็นกลุ่มทั้งหมดของฉันใน Outlook for Mac

ตอบ ในขณะนี้ Outlook for Mac แสดงเพียง 10 กลุ่มที่คุณใช้งานบ่อยที่สุดใน Outlook for Mac เท่านั้น โดยเราจะทำให้กลุ่มทั้งหมดถูกแสดงขึ้นมาในอัปเดตในอนาคต

ถาม แล้ว Outlook for Windows 10 Mobile ล่ะ

ตอบ เรากำลังหาวิธีที่ดีที่สุดในการรวม กลุ่ม ลงใน Outlook for Windows 10 Mobile อยู่ ในระหว่างนั้น แอป Outlook Groups สำหรับ Windows 10 Mobile จะช่วยให้ลูกค้าตามทันกิจกรรมของกลุ่มอยู่เสมอ ซึ่งรวมถึงการสนทนา ไฟล์ ปฏิทิน และบันทึกย่อ

ถาม ฉันจะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดการ กลุ่ม ใน Outlook สำหรับองค์กรของฉันได้ที่ใด

ตอบ ถ้าคุณมีหน้าที่รับผิดชอบการจัดการและสนับสนุน Outlook สำหรับบริษัทของคุณ ลองดูคู่มือ มืออาชีพด้าน IT และดูการปรับปรุงใหม่ล่าสุดที่เพิ่งนำออกใช้สำหรับการจัดการ กลุ่ม ของเรา

ถาม ต่อไปจะมีอะไรใหม่สำหรับ กลุ่ม

ตอบ คอยติดตามที่ แผนการทำงานของ Office 365 เพื่อดูว่าจะมีอะไรมาใหม่

The post ขอแนะนำ กลุ่ม ใน Outlook สำหรับ Mac, iOS และ Android appeared first on Microsoft 365 Blog.

• เพิ่มปฏิทิน Office 365 ของคุณลงใน Bookings—เชื่อมต่อปฏิทิน Office 365 ของคุณกับ Bookings เพื่อบล็อกเวลาที่คุณไม่ว่างโดยอัตโนมัติในหน้าการจองสาธารณะของคุณ
• เพิ่มเวลาเตรียมตัวก่อนและหลังการนัดหมายของคุณ—คุณต้องการเวลาเตรียมตัวก่อนและหลังการนัดหมายใช่ไหม การเพิ่มเวลาเตรียมตัวลงในบริการจะบล็อกเวลานั้นโดยอัตโนมัติในหน้าการจองของคุณเช่นกัน
• แอป Bookings สำหรับโทรศัพท์ iOS และ Android ของคุณ—ขณะนี้คุณสามารถจองการนัดหมาย ติดต่อลูกค้าหรือตรวจสอบการนัดหมายของสมาชิกพนักงานขณะที่ไม่อยู่ที่สำนักงานได้แล้ว
• กำหนดหน้าการจองของคุณเอง—เราได้เพิ่มตัวเลือกการกำหนดเองที่มีสีสันมากขึ้น เพื่อให้คุณสามารถปรับแต่งหน้าการจองของคุณได้ดียิ่งขึ้น

ความสามารถใหม่เหล่านี้จะเริ่มแสดงขึ้นโดยอัตโนมัติใน Bookings ในสัปดาห์ถัดไปนี้ มาดูลักษณะของสิ่งใหม่ๆ โดยละเอียดกันเถอะ

เพิ่มปฏิทิน Office 365 ของคุณลงใน Bookings

หนึ่งในคำติชมที่เราได้รับมากที่สุดคือคุณต้องการเพิ่มกิจกรรมจากปฏิทิน Office 365 ของคุณลงใน Bookings ดังนั้น เราจึงเพิ่มการรวมระหว่างปฏิทินเหล่านี้เพื่อช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการจองการประชุมกับลูกค้าระหว่างเวลาที่คุณตั้งไว้สำหรับการนัดหมายส่วนตัว การประชุมกับพนักงานและคู่ค้า หรือแง่มุมอื่นๆ ในการดำเนินธุรกิจของคุณ

เมื่อต้องการเพิ่มปฏิทิน Office 365 ลงใน Bookings ให้คลิกแท็บ พนักงาน บนแผงการนำทางด้านซ้าย บนหน้ารายละเอียดพนักงาน ให้เลือกกล่องกาเครื่องหมาย กิจกรรมบนปฏิทิน Office 365 มีผลต่อความพร้อมทำงาน

เพิ่มกิจกรรมบนปฏิทิน Office 365 ลงใน Bookings

เมื่อคุณเปิดใช้งานตัวเลือกนี้ ระบบจะบล็อกเวลาที่ไม่ว่างบนปฏิทิน Bookings และบนหน้าการจองด้วยตนเองที่ลูกค้าของคุณเห็นโดยอัตโนมัติ ดังนั้น คุณจะไม่ถูกจองซ้ำ ในทำนองเดียวกัน พนักงานของคุณจะไม่ถูกจองซ้ำเช่นกัน คุณจึงสามารถเพิ่มปฏิทิน Office 365 ของพวกเขาได้

เพิ่มเวลาเตรียมตัวระหว่างการนัดหมาย

บางบริการอาจมีการนัดหมายที่ต่อเนื่องกัน แต่คำติชมอื่นที่คุณส่งถึงเราเป็นจำนวนมากคือบริการจำนวนมากของคุณจำเป็นต้องมีการเดินทาง การเตรียมตัวและ/หรือการเตรียมการล่วงหน้า และเวลาทำความสะอาดและเวลาเดินทางเมื่อส่งมอบบริการเรียบร้อยแล้ว สำหรับลูกค้าที่ต้องการสิ่งเหล่านี้ เราได้เพิ่มเวลาเตรียมตัวเพื่อให้คุณมีตัวเลือกเพิ่มเติมในการกำหนดค่าบริการที่คุณส่งมอบ

เมื่อต้องการเพิ่มเวลาเตรียมตัว ให้คลิกแท็บ บริการ ในคอลัมน์นำทางด้านซ้ายและแก้ไขบริการปัจจุบันหรือสร้างบริการใหม่ เปิดตัวสลับทางด้านล่างของ เวลาเตรียมตัวที่ลุกค้าของคุณไม่สามารถจองได้ และคุณจะสามารถเลือกเวลาเตรียมตัวที่สามารถนำไปใช้ก่อนและหลังการนัดหมายบริการ เวลาเหล่านี้คือเวลาที่ลูกค้าของคุณไม่สามารถจองการนัดหมายกับคุณก่อนและหลังการนัดหมายได้

คุณสามารถเปิดตัวเลือก “เวลาเตรียมตัว” ในแท็บบริการ

แอปสำหรับ iOS และ Android

เราทราบดีว่าการติดตามธุรกิจของคุณขณะที่คุณไม่อยู่ที่โต๊ะทำงานเป็นสิ่งสำคัญ ดังนั้น เราจึงสร้างแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการการจองและพนักงานของคุณ หรือเข้าถึงรายชื่อลูกค้าของคุณขณะที่คุณกำลังเดินทาง

หลังจากที่คุณดาวน์โหลดแอป Bookings บน iOS และ Android แล้ว คุณสามารถใช้โทรศัพท์ของคุณเพื่อ:

• ดูและจัดการปฏิทิน Bookings ของคุณ
• สร้างและแก้ไขการจอง
• ดูความพร้อมทำงานและตำแหน่งที่พนักงานของคุณอยู่แบบเรียลไทม์
• ตอบกลับลูกค้าด้วยการจองอย่างรวดเร็วและง่ายดาย
• ดูเส้นทางไปยังการจองถัดไปของคุณ
• เข้าถึงรายชื่อลูกค้าของคุณ

กำหนดค่าหน้าการจองของคุณ

หน้าการจองของคุณควรมีลักษณะและให้ความรู้สึกคล้ายกับส่วนขยายของธุรกิจของคุณ และจะต้องแสดงด้านบวกของแบรนด์ของคุณ

เพื่อให้คุณได้รับสิ่งนี้ เราจึงเพิ่มตัวเลือกให้กำหนดค่าได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเลือกสีหลักสำหรับหน้าการจองของคุณจากชุดสี และเลือกว่าคุณจะแสดงโลโก้ธุรกิจของคุณหรือไม่

เมื่อต้องการกำหนดค่าหน้าของคุณ ให้คลิก หน้าการจอง ในรายการนำทางด้านซ้าย แล้วเลือกสีที่คุณต้องการ ถ้าคุณไม่ต้องการแสดงโลโก้ของคุณ ให้ยกเลิกการเลือกกล่องกาเครื่องหมาย แสดงโลโก้ธุรกิจของคุณบนหน้าการจองของคุณ เมื่อคุณทำเสร็จแล้ว ให้คลิก บันทึกและเผยแพร่

ใช้แท็บหน้าการจองเพื่อกำหนดค่าหน้าการจองของคุณ อย่าลืมคลิก บันทึกและเผยแพร่ เพื่อเก็บการเปลี่ยนแปลงของคุณ

วิธีการเริ่มต้นใช้งาน Bookings

Bookings จะรวมอยู่ในการสมัครใช้งาน Office 365 Business Premium ทั้งหมด และเริ่มต้นใช้งานได้อย่างง่ายดาย เมื่อต้องการทำให้การจัดกำหนดการงานของลูกค้าสำหรับธุรกิจของคุณง่ายขึ้น เพียงลงชื่อเข้าใช้ Office 365 แล้วคลิกชื่อ Bookings บนตัวเปิดใช้งานแอป ถ้าคุณไม่เห็นชื่อ Bookings แสดงว่าเราอาจยังอยู่ในกระบวนการเผยแพร่บริการในภูมิภาคของคุณ—ดังนั้น ให้ตรวจสอบในภายหลัง ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม บทความ “ทักทาย Microsoft Bookings” มีภาพรวมคร่าวๆ ของวิธีการใช้ Bookings

เมื่อคุณลงชื่อเข้าใช้ Office 365 คุณสามารถค้นหาตัวเปิดใช้แอปได้ที่มุมซ้ายบน

Bookings ถูกออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าของคุณประทับใจ ทำให้การจัดกำหนดการง่ายขึ้น และทำให้คุณมีเวลาว่างในการติดตามธุรกิจของคุณ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดก็ตาม คำติชมของคุณมีประโยชน์อย่างมาก โปรดส่งคำติชมเสมอโดยการคลิกที่ลิงก์คำติชมที่อยู่บนหน้าแรกของ Bookings

—ทีม Bookings

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม ทำไมฉันจึงมองไม่เห็น Bookings

ต เรากำลังเผยแพร่ Bookings ในทุกภูมิภาคและอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์เพื่ออัปเดตให้กับลูกค้าทุกคน ถ้าคุณลงชื่อเข้าใช้ประสบการณ์การใช้งานเว็บ Office 365 ของคุณอยู่แล้ว โปรดลองลงชื่อออกแล้วลงชื่อเข้าใช้อีกครั้ง

ถาม ทำไมฉันจึงไม่เห็นฟีเจอร์ใหม่ที่กล่าวถึงที่นี่ อย่างเช่น การรวมปฏิทิน Office 365 และเวลาเตรียมตัว

ต เรากำลังเปิดใช้งานความสามารถใหม่เหล่านี้สำหรับผู้ใช้ Bookings ทั้งหมด แต่การเผยแพร่อาจใช้เวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์เพื่อให้เสร็จสมบูรณ์

ถาม บุคคลภายนอกบริษัทของฉันจะมองเห็นกำหนดการและการประชุมของฉันหรือไม่

ต ไม่ Bookings จะใช้ข้อมูลว่าง/ไม่ว่างของปฏิทิน Office 365 ของคุณเพื่อบล็อกเวลานั้นเท่านั้น ดังนั้น คุณจะไม่ถูกจองซ้ำ

ถาม ฉันใช้ Facebbok เป็นเว็บเพจของธุรกิจของฉัน ฉันสามารถใช้ Bookings ได้หรือไม่

ต ได้ ในเดือนตุลาคม เราได้ประกาศวิธีการเชื่อมต่อ Microsoft Bookings กับหน้า Facebook ของคุณและดำเนินการธุรกิจของคุณ

ถาม ฉันจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์ใหม่ได้อย่างไร

ต หน้าการสนับสนุน Microsoft Bookings ของเรามีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Bookings

ถาม Bookings จะพร้อมใช้งานสำหรับลูกค้า Enterprise (E3 และ E5) หรือไม่

ต เราตั้งใจที่จะนำ Bookings ไปยังลูกค้า E3 และ E5 ในอนาคต

ถาม ฉันจะดาวน์โหลดแอป Bookings ได้ที่ใด

ต แอป Bookings สำหรับ iOS จะพร้อมใช้งานใน App Store แอป Bookings สำหรับ Android จะพร้อมใช้งานใน Google Play ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา และจะเผยแพร่ไปทั่วโลกภายในไม่กี่สัปดาห์

Q. ฉันจะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำให้กระบวนการการจองของฉันง่ายขึ้นได้ที่ใด

A. อ่าน eBook “4 วิธีในการทำให้กระบวนการการจองการนัดหมายของคุณง่ายขึ้น” ของเราเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติม

The post เหตุผลใหม่ๆ ที่ทำให้ Microsoft Bookings เป็นซอฟต์แวร์การจัดกำหนดการเดินทางสำหรับธุรกิจของคุณ appeared first on Microsoft 365 Blog.

เรายินดีที่จะประกาศความพร้อมใช้งานทั่วโลกขออง Microsoft StaffHub ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันใหม่สำหรับ Office 365 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือพนักงานให้จัดการวันทำงานของพวกเขา ด้วยการจัดการกำหนดการ การแชร์ข้อมูล และความสามารถในการเชื่อมต่อกับแอปและแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานอื่นๆ

จัดการกำหนดการ

Microsoft StaffHub จะช่วยให้ผู้จัดการสร้าง อัปเดต และจัดการกะทำงานสำหรับทีมของพวกเขาได้ง่ายขึ้น ทำให้กระบวนการแรงงานที่ยุ่งยากง่ายขึ้น

พนักงานจะสามารถเข้าถึงข้อมูลกะทำงานของพวกเขาทั้งหมด รวมทั้งสามารถสลับกะทำงานกับคนอื่นได้อย่างง่ายดายจากแอป Microsoft StaffHub สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ต้องไปที่ห้องพักในที่ทำงานแล้วดูที่กระดานข่าวอีกต่อไป

ผู้จัดการสร้าง อัปเดต และจัดการกะทำงานสำหรับทีม

Employees สามารถดูกะทำงานที่กำลังจะมาถึงของพวกเขาได้ทันทีบนอุปกรณ์เคลื่อนที่และสามารถขอสลับกะทำงานกับคนอื่นได้

หน้าจอหลักของแอปจะมีข้อมูลสรุปของกะทำงานที่กำลังจะมาถึงและบันทึกย่อที่สำคัญ พนักงานยังสามารถดูบุคคลที่มีกำหนดการในแต่ละวัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากถ้าพวกเขาต้องการทราบว่าพวกเขาต้องทำงานร่วมกับใครหรือถ้าพวกเขาต้องการแลกกะทำงาน

เมื่อกำหนดการขัดแย้งกัน Microsoft StaffHub จะช่วยให้การแลกกะทำงานหรือมอบหมายกะทำงานให้คนอื่นได้ง่ายขึ้น คำขอจะถูกส่งถึงผู้จัดการเพื่อขอการอนุมัติเสมอ และการอัปเดตและการแจ้งเตือนจะถูกส่งให้กับทีมโดยอัตโนมัติ

แชร์ข้อมูล

เมื่อใช้ Microsoft StaffHub ผู้จัดการจะสามารถเผยแพร่ข้อมูลสำคัญให้กับทีมของพวกเขาได้อย่างรวดเร็ว เช่น เอกสารนโยบาย ข่าวสารหรือวิดีโอใหม่ๆ ผู้จัดการยังมีวิธีง่ายๆ ในการส่งข้อความด่วนถึงสมาชิกทีม ตัวอย่างเช่น เมื่อต้องการบอกให้พนักงานทราบว่า “มีน้ำหกอยู่บนพื้น” หรือ “ผู้จัดการประจำภูมิภาคจะมาถึงใน 20 นาที” เพียงแตะชื่อของพนักงานแล้วพิมพ์ข้อความ พนักงานยังสามารถส่งข้อความถึงคนอื่นหรือทั้งกลุ่มได้โดยตรง

ผู้จัดการสามารถเลือกเนื้อหาที่พวกเขาต้องการเผยแพร่ให้กับทีมของพวกเขา

พนักงานสามารถดูไฟล์บนแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่

เชื่อมต่อกับแอปและแหล่งข้อมูลอื่นๆ

บริษัทมักจะใช้ระบบและเครื่องมือหลายอย่างเพื่อช่วยจัดการแรงงานของพวกเขา และเราต้องการทำให้ Microsoft StaffHub เชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่เหล่านี้ได้ง่ายขึ้น เรายินดีที่จะประกาศว่า StaffHub สนับสนุนการเชื่อมต่อกับ Kronos ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโซลูชันการจัดการแรงงานและการจัดการทรัพยากรบุคคลบนระบบคลาวด์ชั้นนำ ในช่วงแรก การรวมนี้จะทำให้ผู้จัดการสามารถนำเข้าข้อมูลกำหนดการของแต่ละบุคคลและทีมจากแพลตฟอร์มแรงงานส่วนกลางของ Kronos ลงใน Microsoft StaffHub ได้โดยตรง ฟังก์ชันการทำงานนี้จะเริ่มต้นในรุ่นตัวอย่างส่วนบุคคลไปจนถึงกลุ่มขนาดเล็กของ Office 365 และลูกค้า Kronos คอยติดตามข้อมูลเพิ่มเติม!

Microsoft StaffHub ยังสนับสนุนให้ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดลิงก์แบบกำหนดเองสำหรับให้พนักงานดูข้อมูลในแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ ซึ่งสามารถชี้ไปยังแหล่งข้อมูลหรือไซต์สำคัญ เช่น ระบบ HR สำหรับการรายงานการหยุดงาน หรือไปยังแอปพลิเคชันแบบกำหนดเอง ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องมือ เช่น Microsoft PowerApps ผู้จัดการยังสามารถส่งออกข้อมูลกำหนดการของทีมเป็นไฟล์ .csv เพื่อใช้ในระบบอื่นๆ

ขั้นตอนถัดไป

Microsoft StaffHub พร้อมใช้งานแล้วสำหรับลูกค้า Office 365 ที่มีแผน K1, E1, E3 หรือ E5 ผู้จัดการทีมสามารถลงชื่อเข้าใช้ที่ staffhub.ms และพนักงานสามารถดาวน์โหลดแอปบน iOS หรือ Android

สำหรับรายละเอียดเชิงลึกของ Microsoft StaffHub ให้ดูวิดีโอนี้:

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม แผน Office 365 ใดบ้างที่มี Microsoft StaffHub

ตอบ StaffHub จะพร้อมใช้งานเป็นส่วนหนึ่งของแผน Office 365 K1, E1, E3 และ E5 (รวมถึงเวอร์ชันการศึกษาของแผนเหล่านี้)

ถาม ฉันจะเข้าถึง Microsoft StaffHub ได้อย่างไร

ตอบ Microsoft StaffHub จะเริ่มพร้อมใช้งานบนเว็บและสำหรับแอป iOS และ Android ซึ่งพร้อมใช้งานแล้วใน 15 ภาษาต่อไปนี้: ภาษาจีนประยุกต์, ภาษาอังกฤษ (สหรัฐอเมริกา), ภาษาสเปน, ภาษารัสเซีย, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาบราซิล-โปรตุเกส, ภาษาเยอรมัน, ภาษาเกาหลี, ภาษาอิตาลี, ภาษาจีนดั้งเดิม, ภาษาดัตช์, ภาษาตุรกี, ภาษาสวีเดน และภาษาเดนมาร์ก

ถาม สมาชิกทีมแต่ละคนต้องมีบัญชี Office 365 เพื่อใช้ Microsoft StaffHub หรือไม่

ตอบ ใช่ สมาชิกทีมแต่ละคนและผู้จัดการที่ใช้ Microsoft StaffHub ต้องมีบัญชี Office 365

ถาม ฉันสามารถปิด Microsoft StaffHub สำหรับบริษัทของฉันได้หรือไม่

ตอบ Microsoft StaffHub จะเปิดตามค่าเริ่มต้น และผู้ดูแลระบบ IT สามารถปิดสำหรับองค์กรของพวกเขาได้ตลอดเวลาโดยไปที่ staffhub.ms/admin แล้วตั้งค่า เปิดใช้งาน Microsoft StaffHub เป็น ปิด

The post Microsoft StaffHub อยู่นี่แล้ว! appeared first on Microsoft 365 Blog.

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกคนจะสามารถสร้างไซต์ทีม SharePoint ที่เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 จากหน้าแรก SharePoint ใน Office 365 และทำได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ผู้ดูแลจะควบคุมวิธีที่ความสามารถใหม่เหล่านี้ปรากฏขึ้นสำหรับผู้ใช้ของพวกเขา และการปรับแต่งไซต์ตามที่ธุรกิจต้องการยังทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ในตอนนี้ ไม่ว่าผู้ใช้จะสร้างกลุ่ม Office 365 (จาก Outlook, Microsoft Teams, Yammer และอื่นๆ) จากที่ใด พวกเขาจะได้รับไซต์ทีม SharePoint Online ที่ทันสมัยและเต็มประสิทธิภาพเสมอ

ในการทำงานร่วมกันเป็นทีม ผู้คนจำเป็นต้องรู้จักปรับตัว เชื่อมต่อกับผู้อื่น และคล่องแคล่ว ในยุคสมัยใหม่นี้ การที่เครื่องมือในการทำงานอย่าง SharePoint Online และกลุ่ม Office 365 มีคุณสมบัติเหล่านี้ด้วยเช่นกันเป็นสิ่งที่จำเป็น

เรามาเจาะลึกลงไปถึงรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีที่เราเชื่อมต่อไซต์ใหม่ๆ กับกลุ่มและทำให้การเริ่มต้นเป็นไปได้อย่างรวดเร็วกันดีกว่า

ผู้ใช้สร้างไซต์ที่เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 จากโฮมเพจ SharePoint อย่างรวดเร็ว

เมื่อพูดถึงการจัดการข้อมูลและการสร้างแอปทางธุรกิจแล้ว ผู้คนมักจะหันเข้าหาไซต์ทีม SharePoint เพื่อสร้างบทความข่าวสารแบบมัลติมีเดีย จัดการเอกสาร ติดตามข้อมูลในรายการ และอื่นๆ อีกมากมาย ผู้ใช้สามารถสร้างไซต์ทีม SharePoint Online ที่เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 ได้โดยการคลิกที่ปุ่ม สร้างไซต์ บนโฮมเพจ SharePoint ใน Office 365 ตัวช่วยสร้างสองขั้นตอนจะปรากฏขึ้นมาทางด้านขวา ขั้นตอนที่หนึ่ง: ใส่ชื่อเรื่องของไซต์ทีม เลือกว่าจะให้กลุ่มเป็นส่วนตัวหรือสาธารณะ เลือกการจัดประเภทไซต์ จากนั้นคลิก ถัดไป ขั้นตอนที่สอง: ใส่เจ้าของและสมาชิก คลิก เสร็จสิ้น เท่านี้ก็เรียบร้อย ไซต์ทีม SharePoint Online สมัยใหม่สามารถเตรียมและพร้อมใช้งานได้ภายในไม่กี่วินาที

ตัวช่วยสร้าง สร้างไซต์ เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 และสร้างไซต์ทีม SharePoint Online ได้ในไม่กี่วินาที

ผู้ดูแลจะควบคุมว่าวิธีการสร้างไซต์ทีมเป็นอย่างไรจากหน้าแรก SharePoint

แล้วการจัดการฟังก์ชันสร้างไซต์ล่ะ ผู้ดูแล SharePoint Online สามารถควบคุมความพร้อมใช้งานของผู้ใช้และลักษณะการทำงานของปุ่ม สร้างไซต์ บนหน้าแรก SharePoint และผู้ดูแลส่วนกลางของ Office 365 สามารถควบคุมวิธีที่การจัดประเภทไซต์ปรากฏขึ้นมาเพื่อไฮไลต์คำแนะนำการใช้งานให้แก่ผู้ใช้ได้พร้อมๆ กัน

การตั้งค่าการสร้างไซต์ที่ได้รับการอัปเดตสามารถพบได้ในศูนย์การจัดการ SharePoint Online ภายในแท็บ ตั้งค่า ประสบการณ์ใหม่นี้จะให้ผู้ใช้สามารถสร้างไซต์ที่รวมกลุ่ม Office 365 อยู่ด้วยโดยการคลิกที่ปุ่ม สร้างไซต์ บนโฮมเพจ SharePoint ที่จะเปิดตัวช่วยสร้างการสร้างไซต์ขึ้นมา ถ้าคุณได้เปิดใช้งาน เริ่มต้นไซต์ ดั้งเดิมสำหรับผู้ใช้ของคุณอยู่แล้ว เราแนะนำให้คุณตรวจทานการตั้งค่าใหม่เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกตัวเลือกที่ตรงตามความต้องการของธุรกิจของคุณ

ผู้ดูแลควบคุมวิธีที่การสร้างไซต์ทำงานโดยใช้การตั้งค่า การสร้างไซต์ ภายในศูนย์การจัดการ SharePoint Online ของพวกเขา

ผู้ดูแลสามารถจัดการได้ว่าจะให้การสร้างไซต์ปรากฏขึ้นมาหรือไม่ และเมื่อให้ปรากฏขึ้นมา ผู้ดูแลสามารถปรับว่าจะให้ใครบ้างเห็นปุ่มสร้างไซต์ และจะให้ประสบการณ์การเตรียมใช้งานเป็นอย่างไร (คลาสสิก สมัยใหม่ หรือกำหนดเอง)

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการการสร้างไซต์ใน SharePoint Online นอกจากนี้ ผู้ดูแลยังสามารถควบคุมลักษณะเพิ่มเติมของกลุ่ม Office 365 ได้อีกด้วย เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีจัดการกลุ่ม Office 365

ปรับแต่งไซต์ทีมตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นและเปลี่ยนไป

ขณะที่ประสบการณ์ทั้งหมดของไซต์ทีม SharePoint Online กลายเป็นสมัยใหม่มากขึ้น ผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งการตั้งค่าที่ใช้งานบ่อยได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องคลิกหลายครั้งเพื่อไปยังหน้าการตั้งค่าแบบคลาสสิก แต่สามารถทำงานให้สำเร็จได้อย่างคล่องตัวภายในบริบทของสิ่งที่กำลังทำอยู่

โฮมเพจที่แก้ไขได้

สร้างไซต์ของคุณให้ตรงตามความต้องการของทีม ขณะนี้โฮมเพจของไซต์ทีมสามารถแก้ไขได้แล้ว นี่หมายความว่าคุณสามารถเข้าโหมด แก้ไข และเพิ่ม เอาออก หรือจัดลำดับ Web Part ต่างๆ ในไซต์ของคุณได้ คุณต้องการเห็นการเปิดตัวของเนื้อหาบางอย่างเกี่ยวกับหัวข้อเฉพาะทางหรือไม่ เพิ่ม Web Part เนื้อหาที่เน้น เลือกเกณฑ์การกรอง แล้วดูขณะที่เนื้อหาเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาไปตามผลลัพธ์การค้นหา ต้องการเพิ่มการสนทนาฟอรัมกลุ่มหรือไม่ ผสม Web Part ของ Yammer ลงไปเพิ่ม Web Part จำนวนมากได้พร้อมใช้งานแล้ว และยังมีอีกมากมายที่จะตามมาภายหลัง ในทำนองเดียวกัน ขณะที่คุณกำลังเพิ่มและปรับแต่ง คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่าหน้าและ Web Part จะดูดีจากทั้งบนเว็บและบนมือถือ (ภายในแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint)

เมื่ออยู่ในโหมดแก้ไข ผู้ใช้สามารถใช้กล่องเครื่องมือเพื่อเพิ่ม Web Part ใหม่ๆ ไปยังโฮมเพจของตัวเองได้

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ การใช้ Web Part ในหน้า

การสร้างแผงสมัยใหม่สำหรับไลบรารีและรายการใหม่

เราได้ทำให้ประสบการณ์สำหรับการสร้างรายการและไลบรารีเอกสารใหม่ทันสมัยยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มคุณค่าลงในไซต์ทีมของพวกเขาได้จากส่วนบนของโฮมเพจไซต์ทีมโดยตรง แทนที่จะต้องคลิกหลายๆ ครั้ง คลิก + ใหม่ เลือกส่วนประกอบใหม่จากเมนูดรอปดาวน์ จากนั้นตัวช่วยสร้างจะปรากฏขึ้นมา

คลิก + ใหม่ > รายการ เพื่อ นำแผงการสร้างแบบอินไลน์ขึ้นมาให้รายละเอียด จากนั้นคลิก สร้าง

การแก้ไขการนำทางในสถานที่

เรายังได้นำเสนอการแก้ไขแบบอินไลน์ขององค์ประกอบการนำทางอีกเช่นกัน นี่คือฟีเจอร์ที่ดีที่ช่วยเจ้าของไซต์ผลักดันให้สมาชิกทุกคนค้นหาและใช้ประโยชน์จากความสามารถทั้งหมดของไซต์

เพิ่มลิงก์ URL ใหม่ไปยังการนำทางด้านซ้ายมือและปรับแต่งวิธีและตำแหน่งที่ลิงก์แสดงขึ้นมาในการนำทางด้านซ้ายมืออย่างง่ายดาย

แก้ไขข้อมูลไซต์

ขณะที่ความต้องการเปลี่ยนไป ตัวอย่างเช่น เวลาโค้ดเนมของโครงการกำลังจะได้รับชื่อสาธารณะสุดท้าย เราจึงได้สร้างวิธีใหม่ในการแก้ไขคุณสมบัติไซต์โดยไม่ต้องออกจากโฮมเพจให้กับประสบการณ์ในไซต์ทีมสมัยใหม่ แผงการแก้ไขพร้อมใช้งานสำหรับไซต์กลุ่ม Office 365 ที่เชื่อมต่อกัน ซึ่งเข้าถึงได้จากเมนูรูปเกียร์บนด้านขวาบน แผงนี้อนุญาตให้เจ้าของสามารถอัปเดตชื่อไซต์ คำอธิบาย ระดับความเป็นส่วนตัว และการจัดประเภทได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นที่นี่จะแสดงในกลุ่มด้วยเช่นกัน หมายเหตุ: เราจะเอาการตั้งค่าไซต์ออกจากเกียร์ และเพื่อเป็นการทดแทน เราจะแสดงข้อมูลไซต์เพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ธรรมดาที่สุด และจากแผงนี้ ผู้ใช้จะได้รับลิงก์ไปยังหน้าการตั้งค่าไซต์แบบเต็มถ้าพวกเขาต้องการกำหนดค่าขั้นสูงกว่านั้น

แก้ไขสิทธิ์การใช้งานไซต์

นอกเหนือจากข้อมูลไซต์ เจ้าของไซต์อาจต้องการปรับปรุงระดับการเข้าถึงที่สมาชิกกลุ่มมีเมื่อทำงานในไซต์ทีม ด้วยเหตุนี้ เราจึงจะนำแผงสิทธิ์การใช้งานไซต์สำหรับกลุ่ม Office 365 ที่เชื่อมต่อกันมาใช้ ซึ่งเข้าถึงได้จากเมนูรูปเกียร์ด้านบนขวาเช่นกัน เราคิดว่าเจ้าของกลุ่มสาธารณะจะพึงพอใจเป็นพิเศษกับความง่ายดายในการตัดสินใจว่าผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกควรมีสิทธิ์ในการแก้ไขเต็มที่หรือไม่ หรือการเข้าถึงแบบสาธารณะควรถูกจำกัดให้อ่านได้อย่างเดียวหรือไม่

มอบโฮมเพจสมัยใหม่ให้กับไซต์แบบคลาสสิกของคุณ

ขณะนี้คุณสามารถสร้างหน้าที่ทันสมัยในไซต์ทีมแบบคลาสสิกและระบุให้เป็นโฮมเพจสมัยใหม่ได้แล้ว คุณเพียงต้องไปที่ไลบรารี หน้าไซต์ ภายในเนื้อหาของไซต์ สร้างหน้าใหม่ที่ทันสมัยและเพิ่ม Web Part ใดก็ตามที่เหมาะสมกับด้านหน้าของไซต์ทีม เมื่อหน้าเป็นตามที่คุณต้องการแล้ว ให้เลือกหน้านั้นจากในไลบรารี หน้าไซต์ และเลือก ทำโฮมเพจ จากแถบคำสั่งด้านบน ไซต์แบบคลาสสิกของคุณเพิ่งจะได้รับการแต่งเติมแบบสมัยใหม่

เลือก ทำโฮมเพจ เพื่อระบุว่าหน้าสมัยใหม่เป็นหน้าแรกในไซต์ทีมแบบคลาสสิก

เราหวังว่าจะได้รับคำติชมจากคุณ

ไซต์ทีม SharePoint Online และกลุ่ม Office 365 ได้นำการทำงานร่วมกันกับเนื้อหาที่รวมกันไปอีกระดับ และยังมีอีกมากมายที่จะตามมาภายหลัง ซึ่งจะทำให้ง่ายต่อการสร้าง ใช้ และจัดการเนื้อหาและข้อมูลตลอดทั้งวงจรชีวิตของการทำงาน เราหวังว่าจะได้รับคำติชมในทุกขั้นตอนจากคุณ โปรดแชร์ความคิดของคุณในส่วนของ SharePoint ใน ชุมชนทางเทคนิคของ Microsoft และส่งไอเดียของคุณมาที่ หน้า SharePoint UserVoice และเราจะคอยจับตาดูทวีตถึง @SharePoint อยู่เสมอ แจ้งให้เราทราบ

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม แผนการเปิดตัวของความสามารถสร้างไซต์ใหม่บนหน้าแรก SharePoint ใน Office 365 คืออะไร

ตอบ ในสัปดาห์นี้ เราจะเริ่มจากการอัปเดตการตั้งค่า เริ่มต้นไซต์ ในศูนย์การจัดการ SharePoint สำหรับลูกค้าการวางจำหน่ายครั้งแรกก่อน การตั้งค่าใหม่จะถูกเปลี่ยนชื่อเป็น การสร้างไซต์ และผู้ดูแลจะสามารถตัดสินใจได้ว่าพวกเขาต้องการให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การสร้างไซต์ใหม่หรือไม่ จากนั้นความสามารถของผู้ใช้ในการสร้างไซต์สมัยใหม่ที่เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 จะเปิดให้ใช้งานในสัปดาห์ถัดไป

ถาม จะเกิดอะไรขึ้นถ้าบริษัทของฉันได้สร้างโซลูชันการเตรียมใช้งานไซต์คอลเลกชันที่กำหนดเองไว้แล้ว

ตอบ ถ้าคุณได้สร้างโซลูชันการเตรียมใช้งานไซต์คอลเลกชันที่กำหนดเองไว้แล้ว คุณจะสามารถเก็บรักษาเอาไว้ได้เมื่อคุณเลือกกล่องกาเครื่องหมาย ใช้ฟอร์มนี้ใน URL นี้: เรากำลังพยายามอัปเดตคำแนะนำของ SharePoint Patterns and Practices (PnP) เพื่อให้คุณสามารถเตรียมใช้งานไซต์ทีมสมัยใหม่ที่เชื่อมต่อกับกลุ่ม Office 365 (แทนที่จะเป็นไซต์คลาสสิก) คุณจะสามารถทำอย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างเป็นระบบตามความต้องการของคุณ

The post สร้างไซต์ทีม SharePoint Online ที่เชื่อมต่อกันภายในไม่กี่วินาที appeared first on Microsoft 365 Blog.

มีอะไรใหม่

การช่วยให้ผู้คนแชร์ไฟล์และทำงานร่วมกันบนเนื้อหาคือหัวใจสำคัญของพันธกิจของเรามาโดยตลอด นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เราสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับไลบรารีเอกสารที่รวดเร็ว ใช้งานง่ายและโต้ตอบได้มากขึ้น

มาดูว่ามีอะไรใหม่:

ประสบการณ์การใช้ไลบรารีเอกสารแบบใหม่ที่ทันสมัย แสดงเอกสารสองรายการและลิงก์ที่ปักหมุดอยู่ด้านบน

ส่วนติดต่อผู้ใช้

ไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยจะรวมประสิทธิภาพของ SharePoint และประโยชน์ของ OneDrive ไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยมีส่วนติดต่อผู้ใช้ที่ได้รับการอัปเดตที่มีการใช้งานคล้ายกับ OneDrive ดังนั้น จึงใช้สร้างโฟลเดอร์ใหม่และอัปโหลดไฟล์ในเบราว์เซอร์ได้ง่ายขึ้น Ribbon ถูกแทนที่ด้วยแถบคำสั่งตัดแต่ง ซึ่งมีคำสั่งอัจฉริยะที่เกี่ยวข้องกับงานที่ทำอยู่ ถ้าองค์กรของคุณมี Ribbin แบบกำหนดเองที่มีปุ่มฟังก์ชันการทำงานทางธุรกิจที่สำคัญในบริษัทของคุณ ปุ่มเหล่านั้นจะแสดงในแถบคำสั่งเช่นกัน ด้วยการอัปเดตนี้ กลุ่ม Office 365 ใหม่แต่ละกลุ่มจะได้รับไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยเต็มรูปแบบ แทนที่หน้า “ไฟล์” แบบเดิม

เน้นเอกสารสำคัญอย่างง่ายดาย เพียงคลิก ปักหมุดไว้ด้านบน เพื่อเพิ่มเอกสาร “เก็บไว้ด้านบน” ในมุมมองใดก็ตามบนหน้าจอ

คัดลอกและย้ายไฟล์จากแถบคำสั่ง การคัดลอกไม่ใช่สิ่งใหม่ แต่ท่าทางคัดลอกและย้ายมีความอัจฉริยะเกี่ยวกับการแสดงข้อมูลของคุณและช่วยให้คุณสร้างโฟลเดอร์ใหม่ระหว่างเดินทางได้

คัดลอกไฟล์จากแถบคำสั่งของ SharePoint

นำเข้าไฟล์จากไลบรารีอื่น คุณอาจไม่ต้องทำสำเนาหลายๆ ฉบับอีกต่อไป ไลบรารีเอกสารยังมีความอัจฉริยะเกี่ยวกับการจดจำไฟล์อื่นๆ ที่คุณเคยใช้ใน SharePoint นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คุณสามารถนำเข้าไฟล์อื่นๆ จากไลบรารีอื่นเป็นลิงก์ โดยไม่ต้องทำซ้ำไฟล์ระหว่างหลายไซต์ คุณจะยังคงเห็นรูปขนาดย่อและเมตาดาต้าสำหรับไฟล์ในโปรแกรม และ SharePoint จะแสดงรายการเอกสารล่าสุดของคุณ ดังนั้น คุณจึงไม่ต้องตัดและวางลิงก์

สร้างลิงก์ในไลบรารีเอกสารที่ทันสมัย

การปรับแต่งให้เป็นส่วนบุคคล

มุมมองแบบส่วนบุคคลที่ใช้งานง่ายขึ้น ไลบรารีเอกสารแบบใหม่จะทำให้คุณสามารถจัดกลุ่มไฟล์ได้โดยตรงในหน้าหลักโดยไม่ต้องคลิกหน้าจอดูแลระบบที่แยกต่างหาก คุณยังสามารถคลิกและลากเพื่อเปลี่ยนขนาดของคอลัมน์ของคุณ เช่นเดียวกับเรียงลำดับ กรอง และจัดกลุ่มจากส่วนหัวของคอลัมน์ใดก็ได้ เมื่อต้องการทำให้บุคคลอื่นในไลบรารีสามารถใช้มุมมองได้ เพียงคลิก บันทึกมุมมอง

การออกแบบที่โต้ตอบและเข้าถึงได้ เบราว์เซอร์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนไหวมีฟีเจอร์เหมือนกับบนเดสก์ท็อป ทำให้ประ SharePoint มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ใช้ทุกคน ไม่จะเป็นการโต้ตอบด้วยเมาส์ คีย์บอร์ด หรือโปรแกรมอ่านหน้าจอ

เมตาดาต้า

เมตาดาต้าของเอกสารพร้อมใช้งานแบบอินไลน์แล้ว คุณสามารถแก้ไขเมตาดาต้าได้โดยตรงจากมุมมองหลักในแผงข้อมูล ไม่ต้องคลิกหลายๆ หน้าจอเพื่อนำการอัปเดตไปใช้อีกต่อไป! ถ้าคุณอยู่ในมุมมองที่จัดกลุ่มไฟล์ตามเมตาดาต้า คุณสามารถลากและวางไฟล์ระหว่างกลุ่มเพื่ออัปเดตเมตาดาต้า และถ้าคุณพลาดบางอย่างที่สำคัญ เอกสารจะไม่ถูกซ่อนหลังจากการเช็คเอาท์ คุณจะได้รับการแจ้งเตือนให้ใส่ข้อมูลเมื่อคุณทำได้

ค้นหาทุกอย่างเกี่ยวกับเอกสารของคุณในที่เดียว ขอบคุณการรวม Office Online คุณสามารถนำทางในตัวอย่างเอกสารที่สมบูรณ์ได้ทางด้านบนของแผงข้อมูล แผงจะมีเมตาดาต้า รวมถึงประวัติของกิจกรรมล่าสุด การอัปเดตของไฟล์ และบุคคลที่ได้รับการแชร์ไปยังไฟล์ คุณยังสามารถเพิ่มผู้ใช้อื่นๆ หรือหยุดการแชร์ทั้งหมดได้ทันที สุดท้าย คุณสมบัติไฟล์ทั้งหมดจะถูกแสดง ในกรณีที่มีบางอย่างที่ไม่ถูกครอบคลุม

แผงข้อมูลของเอกสาร

รับรองความถูกต้องของ SharePoint อยู่เสมอ ในขณะที่เราเพิ่มประสิทธิภาพของไลบรารีเอกสารเพื่อทำให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราทราบว่าการทำงานของ SharePoint ทำให้คุณสามารถกำหนดค่าไลบรารีเอกสารเพื่อทำงานสำหรับทีมของคุณมาโดยตลอด ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีการใช้ชนิดเนื้อหา การเช็คอิน/เช็คเอาท์ การกำหนดเวอร์ชัน การจัดการระเบียน และเวิร์กโฟลว์แบบดั้งเดิมที่สมบูรณ์ใน SharePoint ไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยมีทุกอย่างเหล่านี้

การนำทาง

ไลบรารีที่ทันสมัยมาถึงกลุ่ม Office 365 เมื่อต้องการนำการจัดการเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพไปใช้จัดกลุ่มไฟล์ ไลบรารีที่อยู่ในกลุ่ม Office 365 จะต้องมีตัวควบคุมหัวเรื่องแบบใหม่ที่ด้านบนของหน้า ไม่เหมือนกับตัวควบคุมแบบเก่า ที่มีลิงก์ไปยังการสนทนาของกลุ่ม ปฏิทินและการจัดการสมาชิก ตัวควบคุมแบบใหม่จะมีเพียงลิงก์เดียวไปยังการสนทนาของกลุ่ม ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้นำทางไปยังปฏิทินและการจัดการสมาชิก

เริ่มต้นใช้งานไลบรารีเอกสารที่ทันสมัย

เมื่อเราเริ่มสร้างไลบรารีที่ทันสมัย เราทราบว่าการเน้นปัจจัยสำคัญของการจัดการประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้โดยรวมเป็นสิ่งสำคัญ

เนื่องจากการใช้งานต้องสามารถจัดการได้ เราจึงให้ฝ่าย IT ควบคุมประสบการณ์การใช้งาน คุณอาจพร้อมที่จะปรับใช้ทันทีหรือคุณอาจต้องการอยู่ในโหมดคลาสสิกจนกว่าผู้ใช้ของคุณจะพร้อม เราจะทำให้คุณสามารถควบคุมการใช้งานแบบคลาสสิกและแบบทันสมัยได้อย่างเต็มรูปแบบที่ผู้เช่า ไซต์คอลเลกชัน และระดับไลบรารี

เมื่อเราสร้างไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยภายหลังในเดือนมิถุนายน ไลบรารีจะกลายเป็นค่าเริ่มต้นใหม่สำหรับไลบรารีทั้งหมดในสถานการณ์ส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เราจะเพิ่มตัวควบคุมผู้เช่าและดูแลระบบไว้ล่วงหน้าก่อนที่จะเผยแพร่ไลบรารีจริง ดังนั้น ถ้าคุณเลือกที่จะยกเลิก คุณสามารถทำได้ก่อนที่ผู้ใช้จะเริ่มเห็นประสบการณ์การใช้งานแบบใหม่ เรายังมีการตรวจหาการกำหนดค่า ดังนั้น ถ้าเราเห็นฟีเจอร์และการกำหนดค่าบางอย่างที่ไม่สามารถใช้งานได้ในประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัย เราจะย้อนกลับไปยังโหมดคลาสสิกโดยอัตโนมัติ

และเราจะยังคงเปิดให้ใช้งานโหมดคลาสสิกในปี 2017 ขณะที่ผู้ใช้และนักพัฒนาปรับตัวและปรับใช้ความสามารถแบบใหม่ ดูบทความของ support.office.com “ไลบรารีเอกสารคืออะไร” สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม

ยังมีสิ่งอื่นอีกมากมายที่รออยู่

ลูกค้าของรุ่นวางจำหน่ายครั้งแรกได้ใช้ฟีเจอร์เหล่านี้ตั้งแต่เดือนเมษายน และคำติชมของพวกเขาได้แนะนำการปรับปรุงที่เราประกาศในวันนี้ คุณสามารถเข้าร่วมการสนทนาบน เครือข่าย Office 365 บน Yammer และคิดเกี่ยวกับการปรับปรุงที่จะเป็นส่วนหนึ่งของรุ่นวางจำหน่ายทั่วไป สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอนาคตของไซต์ทีมที่นอกเหนือจากการใช้งานไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยแบบใหม่ ให้อ่าน “SharePoint—อินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะ”

เราทราบถึงคำติชมของคุณเกี่ยวกับการเพิ่มฟังก์ชันและการกำหนดค่าเฉพาะ และเรามีข้อมูลเพิ่มเติมที่จะแชร์ในการอัปเดตในอนาคต เราวางแผนที่จะเพิ่มการสนับสนุนการกำหนดค่าหน้าโดยใช้เทคนิคที่ทันสมัย จนกว่าจะถึงตอนนั้น ควรใช้หน้าไลบรารีแบบกำหนดเองในโหมดคลาสสิก

ในระหว่างนี้ ให้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานและการสนับสนุนไลบรารีใน “ไลบรารีเอกสารคืออะไร” ทดลองใช้ไลบรารีเอกสารแบบใหม่ใน SharePoint Online และส่งคำติชมเกี่ยวกับการใช้งานไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยถึงเราโดยตรงด้วยปุ่ม คำติชม

ขอขอบคุณที่เลือกใช้ SharePoint

—Chris McNultyy, @cmcnulty2000, ผู้จัดการผลิตภัณฑ์อาวุโสของทีม SharePoint

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม ไลบรารีเอกสารแบบใหม่จะสนับสนุนการกำหนดค่าเองหรือไม่

ตอบ ใช่ ไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยจะยังคงสนับสนุน CustomActions แบบอธิบายที่แสดงการดำเนินการเมนูและคำสั่ง โซลูชันที่ใช้งานอยู่ที่ใช้กลไกนี้ควรทำงานได้เหมือนเดิม โดยมีการดำเนินการปรากฎขึ้นในพื้นที่คำสั่งใหม่ นอกเหนือจาก Ribbon ในโหมดคลาสสิก CustomActions ที่ใช้สคริปท์ JSLinks และ Web Part เพิ่มเติมบนหน้ายังไม่ได้รับการสนับสนุน ในระหว่างนี้ สภาพแวดล้อมที่จำเป็นต้องใช้ฟีเจอร์ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเหล่านี้ควรใช้โหมดคลาสสิกต่อไปก่อน

ถาม โหมดคลาสสิกจะได้รับการสนับสนุนถึงเมื่อใด

ตอบ เราทราบถึงความต้องการในการทดสอบและเตรียมพร้อมสำหรับความยุ่งยากใดก็ตามของการใช้งานของผู้ใช้ เช่น ไลบรารีเอกสาร เราคาดว่าจะเปิดให้ใช้ทั้งสองโหมดนี้พร้อมกันในปี 2017

ถาม การใช้งานที่ทันสมัยเหล่านี้จะมาพร้อมกับเซิร์ฟเวอร์ภายในองค์กรหรือไม่

ตอบ การนำประสบการณ์การใช้งานที่ทันสมัยไปใช้กับ SharePoint Server 2016 คือหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์ของเราและเป็นส่วนสำคัญของแผนการทำงาน ในขณะนี้ เรายังไม่มีข้อมูลที่จะแจ้งให้ทราบว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อใด

ถาม Internet Explorer เวอร์ชันใดบ้างที่ทำงานกับไลบรารีที่ทันสมัยได้ดีที่สุด

ตอบ SharePoint Online สนับสนุนเบราว์เซอร์ Safari, Firefox, Chrome และ Edge เวอร์ชันล่าสุด และ Internet Explorer 10 และ 11 โดยทั่วไป Internet Explorer เวอร์ชันเก่าจะไม่ได้รับการสนับสนุนแล้ว Internet Explorer 8 และ 9 เคยถูกระบุเป็น “ฟังก์ชันการทำงานถูกลด” ใน SharePoint Online มาก่อนหน้านี้ ผู้ใช้เบราว์เซอร์เวอร์ชันเก่าเหล่านี้จะยังคงสามารถใช้โหมดคลาสสิก แต่เราขอแนะนำให้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันที่ได้รับการสนับสนุน

The post ไลบรารีเอกสารที่ทันสมัยใน SharePoint appeared first on Microsoft 365 Blog.

ลูกค้าที่ต้องการประเมินความสามารถของ Project Server 2016 สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชันทดลองใช้ได้ที่เว็บไซต์นี้

คุณค่า Project Server 2016

Project Server 2016 มอบคุณค่าในพื้นที่ต่อไปนี้:

• วิวัฒนาการของการจัดการทรัพยากร—Project Server 2016 ขอแนะนำโมเดลการโต้ตอบแบบใหม่ระหว่างผู้จัดการโครงการและผู้จัดการทรัพยากร ฟีเจอร์ใหม่นี้เรียกว่า การตกลงเกี่ยวกับทรัพยากร ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการประสานงานและทำงานเกี่ยวกับทรัพยากรและโครงการที่ต้องใช้เวลา นอกจากนี้ ผู้จัดการทรัพยากรยังได้รับฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่าแผนที่คลื่นความร้อนแสดงกำลังการผลิตและการมีส่วนร่วม ซึ่งจะแสดงมุมมองภาพของขีดจำกัดด้านทรัพยากรของพวกเขา เพื่อให้พวกเขาสามารถตัดสินใจจัดสรรได้ สามารถพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับฟีเจอร์เหล่านี้ได้ที่โพสต์ล่าสุดของบล็อก
• ประสิทธิภาพและขนาดรองรับที่ได้แรงบันดาลใจจากระบบคลาวด์—จากมุมมองด้านวิศวกรรม Project Server ถูกเขียนขึ้นด้วยโค้ดเดียวกับที่เราใช้ในบริการ Cloud ของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราได้เรียนรู้จากการให้บริการ Cloud ที่มีขนาดพอเหมาะกับการใช้งานของเราใน Office 365 ได้ถูกนำมาใช้เป็นรากฐานในการปรับปรุงการทำงาน การประยุกต์ใช้ และประสิทธิภาพของ Project Server 2016 การเผยแพร่ครั้งนี้เป็นผลลัพธ์จากการปรับปรุงที่เราได้ใช้ในบริการ Cloud เช่น การจัดกำหนดการแบบรวม การปรับใช้ตามประสิทธิภาพและขนาดให้เหมาะสม เป็นต้น
• การรวมโครงสร้างพื้นฐาน—ใน Project Server 2016 ข้อมูลโครงการทั้งหมดจะถูกจัดเก็บรวมกับข้อมูล SharePoint ในฐานข้อมูลเนื้อหาของ SharePoint ทำให้การจัดการฟาร์ม SharePoint สะดวกยิ่งขึ้น เนื่องจากไม่จำเป็นต้องคอยดูแลรักษาฐานข้อมูลสำหรับแต่ละไซต์ของ Project Web App (PWA) อีกต่อไป ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้าน IT และปรับปรุงการสำรองข้อมูลและการกู้คืนข้อมูลอีกด้วย
• ความง่ายในการปรับใช้—ตัวติดตั้ง Project Server 2016 ถูกรวมเข้ากับ SharePoint Server 2016 Enterprise โดยสมบูรณ์ ทำให้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งแยกกันเหมือนกับเวอร์ชันก่อนหน้า
• การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้—ผู้ใช้ PWA บนเบราว์เซอร์จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ๆ เช่น ความสามารถในการเพิ่มหลายไทม์ไลน์ลงในศูนย์กลางโครงการ หรือจัดกำหนดการหน้าต่างๆ เช่นเดียวความสามารถในการกำหนดช่วงวันที่หรือลักษณะของไทม์ไลน์เหล่านี้

เรียนรู้เพิ่มเติมใน เอกสาร TechNet ของ Project Server 2016 เรายินดีรับคำติชมผ่านฟอรัม UserVoice และ ช่องทางทางสังคม ของเรา

The post Project Server 2016—กำเนิดในระบบคลาวด์ appeared first on Microsoft 365 Blog.

หมายเหตุจากบรรณาธิการ 2/6/2016:
โพสต์ถูกอัปเดตเพื่อแสดงการเปิดตัวของหน้าเนื้อหาของไซต์ใหม่สำหรับลูกค้าของการวางจำหน่ายครั้งแรก

อินทราเน็ตคือจุดศูนย์กลางของหลายๆ องค์กรในฐานะสถานที่ที่พนักงานสามารถรับข่าวสารและข้อมูลของบริษัท และค้นหาผู้คนและเนื้อหาต่างๆ

ในตอนนี้ เราจะทำให้อินทราเน็ตกลายเป็นประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น เป็นที่ที่คุณต้องการเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องการ ขอต้อนรับสู่อินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะ อินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะนำประสิทธิภาพในการทำงานของไซต์ทีม SharePoint มารวมกับความกว้างขวางในการเข้าถึงของไซต์การประกาศและพอร์ทัลและสิ่งที่จำเป็นต่อองค์กรของแอปพลิเคชันทางธุรกิจที่สำคัญที่สุดของคุณ โดยครอบคลุมตั้งแต่จากในองค์กรไปถึง Office 365 และเข้าถึงได้จากเดสก์ท็อปและโทรศัพท์มือถือของคุณ ทั้งหมดนี้ขับเคลื่อนโดย Office Graph ดังนั้นข้อมูลจึงเป็นฝ่ายเข้ามาหาคุณ แทนที่คุณจะต้องไปค้นหาข้อมูลเอง

วันนี้ เราได้นำเสนอ อนาคตของ SharePoint ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิสัยทัศน์และนวัตกรรมของเรา รวมถึงแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ใหม่ หน้าแรก SharePoint ใน Office 365 ใหม่ ไซต์ทีมสมัยใหม่กับกลุ่ม Office 365 การเขียนหน้าอย่างตอบสนอง และอัปเดตสำหรับไลบรารีเอกสารและรายการ เรายังนำเสนอการรวม SharePoint กับ Microsoft PowerApps และ Microsoft Flow อีกด้วย เรากำลังทุ่มเทเพื่อพัฒนาอินทราเน็ตของคุณให้เข้าถึงได้ง่ายขึ้นขณะกำลังยุ่งและเป็นส่วนตัวมากขึ้น ด้วยเนื้อหาที่ชาญฉลาดซึ่งยึดตามกิจกรรมของคุณจากทั่วทั้งไซต์ ผู้คนที่คุณทำงานด้วย และเนื้อหาที่คุณทำงาน

ดูวิดีโอ Microsoft Mechanics โดย Adam Harmetz ผู้จัดการหัวหน้ากลุ่มโปรแกรมของทีมวิศวกรรม SharePoint เพื่อดูการทำงานของอินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะ:

เจาะลึกลงไปรายละเอียดกันดีกว่า…

อินทราเน็ตในกระเป๋าของคุณ

ตัดการเชื่อมโยงกับแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint

ถึงเวลาตัดการเชื่อมโยงกับแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ซึ่งจะทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับเนื้อหา ไซต์ พอร์ทัล และผู้คนที่สำคัญได้จากอินทราเน็ตของคุณขณะกำลังยุ่ง

รับความสามารถเต็มพิกัดของ SharePoint บนโทรศัพท์ของคุณ แอปใหม่นี้อัดแน่นไปด้วยข้อมูลจาก Office Graph เพื่อช่วยให้คุณนำทางได้อย่างรวดเร็วไปยังเนื้อหาและผู้คนที่สำคัญต่อคุณที่สุด

• แท็บไซต์จะพาคุณไปยังไซต์ของคุณ ไซต์ล่าสุด และไซต์ที่ติดตาม ที่ซึ่งคุณสามารถติดตามกิจกรรมของไซต์ นำทางด้วยการใช้การเปิดใช้งานด่วน หรือดูไฟล์ล่าสุด
• แท็บลิงก์จะพาคุณไปยังไซต์และพอร์ทัลที่โปรแกรมไว้สำหรับทุกคนในบริษัท
• แท็บผู้คนจะให้คุณเข้าถึงผู้คนที่คุณทำงานด้วยและการมองเห็นไปยังงานที่พวกเขากำลังทำอยู่
• การค้นหาพร้อมใช้งานทั่วทั้งระบบด้วยผลลัพธ์การค้นหาที่ดูง่ายซึ่งถูกกรองตามไซต์ ไฟล์ และผู้คน

แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint บน Windows และ Android

ผู้ใช้สามารถมีได้หลายบัญชีทั้งแบบออนไลน์และในองค์กร และสามารถสลับไปมาระหว่างบัญชีได้อย่างง่ายดาย

แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint for iOS, แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint for Android และ แอป SharePoint for Windows 10 Mobile พร้อมใช้งานแล้ว และอัปเดตในอนาคตที่วางแผนไว้แล้วของแอปจะนำข่าวสารและประกาศของบริษัทมาถึงอุปกรณ์ของคุณ

สัมผัสหน้าแรก SharePoint ใน Office 365

หน้าแรก SharePoint ใหม่สร้างพื้นที่สำหรับ SharePoint บนเว็บใน Office 365 ซึ่งให้คุณสามารถค้นหาและสร้างไซต์ได้อย่างรวดเร็ว และเหมือนแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ที่ประสบการณ์ของเว็บหน้าแรก SharePoint จะให้คุณค้นหาและสำรวจสถานที่ ข้อมูล และผู้คนต่างๆ ที่คุณต้องการเพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างง่ายดาย

ผู้ใช้เพียงคลิกช่อง SharePoint จากตัวเปิดใช้แอป Office 365 ที่แต่เดิมเป็นช่องไซต์แต่มีโลโก้เดียวกัน เพื่อเปิดใช้ประสบการณ์ของผู้ใช้ซึ่งได้รับการออกแบบใหม่ให้ทันสมัยและตอบสนองมากขึ้น ด้วยข้อมูลและกิจกรรมของไซต์ที่โดดเด่นอยู่ด้านหน้า

เมื่อเข้ามาถึงหน้าแรก SharePoint ของคุณ คุณจะเห็นไซต์และพอร์ทัลที่คุณใช้งานบ่อยที่สุดพร้อมกับไซต์ที่แนะนำโดย Office Graph และไซต์ระดับบริษัทที่แนะนำโดยบริษัทของคุณ ซึ่งเป็นอินทราเน็ตของทั้งองค์กร นี่ก็เป็นหัวใจของการค้นหาขององค์กรเช่นกัน เริ่มพิมพ์ลงในกล่องค้นหาด้านซ้ายบนและคุณจะเห็นผลลัพธ์ที่จัดระเบียบไว้ให้ดูง่ายและแสดงให้เห็นเป็นภาพ

หน้าแรก SharePoint ใน Office 365 เข้าถึงโดยคลิกช่อง SharePoint ในตัวเปิดใช้แอป Office 365

หนึ่งแอป หนึ่งเว็บ หนึ่งคลิก และแตะเพียงอีกหนึ่งครั้ง แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint และหน้าแรก SharePoint คือ “เกตเวย์” ใหม่ในการสัมผัส SharePoint ของคุณ เป้าหมายของเราคือการทำให้การนำทางในอินทราเน็ตบนทุกอุปกรณ์ของคุณง่ายดายและรวดเร็ว เพื่อให้คุณสามารถติดตามไซต์ งาน และผู้คนใน SharePoint และ Office 365 ที่สำคัญต่อคุณ

เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint และประสบการณ์เว็บหน้าแรก SharePoint ให้ดูวิดีโอ Microsoft Mechanics ใหม่ “อินทราเน็ตในกระเป๋าของคุณ: แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint” โดย Andy Haon ผู้จัดการหัวหน้ากลุ่มโปรแกรมของทีมวิศวกรรม SharePoint เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีค้นหาไซต์และพอร์ทัลใน Office 365

ไซต์ทีมสมัยใหม่

ไซต์ทีม + กลุ่ม Office 365—อย่างแรก หน้าแรกของไซต์ทีมที่อัปเดตแล้วคือทางที่เร็วที่สุดในการค้นหาและแสดงเนื้อหาที่มีความเกี่ยวข้องและสำคัญที่สุด สมาชิกทีมสามารถปักหมุดเนื้อหาและข่าวสารไว้บนหน้าแรกสุดได้ ด้วยข้อมูลจาก Office Graph สมาชิกทีมสามารถดูกิจกรรมของผู้คนและเนื้อหาล่าสุดได้ หน้าแรกของไซต์ทีมให้จุดเข้าใช้งานที่อัปเดตแล้วไปยังที่ที่สมาชิกทีมทำงานและนำไปใช้งานได้กับไซต์ทีมทั้งใหม่และเก่า

ในตอนนี้ผู้ใช้สามารถสร้างไซต์ทีมได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว และทุกกลุ่มในกลุ่ม Office 365 จะได้รับประสิทธิภาพทั้งหมดของไซต์ทีม SharePoint Online ตั้งแต่เริ่มต้น เราได้ลดเวลาที่ต้องใช้ในการสร้างไซต์ทีมลงอย่างมาก โดยตั้งเป้าไว้ที่ “ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที” ลำดับการเตรียมใช้งานและค่าขององค์รวมนำไปสู่การสร้างของกลุ่ม Office 365 ใน Azure Activity Directory (AAD) เช่นเดียวกับการก่อตั้งนโยบายการกำกับดูแลและการควบคุมการปฏิบัติตามกฎระเบียบสำหรับการจัดประเภทไซต์

หน้าแรกของไซต์ทีม SharePoint Online นำเอกสารสำคัญและกิจกรรมไซต์มาไว้ด้านหน้า ด้วยการมองเห็นที่ชัดเจนของกลุ่มที่เกี่ยวข้องในกลุ่ม Office 365 และสมาชิก

ไซต์ทีมเดียวกันเมื่อเข้าถึงผ่านแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ใหม่

ประสบการณ์ไลบรารีเอกสารสมัยใหม่—ลัักษณะที่สองซึ่งเป็นหัวใจที่แท้จริงของไซต์ทีมคือไลบรารีเอกสาร สถานที่ที่ปลอดภัยในการสร้าง แชร์ และจัดระเบียบไฟล์ของทีม อัปเดตนี้สร้างบนคุณค่าหลักที่ผู้คนหันมาพึ่งพาหลายต่อหลายปี ซึ่งเพิ่มประสบการณ์ของผู้ใช้และความสามารถใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสม่ำเสมอในการทำงานกับไฟล์ทั่วทั้ง Office 365 ขณะที่ยังคงประสิทธิภาพทั้งหมดของไลบรารีเอกสาร SharePoint เอาไว้

เราเน้นที่การช่วยเหลือทีมของคุณให้เริ่มทำงานได้ในทันทีและไฮไลต์สิ่งที่สำคัญที่สุด

ใช้ ปักหมุดที่ด้านบน เพื่อเพิ่มการมองเห็นและการตรวจพบสำหรับเอกสาร วิดีโอ และอื่นๆ ที่สำคัญไว้ที่บนสุดของไลบรารีเอกสารสำหรับผู้ใช้ทุกคน คุณยังสามารถเพิ่มลิงก์ลงในไลบรารีเอกสารของ Office 365 ไปยังรายการที่ตั้งอยู่นอกไลบรารีเอกสารได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเพิ่มลิงก์ลงในไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ตั้งอยู่ในไลบรารีเอกสารหรือเว็บไซต์อื่น เมื่อคุณเพิ่มลิงก์ลงในไลบรารีเอกสาร ลิงก์จะแสดงขึ้นมาในรายการในไลบรารีนั้นพร้อมกับไอคอนลูกโลกเว็บเพื่อระบุว่าเป็นรายการที่ถูกลิงก์

เพื่อช่วยให้คุณค้นหาและจัดการรายการ ในตอนนี้คุณสามารถจัดลำดับและกรองคอลัมน์ได้แล้ว นอกจากนี้ ผลลัพธ์การค้นหาด้วยข้อความทั้งหมดใหม่ในเวลาจริงจะปรากฏในประสบการณ์ของไลบรารีเอกสารโดยตรงพร้อมกับการจัดการเมตาดาต้าที่รวดเร็วและอินไลน์ และสุดท้าย เมื่อทีมจำเป็นต้องนำไฟล์เข้ามาจาก OneDrive for Business หรือเผยแพร่ไฟล์ระหว่างไลบรารีเอกสาร ผู้ใช้สามารถคลิก ย้ายไปยัง หรือ คัดลอกไปยัง เพื่อย้ายหรือคัดลอกไฟล์ไปยังตำแหน่งที่ตั้งอื่นใน Office 365 โดยไม่สร้างเวอร์ชันที่ไม่จำเป็นของไฟล์เดียวกัน

ประสบการณ์การใช้ไลบรารีเอกสารแบบใหม่ที่ทันสมัย แสดงเอกสารสองรายการและลิงก์ที่ปักหมุดอยู่ด้านบน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ ไลบรารีเอกสารของ SharePoint Online ได้รับการอัปเดตอย่างไรบ้าง

ประสบการณ์รายการสมัยใหม่—แล้วการจัดการข้อมูลที่มีโครงสร้างใน SharePoint Online เป็นอย่างไรบ้าง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ลูกค้าได้ใช้รายการสำหรับทุกอย่างตั้งแต่เพื่อติดตามปัญหาทางวิศวกรรมไปจนถึงเพื่อจัดการเซสชันของเหตุการณ์หรือแม้แต่จัดแค็ตตาล็อกขนาดเสื้อยืดสำหรับทุกคนในทีม ทำให้รายการเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการแชร์ข้อมูลและสร้างกระบวนการขนาดย่อม

เราตื่นเต้นที่จะแบ่งปันว่ารายการกำลังจะได้รับการปรับปรุงด้านภาพ ซึ่งจัดเรียงลักษณะและความรู้สึกในการใช้งานของไลบรารีเอกสารใหม่ โดยที่คุณค่าหลักและประสิทธิภาพของรายการจะยังคงเดิมไว้ การอัปเดตของรายการ SharePoint Online นี้นำประสบการณ์ของผู้ใช้ใหม่ ซึ่งจัดเรียงลักษณะและความรู้สึกในการใช้งานใหม่ให้กับไลบรารีเอกสารใหม่ที่ทันสมัย ก่อนอื่นคุณจะสังเกตเห็นด้านบนสุดของหน้าต่างที่ได้รับการอัปเดตซึ่งมีการดำเนินการด่วนสำหรับงานของรายการที่ถูกใช้บ่อย รายการจะเหมาะสมต่อการใช้งานด้วยมือถือมากขึ้นผ่านเบราว์เซอร์มือถือบนทุกอุปกรณ์ และคุณจะได้รับประสบการณ์ที่ดีเมื่อนำทางรายการผ่านแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ใหม่

การรวมกับ Microsoft PowerApps และ Microsoft Flow กำลังมา—เรายังตื่นเต้นที่จะประกาศว่าแผนการรวมกับ Microsoft PowerApps และ Microsoft Flow (ซึ่งประกาศไปเมื่อสัปดาห์ก่อน) ได้ถูกวางแผนให้สร้างลงไปในไลบรารีเอกสารและรายการของ SharePoint Online ซึ่งจะช่วยทำให้กระบวนการทำงานของทีมของคุณเป็นอัตโนมัติ โดยเฉพาะในระหว่างที่งานยุ่ง สิ่งที่ดีคือ SharePoint สามารถถูกเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลทั่วโลกได้โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือมีความยุ่งยากในการพัฒนามาก

ปุ่ม เพิ่มโฟลว์ ในรายการ SharePoint Online จะนำคุณไปสู่ เพิ่มโฟลว์ใหม่ และไปยังตัวออกแบบ Microsoft Flow

ประสบการณ์หน้าทันใหม่ที่สวยงาม—อินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะทำงานบนการสร้างหน้าสมัยใหม่เพื่อสร้างเนื้อหาแบบมัลติมีเดีย เช่น รายการการเดินทาง หรือข้อมูลเกี่ยวกับการปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยใช้ประสบการณ์การเขียนหน้าที่ลื่นไหล อินไลน์ และมีการตอบสนอง หน้าคือวิธีที่ดีในการสื่อสารและรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งข้อมูล เราได้อัปเดตประสบการณ์การเขียนหน้าเพื่อทำให้คุณไม่ต้องใช้ความพยายามในการเพิ่มเนื้อหาอย่างง่ายและ Web Part ที่ทรงพลัง หน้าที่คุณสร้างสามารถถูกแชร์ได้และเป็นส่วนหนึ่งของ Office Graph ผู้ใช้จึงสามารถค้นหาหน้าของคุณได้อย่างง่ายดาย และหน้าสมัยใหม่ของเราแสดงอย่างสวยงามบนหน้าจอทุกขนาด

SharePoint จะทำให้พอร์ทัลและหน้าที่เผยแพร่ออกไปทันสมัยขึ้นด้วยการออกแบบใหม่ที่ตอบสนองดีขึ้นซึ่งสามารถเรียกใช้บนเว็บและในแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint ใหม่ได้ นี่จะรวมถึงการกำหนดตราสินค้าอย่างง่าย เค้าโครงของหน้า การแก้ไขและการสนับสนุนวิดีโอที่บิลด์บน Azure Media ด้วยความสามารถในการเพิ่มฟังก์ชันผ่าน Web Part ที่ทันสมัยซึ่งถูกกล่าวถึงด้านล่าง ขณะนี้ ทุกไซต์ทีมมาพร้อมกันความสามารถในการสร้างและเผยแพร่รายงานและหน้าที่ได้รับการขัดเกลาอย่างมืออาชีพอย่างรวดเร็ว

พื้นที่หน้าสมัยใหม่ถูกสร้างอย่างง่ายดายในเบราว์เซอร์ของคุณเมื่อคลิก เพิ่มหน้า ในไซต์ทีม

กิจกรรมไซต์และความเข้าใจลึกซึ้งในหน้าเนื้อหาไซต์—หน้าเนื้อหาไซต์ของ SharePoint Online กำลังถูกออกแบบใหม่เพื่อช่วยให้เจ้าของไซต์ สมาชิก และผู้เยี่ยมชมเข้าใจถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในไซต์ได้ดีขึ้น หน้าเนื้อหาไซต์จะให้การมองเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาและแผนผังเว็บไซต์ที่ได้รับการดูสูงที่สุด และจะให้เคล็ดลับของไซต์แก่ผู้ใช้ ให้คิดว่านี่คือกิจกรรมและการวิเคราะห์ระดับไซต์ หน้าเนื้อหาไซต์ใหม่จะให้การเข้าถึงอย่างชัดเจนไปยังรายการที่เพิ่ม เอกสาร ไลบรารี ไซต์ย่อย และแอป ปุ่มด่วนใหม่ทั้งหลายจะใหม่จะอนุญาตการเข้าถึงไปยังการกระทำทั่วไปและการตั้งค่าไซต์ที่ลึกกว่านั้น

หน้าเนื้อหาไซต์ที่ได้รับการอัปเดตใน SharePoint Online แสดง การเยี่ยมชมไซต์ และ เนื้อหาที่กำลังเป็นที่นิยม

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ หน้าเนื้อหาไซต์ของ SharePoint Online

แผนการทำงานสำหรับอินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะ

ตามที่คุณเห็น ทีมของเรายุ่งกับการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ไม่เหมือนใครที่จะมาเสริมประสิทธิภาพการทำงานของคุณทั่วทั้งอินทราเน็ตมาโดยตลอด ตั้งแต่ประสบการณ์ส่วนตัวกับผู้คนและเนื้อหาที่สำคัญสำหรับคุณ จนถึงไซต์ทีมและแอปพลิเคชันที่ตอบสนองดีและเต็มไปด้วยเนื้อหา ตลอดจนกระทั่งการทำงานร่วมกันและการจัดการเนื้อหาทั่วทั้งองค์กร

ต่อไปนี้คือสิ่งที่คุณสามารถคาดหวังได้ตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป:

• ประสบการณ์ไลบรารีเอกสารสมัยใหม่ (อยู่ระหว่างการผลิต)
• แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint for iOS (พร้อมใช้งานแล้วใน Apple App Store)
• หน้าแรก SharePoint ใน Office 365 (อยู่ระหว่างการผลิต)
• ประสบการณ์รายการสมัยใหม่
• กิจกรรมไซต์และความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับหน้าเนื้อหาไซต์ (อยู่ระหว่างการผลิต)

และในระหว่างปี 2016:

• แอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ SharePoint for Windows and Android
• การรวมของไซต์ SharePoint และกลุ่ม Office 365
• การสร้างไซต์ที่ง่ายดายและรวดเร็ว
• ประสบการณ์หน้าสมัยใหม่
• ข่าวสารและประกาศของทีมและองค์กร
• การรวม PowerApps และ Microsoft Flow กับ SharePoint

ผู้ชนะรางวัลออกแบบอินทราเน็ต 9 ใน 10 รายเลือก SharePoint เป็นแพลตฟอร์มที่พวกเขาเลือกใช้ (กลุ่ม Nielsen Norman 2016 Intranet Design Awards) ขณะที่คุณกำลังพิจารณาอัปเดตและขยายอินทราเน็ตของคุณ เรารู้ว่า SharePoint จะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสนับสนุนคุณและทีมของคุณในอนาคต เรายินดีรับคำขอฟีเจอร์และคำติชมผ่านทาง Office 365 UserVoice, @SharePoint และ @Office365 บน Twitter และในกล่องความคิดเห็นด้านล่าง เราอยากฟังคำติชมของคุณและใช้ปรับปรุงเพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้คุณเท่าที่จะทำได้

คำถามที่ถามบ่อย

ถาม แพลตฟอร์มมือถือใดที่วางแผนไว้สำหรับแอป SharePoint ใหม่ และเราจะคาดหวังได้เมื่อใด

ตอบ เรากำลังสร้างแอป SharePoint สำหรับ Windows, Android และ iOS เราจะปล่อยแอป SharePoint for iOS ในช่วงท้ายครึ่งแรกของปี 2016 ตามด้วยเวอร์ชัน Windows และ Android ในช่วงท้ายครึ่งปีหลังของปี 2016

ถาม ฉันสามารถใช้แอป SharePoint แบบออนไลน์และในองค์กรได้หรือไม่

ตอบ ได้ แอป SharePoint จะเชื่อมต่อกับสภาพแวดล้อมของคุณไม่ว่าคุณจะใช้ SharePoint Online ใน Office 365, SharePoint 2013 หรือ 2016 ในองค์กร เช่นเดียวกับการปรับใช้แบบไฮบริด

ถาม ฉันสามารถคาดหวังว่าจะได้เห็นหน้าแรก SharePoint ใน Office 365 เมื่อใดและอย่างไร

ตอบ เราจะเปิดตัวหน้าแรก SharePoint ใหม่ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ เริ่มจากเปิดตัวให้แก่ลูกค้าของการจำหน่ายครั้งแรก จากนั้นจึงให้แก่สภาพแวดล้อมการผลิตทั่วโลก เมื่อหน้าแรก SharePoint พร้อมใช้งานสำหรับลูกค้าของ Office 365 ช่อง ไซต์ ที่มีอยู่แล้วในตัวเปิดใช้งานแอป Office 365 จะกลายเป็นช่อง SharePoint และตัวนำทางหลักจะบอกว่า Office 365 > SharePoint

ถาม กลุ่ม Office 365 จะได้ไซต์ทีม SharePoint ตัวเต็มทุกกลุ่มหรือไม่

ตอบ ได้ เมื่อคุณสร้างไซต์ใหม่จากหน้าแรก SharePoint คุณจะถูกขอให้ตั้งชื่อ กำหนดฟอร์มการใช้งาน การจัดประเภท และกำหนดสมาชิกที่เหมาะสม เมื่อคุณเพิ่มสมาชิกระหว่างการเตรียมใช้งานไซต์ คุณจะสร้างกลุ่ม Office 365 ใหม่ไปยัง Azure Active Directory (AAD) ของผู้เช่า กลุ่ม Office 365 ที่มีอยู่แล้วจะได้ไซต์ทีม SharePoint ตัวเต็มเช่นกัน

ถาม ฉันสามารถกำหนดประสบการณ์เริ่มต้นสำหรับไลบรารีเอกสาร SharePoint Online จากเวอร์ชันใหม่หรือเก่าและกลับกันได้หรือไม่

ตอบ ได้ เมื่อต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมจากมุมมองของผู้ใช้และผู้ดูแล โปรดรีวิวบทความ Office Support นี้

The post SharePoint—อินทราเน็ตพกพาอัจฉริยะ appeared first on Microsoft 365 Blog.